วันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2552

"บิ๊กมท." กังขาโยกย้ายไม่เป็นธรรม ชี้หนังสือคำสั่งส่อพิรุธ "สว.กำแพงเพชร"จี้นายกฯ ตอบกระทู้ในสภาสูง

ที่มา มติชนออนไลน์

แฉหนังสือย้าย "ปลัดมหาดไทยง" ส่อพิรุธตัวหนังสือ 2 ฉบับใช้เลขไม่เหมือนกัน อดีตผู้ว่าฯ กำแพงเพชรกังขาถึงการโยกย้ายเป็นธรรมหรือไม่ "ชวรัตน์" ยืดอกรับผิดชอบเองหากการโยกย้ายไม่ถูกต้อง "เพื่อไทย" ได้ทีซัดรัฐบาลรังแกข้าราชการ


คนมหาดไทยมึนหนังสือเด้ง-ตั้ง"ส่อพิรุธ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มกราคม มีหนังสือจากสำนักเลขาธิการวุฒิสภา ส่งมายังกระทรวงมหาดไทย ลงนามโดย นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร อดีตผู้ว่าราชการจ.กำแพงเพชรถึงประธานวุฒิสภา เพื่อตั้งกระทู้ถามด่วนนายกรัฐมนตรี ให้ชี้แจงเหตุผลในที่ประชุมวุฒิสภา กรณีการแต่งตั้งโยกย้ายปลัดกระทรวงมหาดไทย เพราะเพิ่งจะดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย ตามมติครม. เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 และการย้ายครั้งนี้ถือว่าเป็นธรรมตามกฎหมายและเป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีหรือไม่

รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทยแจ้งว่า บรรดาข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ตั้งข้อสังเกตการออกหนังสือย้ายนายพีรพล และแต่งตั้งนายวิชัย ในตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา สงสัยว่า อาจจะไม่ใช่หนังสือที่ออกมาจากกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากเลขหนังสือที่ออก ในฉบับแรก ที่เป็นหนังสือแต่งตั้งโยกย้ายนายพีรพล เลขที่ มท. 0100 / 222 ส่วนคำสั่งแต่ตั้งนายวิชัย เลขที่ มท. 0100 / 502 ซึ่งหนังสือทั้ง 2 ฉบับ เป็นหนังสือลับ และลงวันที่ 20 มกราคม 2552 เหมือนกัน หากออกที่กระทรวงมหาดไทยจริง ตัวเลขหนังสือจะต้องไม่ห่างกันถึง 280 เลข เพราะกระทรวงมหาดไทย ไม่มีการทำหนังสือลับมากมายขนาดนั้นในวันเดียว

"อีกทั้งยังตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า ตัวหนังสือของหนังสือทั้ง 2 ฉบับ เป็นคนละแบบกัน ฉบับหนึ่งเป็นตัวเลขไทย และอีกฉบับเป็นตัวเลขอารบิค ทำให้เชื่อได้ว่า คนออกหนังสือต้องออกจากคนละที่และคาดว่าหนังสือดังกล่าวออกจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนำมาให้นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เซ็นก่อนจะเข้าประชุมครม. เพียงไม่ถึงชั่วโมง"รายงานข่าวระบุ


นายกฯปัดกลุ่มเนวินกดดันเด้งปลัดฯ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนยันรัฐบาลมีเหตุผลที่จะชี้แจงศาลปกครองหาก นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.)และจะยื่นศาลปกครอง กรณีมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบคำสั่งให้ย้ายไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้สัมภาษณ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 21 มกราคม ว่า การย้ายรัฐบาลไม่ได้กล่าวหาว่ามีความผิด และคงจะได้พูดคุยกับนายพีรพล เมื่อมารายงานตัวที่ทำเนียบ และยังปฏิเสธกระแสข่าวรัฐมนตรีกลุ่มเพื่อนเนวินอยู่เบื้องหลังการกดดันให้ย้าย เพราะ ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องการกดดันอะไร

ต่อมาเวลา 09.00น. นายอภิสิทธิ์ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐเอกชน (กรอ.) ทั้งนี้มี นายวิชัย ศรีขวัญ ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยร่วมประชุมด้วย โดยก่อนการประชุมนายอภิสิทธิ์เข้าไปแสดงความยินดีกับนายวิชัยด้วย


