วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2552

แดงล้อมทำเนียบ แม้วนัดแฉ ผู้มีบารมีนอกรธน.

ที่มา ข่าวสด

คือใคร-มายุ่งอย่างไร "3หมื่น"ตีนตบกระหึ่ม ลั่นยืดเยื้อ-ไล่รัฐบาล มาร์คเฉยเชื่อตร.เอาอยู่




แดงเถือก- ม็อบเสื้อแดงจำนวนมากนัดรวมตัวกันที่สนามหลวง ก่อนเคลื่อนขบวนยาวเหยียดไปตามถนนราชดำเนิน เข้าปิดล้อมทำเนียบ โดยมีรถเครนคอยยกตู้คอนเทนเนอร์ที่ขวางทางออกเป็นระยะๆ ประกาศชุมนุมยืดเยื้อจนกว่ารัฐบาลจะลาออก

ม็อบแดงปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลเรียบร้อย ระดมพลทัพใหญ่เคลื่อนจากสนามหลวงมาถึงภายในไม่กี่ช.ม. แม้จะเจอตู้คอนเทนเนอร์ รถผู้ต้องขัง และตำรวจ-ตชด.จำนวนมากตั้งแถวขวาง แต่ก็ต้านไม่อยู่ผลักดันจนท.จนต้องล่าถอย ใช้รถเครนยกตู้ทิ้งลงคลอง แล้วยังยกไปตั้งขวางประตูเข้าออกทำเนียบ แกนนำตั้งเวทีใหญ่บนสะพานชมัยมรุเชฐ ประกาศปักหลักยืดเยื้อจนกว่ารัฐบาลมาร์คจะลาออก ผบช.น. ประเมินช่วงสูงสุดม็อบมีจำนวน 3 หมื่น เชื่อตร.ยังรับสถานการณ์ได้ โดยมีทหาร 21 กองร้อย 3 พันนายมาสนับสนุน "มาร์ค"กับ"เทือก"เข้าทำงานทำเนียบตอนเช้าก่อนออกไปก่อนที่ม็อบจะเคลื่อน ยันไม่แทรกแซงปล่อยเป็นหน้าที่เจ้าหน้าที่จัดการตามกฎหมาย ช่วง 2 ทุ่ม"แม้ว"โฟนอินเข้ามาท่ามกลางเสียงเฮ เขย่าหัวใจ-ตีนตบดังกระหึ่ม ประกาศตั้งแต่ 27 มี.ค.จะวิดีโอลิงก์เข้ามาทุกวัน นัดรอฟังผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญคือใคร และเข้ามายุ่งการเมืองอย่างไร จะแฉให้หมด ปลุกสู้ทวงคืนประชาธิปไตยและศักดิ์ศรีประเทศไทย

-ทัพเสื้อแดงทยอยถึงสนามหลวง

เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงบริเวณท้องสนามหลวงว่า ตั้งแต่เช้าตรู่มีผู้ชุมนุมจากต่างจังหวัดทยอยเดินทางด้วยรถโดยสารและรถตู้มาถึงท้องสนามหลวงจำนวนมาก ส่วนใหญ่ต่างนำสัมภาระ เสื้อผ้า และอุปกรณ์พักค้างคืนติดตัวมา ทั้งนี้แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ตั้งเวทีปราศรัยขนาดใหญ่ หันหน้าเวทีไปทางวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีแนวร่วมจากกลุ่มต่างๆ สลับกันขึ้นเวทีปราศรัย ท่าม กลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบประมาณ 200 คนดูแลความสงบเรียบร้อย ส่วนการจราจรรอบสนามหลวงติดขัดอย่างมาก เนื่องจากมีผู้ชุมนุมนำรถยนต์ส่วนตัวมาจอดรอบสนามหลวง ทั้งบริเวณถนนราชดำเนิน และถนนรอบสนามหลวง และสะพานพระปิ่นเกล้า

