โดย เปลว สีเงิน
ที่มา ไทยโพสต์
หมายเหตุไทยอีนิวส์:เปลว สีเงิน แห่งไทยโพสต์ จัดได้ว่าเป็นสื่อที่ตามล้างตามจองเวรเครือข่ายฝ่ายทักษิณได้ทุกเรื่อง อย่างล่าสุดไทยโพสต์ของเปลวเป็นคนเปิดข่าวเองว่าอเมริกางดซีว่าเข้าประเทศของทักษิณ แต่พอข่าวออกมาว่าไม่จริง ไทยโพสต์กลับไม่ยอมแก้ไขข่าวผิดพลาดของตนเอง แต่ทางตรงกันข้ามก็เชียร์ฝ่ายรัฐประหารรัฐบาลเทพประทานได้ในทุกเรื่อง กรณีของพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีพาณิชย์ ที่ถูกข่าวเรื่องอเมริกางดวีซ่าเข้าประเทศเหมือนกัน พอข่าวออกมาว่าไม่ใช่ เปลวก็หันมาจับปากกาแก้ต่างว่าพรทิวา"ถูกใส่ร้าย" และแม้แต่หาเหตุเชียร์ไม่เจอ ก็ยังไปยกเรื่องโหงวเฮ้งมาเชียร์กันจนได้
แต่จาก ๖๐ จะขึ้นเป็น ๘๐-๙๐ หรือ ๙๙.๙๙ นั้น ก็อยู่ตรงจมูก ฮวบเหล็งดี ปากดี กรามดี คางดี สรุปว่า ถ้ายึดมั่นใน ทาน ศีล ภาวนา ให้สม่ำเสมอเขาไว้ จะเสริมให้ยิ่งแก่ยิ่งรวย และยิ่งแก่ยิ่งดัง นั่นแล.."พรทิวา" จะไม่แค่ "นาคาศัย" เท่านั้น นักการเมืองน้อยใหญ่ ไม่ว่าใครก็หวังจะอาศัยเธอทั้งนั้น เธอจะเป็นนักการเมืองหญิงที่ "หญิงยุคใหม่" ซูฮก และยกให้เป็น "ต้นแบบ-หญิงห้าว"!
ตอนนี้ ผมไม่สงสารใครเท่า "คุณพรทิวา นาคาศัย" ตั้งแต่ขึ้นชั้นพรวดพราดมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นกระทรวงหลักใหญ่โตเบ้อเริ่มเทิ่ม เธอก็ถูกดูหมิ่น ดูแคลน ค่อนแคะ ค่อนขอด ต่างๆ นานามาตลอด
ทั้งเรื่องส่วนตัว ทั้งเรื่องไม่เคยงาน ไม่มีประสบการณ์ ถึงจะมีความสามารถอยู่บ้าง ก็เป็นความสามารถยังไม่ถึงระดับจะมาเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ เมื่อมาเป็น ก็คล้ายเป็นรัฐมนตรี "ตู้เซียมซีหยอดเหรียญ" ให้กับคณะปรึกษาเขี้ยวงาแหลม
ล่าสุด ไม่รู้ใครไปปล่อยข่าวว่า "เธออาจเป็นอีกคนหนึ่งที่สหรัฐอเมริกาไม่ให้เข้าประเทศ" ทั้งที่มีโปรแกรมจะไปสหรัฐในเดือนหน้า เล่นเอาเธอต้องตั้งโต๊ะโชว์ "วีซ่า ๑๐ ปี" ให้ดูเมื่อวันจันทร์
และเมื่อวาน (๑๐ ก.พ.) เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำไทย "นายอีริค จี. จอห์น" ต้องออกมาช่วยอุ้มว่า "ข่าวการถอนวีซ่าของนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีพาณิชย์ นั้น ไม่มีความเป็นธรรมสำหรับเธอเลย"
สรุปความว่า ท่านรัฐมนตรีพาณิชย์หญิง "ถูกใส่ร้าย" ไม่มีการถูกแบล็กลิสต์ ไม่มีการถูกถอนวีซ่า ตามที่ "ไอ้โม่งแดง-ไอ้โม่งดำ" ปล่อยข่าวแต่ประการใด!