ปลัดมหาดไทยใหม่รับหนีการเมืองไม่พ้น

นายวิชัย กล่าวภายหลังประชุมถึงเสียงวิจารณ์ได้รับตำแหน่งเพราะการเมืองและเป็นคนจังหวัดเดียวกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ว่า ไม่ลำบากใจและไม่หนักใจ เมื่อเป็นข้าราชการก็ต้องทำตามคำสั่งและนโยบายรัฐบาล ยืนยันหลังจากได้รับการแต่งตั้งยังไม่ได้เจอนายสุเทพเลย กระทรวงมหาดไทยมียุทธศาสตร์วางไว้แล้ว สามารถทำงานต่อได้เลย และพร้อมพูดคุยกับนายพีรพล ในเรื่องการทำงาน เป็นพี่น้องกันอยู่แล้ว ส่วนเป็นห่วงหรือไม่ว่าเมื่อมาจากการเมือง อนาคตถ้ามีการเปลี่ยนแปลงต้องถูกกย้าย นายวิชัย กล่าวว่า ไม่ห่วง เป็นข้าราชการต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่คิดว่าตำแหน่งที่ได้รับเป็นเผือกร้อน

นายวิชัย กล่าวว่า เรื่องแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงต้องเกี่ยวข้องกับการเมืองในทุกๆ ตำแหน่ง อย่างตำแหน่งของปลัดกระทรวงก็ต้องเสนอโดยรัฐมนตรีต่อ ครม.เช่นเดียวกับตำแหน่งผู้ว่าฯ และอธิบดี ปลัดกระทรวงก็เป็นผู้เสนอต่อรัฐมนตรีเพื่อเสนอต่อ ครม.ดังนั้น มันก็ต้องเกี่ยวกับการเมืองหนีไม่พ้น เมื่อถามส่วนตัวเมื่อรับตำแหน่งแล้วจะเสนอปรับย้ายใครหรือไม่เพื่อทำงานได้สะดวก นายวิชัย หัวเราะ พร้อมกล่าวว่า ไม่มีการทำเช่นนั้น

"ถ้าพูดว่าเป็นการสนองตอบนักการเมืองก็ถูก ไม่ผิด เพราะเมื่อรัฐบาลมีนโยบายอะไรก็ทำตามนโยบายนั้นๆ เปรียบเหมือนเหรียญ 2 ด้าน ฝ่ายการเมืองเป็นผู้มอบนโยบาย ส่วนฝ่ายข้าราชการประจำต้องไปทำงานให้สำเร็จ"


มท.1ชี้โยกย้ายขรก.เรื่องปกติ

ที่กระทรวงมหาดไทย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ถือเป็นเอกสิทธิ์ หากนายพีรพล รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ที่จะฟ้องร้องต่อศาลชั้นต้น ศาลทั่วไป หรือศาลปกครอง ส่วนความเหมาะสม ที่แต่งตั้ง นายวิชัยเป็นปลัดกระทรวงคนใหม่แทนนั้น มีการพิจารณามาก่อนแล้ว และนายสุเทพ รองนายกฯก็เห็นว่าเป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย

นายชวรัตน์ กล่าวว่าการโยกย้ายข้าราชการประจำ ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เพิ่งจะเริ่มมีในรัฐบาลนี้ แต่เป็นเรื่องของความจำเป็นในแต่ละกระทรวงซึ่งถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาในการทำงาน ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งหรือมีอคติ และไม่ได้ถูกใครกดดัน เพราะทำงานกับใครก็ได้ เมื่อนายสุเทพสุเทพ เห็นว่า นายพีรพล มีความจำเป็นตนก็ไม่ได้ขัดข้อง ส่วนนายพีรพลต้องการทำงานที่สำนักนายกฯหรือไม่นั้น เห็นว่าต้องเคารพผู้บังคับบัญชา

"การที่ตั้งนายวิชัย ขึ้นเป็นปลัด ไม่เกี่ยวกับทหาร แต่พิจารณาจะลำดับอาวุโส ส่วนการที่รัฐบาลถูกวิจารณ์ว่า เมื่อเข้ามาย้ายคนของรัฐบาลเก่านั้น ถามหน่อยว่ามีรัฐบาลชุดใดบ้างที่ไม่มีการย้าย"