ต่อมาเวลา 09.59 น.นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง พร้อมแนวร่วมทำพิธีบวงสรวงเทพยดา องค์จตุคามรามเทพ และราหู เพื่อให้การชุมนุมครั้งนี้ประสบความสำเร็จและปลอดภัย

-นำรถเครนไปยกตู้คอนเทนเนอร์

จากนั้นเวลา 10.10 น.นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. กล่าวว่า ขณะนี้เกิดปรากฏการณ์รัฐบาลสั่งการเจ้าหน้าที่ขนส่งทางบก ทหารและตำรวจไปข่มขู่ผู้ประกอบการรถยนต์ไม่ให้รับจ้างผู้ชุมนุมเสื้อแดงเหมามาที่สนามหลวง นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟบางแห่งไม่ขายตั๋วให้กับผู้ชุมนุม รวมทั้งมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีนำรถยนต์ไปจอดขวางหน้าบ้านแกนนำบางคน ทำให้ไม่สามารถเดินทางมาได้ กลุ่มเสื้อแดงบางแห่งจำเป็นต้องตอบโต้ อาทิ จ.ขอนแก่น

นายจตุพรกล่าวอีกว่า ส่วนบริเวณทำเนียบรัฐบาลมีการนำตู้คอนเทนเนอร์มาตั้งวางขวาง ทำเหมือนทำเนียบเป็นท่าเรือคลองเตย แต่กลุ่มเสื้อแดงเตรียมรับมือไว้แล้วโดยจัดเตรียมรถยกขนาดใหญ่ 2 คันไว้คอยยกตู้คอนเทนเนอร์ออกแล้ว ทั้งนี้รัฐบาลไม่จำเป็นต้องนำลวดหนาม รถบด รถดับเพลิงและตู้คอนเทนเนอร์มากีดขวาง เนื่องจากพวกเราจะไม่บุกยึดภายในทำเนียบ รวมทั้งกระแสข่าวจะไปยึดสนามบินสุวรรณภูมิก็ไม่เป็นความจริง

-"ทักษิณ"ใส่เสื้อแเดงโฟนอินทุกวัน

นายจตุพรกล่าวต่อว่า การเคลื่อนขบวนของกลุ่มเสื้อแดงจะใช้เส้นทางถนนราชดำเนินทั้งสองฝั่ง ก่อนหยุดปักหลักที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเพื่อประกาศจุดยืน แล้วเคลื่อนต่อไปยังทำเนียบ ทั้งนี้ หลังจากยึดพื้นที่โดยรอบทำเนียบ อาจใช้ยุทธศาสตร์ดาวกระจายไปยังสถานที่ราชการสำคัญต่างๆ แต่ต้องประเมินสถานการณ์วันต่อวันอีกครั้ง การชุมนุมครั้งนี้พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะสื่อสารผ่านวิดีโอลิงก์มายังสถานที่ชุมนุมทุกวัน โดยพ.ต.ท.ทักษิณจะสวมเสื้อสีแดง หากวันนี้พร้อมก็อาจจะสื่อสารกัน

นายจตุพรกล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้กลุ่มเสื้อแดงจะยกระดับการต่อสู้เพื่อขับไล่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ แต่คิดว่าผู้บริหารประเทศตัวจริงไม่ใช่นายอภิสิทธิ์ แต่เป็นอำมาตย์คนหนึ่งและขณะนี้แสดงตนออกมาแล้ว หากยังปล่อยให้อำมาตย์คนนี้มีอำนาจอยู่ประเทศจะไม่เจริญก้าวหน้า นอกจากนี้การชุมนุมมีกระแสข่าวว่าทหารและตำรวจส่งคนเข้ามาก่อกวน ตนอยากฝากถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากต้องการส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาสังเกตการณ์ขอให้มาแสดงตนจะได้ไม่มีปัญหาเหมือนที่ผ่านมา เพราะอาจกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว คิดว่าพล.อ.อนุพงษ์น่าจะมีเกียรติและคงไม่มีคำสั่งหรือการกระทำเช่นนั้นอีก

