วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2552

ฟอร์มเก่ากลับมาแล้ว

ที่มา ไทยรัฐ

ไม่รู้ช้างจะฉุดอยู่หรือเปล่า

แต่อย่างน้อยก็เป็นความอุ่นใจกับรายการปรับฮวงจุ้ยล่าสุดของพรรคเพื่อไทย ยกช้างหินแกะสลักคู่มาตั้งที่ประตูทางเข้าออกของพรรค

นัยว่า “แก้เคล็ด” สถานการณ์ที่กำลังระส่ำระสาย ไร้แม่ทัพถือธงนำ ในขณะที่ขุนศึกบางส่วนจ้องแหกค่ายหนีภาวะแห้งตายไปอยู่กับค่ายใหม่อย่างพรรคภูมิใจไทย

ท่ามกลางข่าวกระเส็นกระสายอาการขบเหลี่ยมกันเองระหว่างสายตรงเลือดแท้ “นายใหญ่” อย่าง “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร กับนายยงยุทธ ติยะไพรัช ลูกน้องที่ร่วมเป็นร่วมตาย

ส่งเด็กในสายออกมาฟัดกันเสียงโหวกเหวกโวยวาย

เรื่องของเรื่อง “หมดตัวเล่น” จะเอามวยตัวหลักมานั่งเป็นหัวหน้าพรรค เอาเข้าจริงก็ไม่มีใครกล้าเสี่ยงเดี้ยงยาว 5 ปี

ชิ่งหนีโทษแบนจากคดียุบพรรค

เพราะตามโปรแกรม “ล้าง 3 น้ำ” ขุดรากถอนโคน “ทักษิณ” เพิ่งผ่านไปแค่ 2 น้ำ คือคิวของพรรคไทยรักไทยมาถึงพรรคพลังประชาชน

พรรคเพื่อไทยจ่ออยู่ในคิวน้ำที่ 3

ใครมานั่งแท่นเก้าอี้หัวหน้าพรรคนำทัพ ก็ทำใจรับชะตากรรมล่วงหน้า

นี่คือเหตุที่มวยเก๋า และคุณสมบัติถูกฝาถูกตัวอย่าง “สารวัตรเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้อาวุโสสูงสุดของพรรค ณ คาบนี้ ต้องบอกปัดตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน

ไม่สนเกียรติประวัติครั้งหนึ่งของชีวิต

และยิ่งไม่คุ้มกันไปใหญ่กับคิวของ “ตัวจริง” ที่ล็อกสเปกกันไว้ที่ชื่อของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวคนเก่งของอดีตนายกฯทักษิณ

เสี่ยงเกินไปที่จะก้าวพรวดพราดเข้ามา

เพราะถ้าเผลอโดนรวบก็จบกัน ยี่ห้อ “ชินวัตร” แทบไม่เหลือ “มวย” ดึงราคา

โดยเงื่อนไขความจำเป็นอย่างที่เห็นๆกัน มันก็เป็นอะไรที่ต้องทำใจยอมรับสภาพกับอาการเครื่องรวนของพรรคเพื่อไทยช่วงถ่ายเลือดแท้

แค่ทรงตัวยืนอยู่ได้ก็เก่งแล้ว

แน่นอนโดยสภาพตั้งลำยังไม่ได้ของพรรคเพื่อไทย รูปเกมถือว่าเข้าทางรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ที่กำลังอยู่ในช่วงขึ้นหม้อ

ไม่ต้องพะวงคู่ต่อสู้

โดยอาการก็อย่างที่เห็นกัน ประชาธิปัตย์เหยียบคันเร่งมิดตั้งแต่ออกสตาร์ต กล้าแม้กระทั่งขุดผีเน่า สปก.4-01 ขึ้นมาท้าทายกระแส

ไม่กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

และถือเป็นปมจิ๊บจ๊อยไปแล้วกับรายการสมนาคุณม็อบพันธมิตรฯ

ล่าสุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติโผแต่งตั้งโยกย้ายเอกอัครราชทูตของกระทรวงการต่างประเทศตามที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ นำเสนอแล้ว

โดยชื่อที่สะดุดตาก็คือ นายพฤทธิพงศ์ กุลทนันทน์ เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง ลูกเขยของ “บุรุษคาบไปป์” น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ขาประจำเวทีม็อบพันธมิตรฯ โยกเป็นอธิบดีกรมสนธิสัญญา

รับงานคุมเรื่องเขาพระวิหาร

จาก “กษิต” มาถึงคิวของลูกเขย “บุรุษคาบไปป์” เครือข่ายม็อบพันธมิตรฯกุมบังเหียนกระทรวงการต่างประเทศ คุมเกมทวงคืนเขาพระวิหาร

นายกฯฮุน เซน ของเขมรไม่หูผึ่งให้รู้ไป

แต่ที่สะดุ้งยิ่งกว่าถูกตบหน้า ม็อบเสื้อแดงที่กำลังเย้วๆ ตะโกนด่ารัฐบาลของนายกฯอภิสิทธิ์ต้องจ่ายบิลให้ม็อบพันธมิตรฯ

หลักฐานฟ้องจะจะว่า แตะมือเหยียบตีนเล่นกันมา

แต่อย่างว่า โดยเงื่อนไขการเมืองภายในประเทศที่ประชาธิปัตย์กำลังขึ้นหม้อ คุมเกมส่วนใหญ่ไว้ได้ นาทีนี้ไม่สนอะไรอยู่แล้ว

ล่าสุด “เทพเทือก” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ออกลีลาหูทวนลม พูดสีหน้าเรียบเฉย

ไม่เคยได้ยินเสียงเรียกร้องของม็อบเสื้อแดง

ไม่สนกระแสต้าน ไม่ให้ราคา หยามคู่ต่อสู้ซึ่งๆหน้า

ฟอร์มเก่ายี่ห้อ “ประชาธิปัตย์” กลับมาอีกแล้ว.


ทีมข่าวการเมือง รายงาน