วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

"คำนูณ"ชี้แถลง"ใจ"หนักข้อกว่าประกาศคณะปฏิวัติ

ที่มา มติชนออนไลน์

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ ว่า ภายหลังเผยแพร่แถลงการณ์สยามแดงที่เขียนโดยนายใจ อึ้งภากรณ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผ่านทางเว็บไซด์ต่าๆ มีประชาชนในนามตัวแทนชมรมคนรักในหลวง นำสำเนาแถลงการณ์ดังกล่าวร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญศึกษาติดตามการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการเกี่ยวกับการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ที่มี พล.อ.ณพฤต พันธะจิต ส.ว.สรรหา เป็นประธาน

นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ในฐานะโฆษกกมธ.ฯ กล่าวเมื่อวันที่ 11 ก.พ. ถึงแถลงการณ์สยามแดงที่เขียนโดยนายใจ อึ้งภากรณ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่า แถลงการณ์ฉบับสุดท้ายของนายใจที่เผยแพร่อยู่ในเว็บไซต์ ขณะนี้ ส่วนตัวถือว่า มีความรุนแรงมากกว่าแถลงการณ์ของคณะราษฎรในการปฎิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองวันที่ 24 มิ.ย.2475 เสียอีก ไม่จำเป็นต้องพิจารณาแล้วว่า ขัดกฎหมายอาญา มาตรา 122 หรือไม่ เพราะเนื้อหาเข้าขั้นกบฏในราชอาชอาณาจักร เนื่องจากมีการสนับสนุนให้จัดตั้งพรรคการเมืองในระบบสาธารณรัฐ ถือว่า เกินขอบเขตที่จะอ้างเสรีภาพในทางวิชาการ ดังนั้นจึงเชื่อว่าคงยากที่นายใจจะกลับเข้าประเทศไทยอีกครั้ง

นายคำนูณ กล่าวอีกว่า สถานการณ์ทางการเมืองมีการผนวกกันหลายส่วนทั้งการจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ การต่อต้านทหาร การคัดค้านการรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 และการล้มรัฐบาลทำให้ประเด็นการเมืองแหลมคมมากจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลที่ประกาศนโยบายเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ต้องแสดงความชัดเจนว่า ทิศทางปฎิรูปการเมืองในอนาคตจะเป็นอย่างมีเป้าหมายอะไร รวมทั้งต้องปฎิรูปสื่ออย่างจริงจัง ไม่ใช่เปลี่ยนแค่โลโก้สถานี แต่ต้องดำเนินการกับวิทยุชุมชนที่จาบจ้วง ให้ข้อมูลผิดๆกับประชาชน ปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกในสังคม

ส่วนข้อเรียกร้องของนักวิชาการที่จะให้ปรับปรุงมาตรา122 ซึ่งเป็นข้อหาเกี่ยวกับการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ นั้น นายคำนูณ กล่าวว่า กฎหมายดังกล่าวเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญม.8 ที่ระบุว่าองค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆมิได้ ซึ่งบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญไทยก็เป็นไปตามลักษณะพิเศษของสังคมไทยที่อาจจะแตกต่างกับสังคมอื่นโดยเฉพาะโลกตะวันตก จะนำมาเปรียบเทียบกันมิได้

“กรณีนี้มีการตีความหลายทาง ด้านหนึ่งก็มองว่าการดำเนินการตามมาตรา 122 อย่างเคร่งครัดจะทำให้เกิดแรงต่อต้านสูง แต่ถ้ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลยถามว่ากฎหมายจะมีค่าอะไร"นายคำนูณ กล่าว