ลั่นขอรับผิดเองหากย้ายไม่ชอบ

ส่วนการย้ายปลัดมหาดไทยเหมือนเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู หากผู้ว่าราชการจังหวัดไม่สนองนโยบายของรัฐ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ไม่ใช่ การทำทุกอย่างเป็นหน้าที่ เหมือนเกมกีฬา จะต้องมีการชิงเหรียญทอง ดังนั้นต้องเล่นให้ดีที่สุด หากทำไม่ดีก็ต้องพิจารณาตัวเอง แม้กระทั่งตนก็เช่นกัน และก็ต้องเดินไปตามเกมจนกว่าจะได้เหรียญทองเช่นกัน ส่วนการย้ายครั้งนี้จะเป็นการกดดันผู้ว่าฯหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคล คนที่ทำงานในหน้าที่ที่ถูกมอบหมายด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร การทำงานอย่างกลัวเก้าอี้ หากกลัวจะทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ

เมื่อถามว่าหากโยกย้ายครั้งนี้เป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จะกระทบความน่าเชื่อถือหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า "เป็นเรื่องที่ผมจะต้องพิจารณาตัวเอง" และยอมรับขณะนี้ตกเป็นเป้าโจมตีฝ่ายค้านอยู่แล้ว


"สุเทพ′ ย้ำเด้งเพื่อความเหมาะสม

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯกล่าวถึงนายพีรพลจะ อุทธรณ์คำสั่งโยกย้าย และฟ้องศาลปกครอง ว่า ไม่กังวลใจ มีสิทธิดำเนินการได้ ต้องดูว่าไม่เป็นธรรมตรงไหน เพราะโยกย้ายเพื่อความเหมาะสม ในการปฏิบัติราชการไม่ได้ไปกล่าวหาว่าร้ายใคร แต่การย้ายไปทำงานที่ทำเนียบเพราะเห็นว่ามีประโยชน์ต่อราชการมากกว่า ส่วนที่บางฝ่ายมองว่ามีเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องนั้น นั่นเป็นข่าวลือ ข่าวลือมีทุกวัน ส่วนกระแสข่าวการโยกย้ายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็เป็นเพียงข่าวลือ

ส่วนจะมีการโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งผู้ว่าฯอีกหรือไม่ โดยเฉพาะสิงห์ขาว (ผู้ที่จบการศึกษาด้านรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่) นายสุเทพกล่าวว่า ต้องไปถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นเรื่องที่จะเห็นสมควรว่าจะทำหรือไม่ทำ เมื่อถามว่า ขณะนี้ผู้ว่าฯบางจังหวัด ยังใกล้ชิดกับขั้วอำนาจเก่า นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ได้กังวล แต่ที่คำนึงคือประสิทธิภาพ ประสิทธิผลการทำงาน

ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้กลั่นแกล้งนายพีรพล ส่วนเหตุผลการย้ายไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดูแลกลุ่มคนเสื้อแดงแต่อย่างใด เป็นเรื่องของการทำงานมากกว่า "ตำแหน่งของคุณพีรพลต้องมารองรับที่สำนักนายกฯ เป็นที่ปรึกษานายกฯโดยทางก.พ.จัดสรรไว้ ตั้งแต่รัฐบาลของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่ใช้ไม่ครบ เรียกว่าตำแหน่งที่สอง เพื่อรองรับข้าราชการระดับ 11 เพราะโยกย้ายจะต้องตัดขาดจากตำแหน่งเดิมเพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นเข้ามารับตำแหน่งใหม่โดยไม่ต้องรักษาการ"


พท.ซัดใช้อำนาจรังแแกขรก.

ขณะที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักชัยกุล ส.ส.เขียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แถลงว่า รัฐบาลกำลังใช้อำนาจรังแกข้าราชการ ถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 268 ที่ห้ามรัฐมนตรีก้าวก่ายหรือแทรกแซงการทำงานของข้าราชการ ขอตั้งข้อสังเกตว่า การโยกย้ายข้าราชการครั้งนี้เกี่ยวข้องกับบุคคลที่สนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรคพลังประชาชนเดิม เนื่องจากมีกระแสข่าวว่า มีการเตรียมการปลดพล.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ และ ข้าราชการอีกหลายหน่วยงาน