ความจริงก็น่าเห็นใจ และไม่เป็นธรรมกับท่านรัฐมนตรีพาณิชย์จริงๆ ด้วย ใครจะอิจฉาตาร้อน หรือหวังแซะเก้าอี้เธอ จะยกเหตุเป็นทายาทโพไซดอน หรือมือใหม่หัดขับ ก็ว่ากันไปเถอะ
แต่การปล่อยข่าวแบบนี้ ไม่ใช่ตัวรัฐมตรีเท่านั้นที่เสียหาย ชื่อเสียง "ประเทศไทย" ต้องเสียหายไปกับความเท็จนั้นด้วย เพราะคุณพรทิวาเธออยู่ในฐานะ "ตัวแทนประเทศไทย"!
ผมดูบุคลิก การพูดจาของท่านรัฐมนตรีพาณิชย์หญิงคนนี้แล้ว วันไหน-ที่เธอสลัดความไม่มั่นใจในตัวเองหมดไป และไม่ยอมให้คำค่อนแคะ-ดูแคลนมีอิทธิพลเหนือจิตใจ แล้วดึง "ศักยภาพ" ที่มีอยู่พร้อมในตัวออกมาใช้ให้ได้
"พรทิวา" จะไม่แค่ "นาคาศัย" เท่านั้น นักการเมืองน้อยใหญ่ ไม่ว่าใครก็หวังจะอาศัยเธอทั้งนั้น เธอจะเป็นนักการเมืองหญิงที่ "หญิงยุคใหม่" ซูฮก และยกให้เป็น "ต้นแบบ-หญิงห้าว"!
ผมสังเกตว่าเธอเป็นคน "หัวไว-ใจนักเลง" โครงสร้างเสียง บ่งอนาคตไปได้ใหญ่โต เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจว่า การนอบน้อม และรับฟังผู้ใหญ่ที่เป็น "คณะปรึกษา" นั้น เป็นคุณสมบัติที่ดีของนักบริหาร
แต่ "การรับฟัง" คนละเรื่องกับ "การเชื่อฟัง" ต้องแยกแยะให้ถูก!
ถ้าสามารถทำให้นำไปพูดกันได้ว่า "ท่านรัฐมนตรีหารือกับปลัด-อธิบดีแล้วตัดสินใจสั่งการ" ไม่ใช่ให้เอาไปพูดกันว่า "ท่านรัฐมนตรีสั่งการ ตามที่ที่ปรึกษาตัดสินใจ"
ถ้าเป็นอย่างนี้ได้เมื่อไหร่ละก็ ใคร..ก็ต้านผู้หญิงห้าว-ไฟแรง คนนี้ไว้ไม่อยู่!
แต่ในเอกลักษณ์ "เสียง" นั้น น่าเสียดายอยู่นิด คือ "แฝงวิบาก" ที่ประสานรับกับเค้าโครงหน้า แววตา รอยยิ้ม ซึ่งต้องปลงว่า..นี่คือวาสนาของเธอ ฉะนั้น ก็ต้องเป็นไปตามนั้น!
เดี๋ยวก่อน ต้องเข้าใจคำว่า "วาสนา" ให้ถูกต้องนะครับ คำว่า "วาสนา" ในความเข้าใจคนทั่วไป หมายถึง "ด้านดี" อย่างเดียว แต่ความหมายของคำว่า "วาสนา" จริงๆ แล้ว "ไม่เกี่ยว" ซึ่งก็แค่อะไรที่ "ทำบ่อยๆ" หลีกหนี-หลบเลี่ยงที่จะไม่ทำอย่างนั้นไม่ได้ นั่นแปลว่า..วาสนา!
