วันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

สงครามประชาชน

ที่มา ไทยรัฐ

ปัญหาวิกฤติการเมือง มีอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น หรือ ต้องหลอกตัวเองว่ามองไม่เห็น เป็นหอกข้างแคร่ที่อันตรายต่อระบบการปกครองประเทศ ผมเคยเกริ่นไปนานแล้วว่า ถ้าปล่อยให้เล่นการเมืองกันเลยเถิดขนาดนี้ จะสิ้นชาติ คนที่ตะลุมบอนกันอยู่ในมรสุมการเมืองก็จะไม่สง่างาม

และจะเกิดวิกฤติแห่งความศรัทธา

วันนี้แม้ รัฐบาลอภิสิทธิ์ จะพยายามคุมเกม ให้ดูเหมือนว่า บ้านเมืองสงบราบรื่น แต่จริงๆแล้วกำลังจะเกิดคลื่นใต้น้ำ

ลูกใหญ่ ในขณะที่ไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นรัฐบาลจะขั้วประชาธิปัตย์ หรือเพื่อไทย

บ้านเมืองก็จะล่มจมเช่นกัน

ไม่ลำพังแค่คนเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดง แต่กองทัพ กระบวน การตรวจสอบ กลุ่มคนในสังคม นักวิชาการ นักคิด ก็จะถูกดึงเข้ามาสู่ห้วงมรสุมไม่มีวันสิ้นสุด และเมื่อถึงจุดสุดท้ายก็จะกลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน

เกิดกลียุค

ปรากฏการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในบางพื้นที่บางจังหวัดของภาคอีสาน ค่อนข้างจะละเอียดอ่อน ปรากฏการณ์ทางความคิดของสังคมบางส่วนที่ต้องการ แบ่งแยกการปกครอง กั้นรั้วแสดงถึงอาณาเขต

แบ่งประเทศ

ผมเชื่อว่า หน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงก็รู้แก่ใจดีที่สุด และผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็รู้อยู่เต็มอก นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองนายกฯ สุเทพ เทือกสุบรรณ หรือ ครม.คนอื่นๆ ไม่สามารถที่จะเข้าไปในบางพื้นที่บางจังหวัด หรืออาจจะเจอปรากฏการณ์ปารองเท้า เช่นเดียวกับผู้นำสหรัฐฯหรือผู้นำจีน

พยายามจะบริหารประเทศด้วยความทุลักทุเล

ความไม่สง่างาม วิกฤติศรัทธาไม่ต้องไปวิพากษ์วิจารณ์ เห็นสภาพแล้ว ไม่มีความมั่นใจเลยว่ารัฐบาลชุดนี้จะอยู่ครบเทอม ความกระเหี้ยนกระหือรือ กับดักการเมืองที่จะย้อนมาเชือดคอตัวเอง

ให้ซุปเปอร์สร้างภาพก็หนีไม่พ้น

ผมได้อ่านข่าวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โฟนอินมาให้กำลังใจ ส.ส.เพื่อไทยแล้วอดวิตกไม่ได้ แต่ละคำพูดของคนที่หลังจนตรอก นอกจากจะต้องสู้ยิบตาแล้ว ยังจะใช้เป็นคะแนนสงสารที่จะปลุกระดมให้เกิดแนวร่วมถาวรที่พร้อมจะยอมตายถวายชีวิต

ถ้าผมสู้แพ้ผมก็จะแอบเข้ามาตายในภาคอีสาน ผมไม่ยอมตายเมืองนอกแน่นอน ผมจะกลับมาตายเมืองไทย

สงครามการเมืองที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นสงครามประชาชน ต่อให้มีเส้นมีพี่เลี้ยงก็เอาไม่อยู่ สื่อ ทหาร กระบวนการตรวจสอบก็ช่วยไม่ได้ มีแต่หายนะไปด้วยกัน.

หมัดเหล็ก