ใครที่เวลาพูดชอบแลบลิ้นแผลบๆ นั่นก็เรียกว่าวาสนา คือเป็นผลกรรมฝังลึก ลบไม่ออก แกะไม่ออก ติดตัวมาแต่อดีตชาติ
ใครที่ชอบนั่งกระดิกเท้า-สั่นเท้ายิกๆๆๆๆ นั่นก็เรียกว่าวาสนา ใครที่พูดมาก พูดไม่ยอมหยุด อย่างที่เรียกกันว่า "โม้ลิงหลับ" หรือเวลาพูดต้องเกาหัว นั่นก็เป็นเพราะวาสนา
เป็นคนละเรื่อง คนละความหมายที่เรามักใช้คำว่า "วาสนา" ในความหมาย อะไรที่ได้มาฟลุกๆ ได้อย่างที่คนอื่นเขาตะกายมาแทบตายยังไม่ได้ แต่เราอยู่เฉยๆ กลับได้เอา-ได้เอา เรามักเข้าใจว่า แบบนี้คือ "โชควาสนา"
หรืออย่างคุณพรทิวา เดินตามเมีย "คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน" ต้อยๆ ไม่นึก-ไม่ฝัน ใหญ่ท่วมหัวทั้งคุณสมศักดิ์+อนงค์วรรณ นั่งทั้งเก้าอี้เลขาฯ พรรค และเก้าอี้รัฐมนตรีพาณิชย์ ชนิดตาค้างกันทั้งประเทศ!!
นี่ก็ไม่ใช่ในความหมายของคำว่า "วาสนา" นะครับ นั่นเป็นส่วนหนึ่งของ "บุญทำ-กรรมแต่ง" ของเธอ
ก็ย้อนมาถึง "รอยยิ้ม" ที่เป็นวาสนาอันผมพูดค้างไว้ คือรัฐมนตรีพรทิวาจะเป็นคนพูดพร้อมยิ้ม เหมือนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ของคุณสุดารัตน์เขายิ้มหวาน แต่ของคุณพรทิวา นั้น ไม่ใช่ยิ้มหวาน หรือยิ้มที่ทำให้โลกยิ้มตาม หากแต่รอยยิ้มของท่านรัฐมนตรีพาณิชย์ ลองสังเกตดูเถอะ จะเป็นยิ้มที่เรียกว่า
"ยิ้มเหมือนโลกเศร้า" เป็นยิ้มของคน "ไม่สิ้นโศก" จากส่วนลึก!?
เมื่อประกอบเข้าทั้งใบหน้า แววตาที่ค่อนข้างเหม่อลอย และในเสียงผิดลักษณ์หญิง แต่เป็นเอกลักษณ์ "หญิงทรงอำนาจ" และเด็ดขาด นั้น ก็บังเอิญปลายเส้นเสียงเป็นกังวานที่แตกพร่า
ก็ใช่ว่าจะไม่ดีเสียหมดนะครับ ดี-แต่ดีในลักษณะ "ในบุญบารมีที่ได้มานั้น-แฝงทุกข์" แทนที่จะสุขร้อย ถึงแม้มีมรดกแสนล้าน เธอก็จะสุขเต็มที่ได้แค่ ๖๐ ซึ่งนั่นก็ถือว่ามากแล้ว!
แต่จาก ๖๐ จะขึ้นเป็น ๘๐-๙๐ หรือ ๙๙.๙๙ นั้น ก็อยู่ตรงจมูก ฮวบเหล็งดี ปากดี กรามดี คางดี สรุปว่า ถ้ายึดมั่นใน ทาน ศีล ภาวนา ให้สม่ำเสมอเขาไว้ จะเสริมให้ยิ่งแก่ยิ่งรวย และยิ่งแก่ยิ่งดัง นั่นแล