-คุยตั้งเวทีชุมนุมยืดเยื้อเป็นเดือน

นายจตุพรกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทราบว่ามีทหารเข้ามาประจำการภายในและผลักดันตำรวจออกมาด้านนอก การกระทำดังกล่าวทำเหมือนตำรวจเป็นพลเมืองชั้น 2 ทั้งนี้ภายหลังเสื้อแดงไปปักหลักรอบทำเนียบ หากนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ จะเข้าทำเนียบก็เข้ามาได้ กลุ่มเสื้อแดงยังใช้ข้อเรียกร้องเดิมคือขับไล่รัฐบาลและนายอภิสิทธิ์ ทั้งนี้อยากขอร้องไปยังม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ขอให้ส่งรถสุขามาด้วย ครั้งที่ผ่านมาส่งมาเพียง 5 คัน กทม.อ้างว่าต้องใช้ในการประชุมอาเซียนซัมมิต แต่ครั้งนี้ไม่มีข้ออ้างแล้ว การชุมนุมครั้งนี้ยืนยันยืดเยื้อยาวนาน ไม่ใช่แค่ 3-4 วัน แต่เป็นเดือน โดยจะตั้งเวทีปราศรัยที่สะพานชมัยมรุเชฐ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนเวทีปราศรัยที่สนามหลวงมีประกาศว่าช่วงเช้ามีผู้ชุมนุมบางส่วนไปรับเช็ค 2,000 บาทก่อนจะตามมาสมทบ บางส่วนนำเช็คมาบริจาคเป็นทุนชุมนุมขับไล่รัฐบาล ขณะที่นางไพจิตร อักษรณรงค์ อดีตนักร้องชื่อดัง ถูกทุบกระจกรถยนต์เสียหายระหว่างมาร่วมชุมนุม

-บช.น.ระดมไฮเทคจับตาม็อบ

เมื่อเวลา 08.00 น.ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 1 บช.น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.เป็นประธานประชุมร่วมผู้บังคับบัญชาศปก.ตร. โดยมีพล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รอง ผบ.ตร. เป็นประธาน ก่อนประชุม ผบช.น. ทดสอบนำสัญญาณภาพจากทีวีทุกช่อง รวมทั้งทีวีที่สนับสนุนแต่ละฝ่าย อาทิ ดีทีวี และเอเอสทีวี ถ่ายทอดเข้ามายังศูนย์ เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานโดยบันทึกเทปและเฝ้าฟังการนำเสนอข่าวทุกความเคลื่อนไหว และตรวจสอบกล้องซีซีทีวีของศูนย์สืบสวนบช.น. และบก.จร. ที่เป็นชุดใหม่มีขนาดเล็กเก็บซ่อนตามจุดสำคัญต่างๆ ตลอดเส้นทางการเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมและพื้นที่โดยรอบทำเนียบรวมทั้งสถานที่ใกล้เคียง

ต่อมาเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.วรพงษ์แถลงภายหลังประชุมว่า สันติบาลรายงานข้อมูล ณ เวลานี้มีผู้ชุมนุมที่สนามหลวงอยู่ 15,000 คน ยังมีทยอยจากต่างจังหวัดเข้ามาเพิ่มอีก ซึ่งประเมินไว้ที่ 25,000 คน ตำรวจยังไม่ชี้ชัดว่าจะมีความรุนแรง แต่มาตรการต่างๆ เตรียมป้องกันเอาไว้ไม่ประมาท โดยเน้นย้ำกำลังพลให้อดทนอดกลั้น พยายามดูแลกำลังพลไม่ให้เครียด ไม่ให้เหนื่อยเกิน การส่งกำลังบำรุงปรับแผนให้เหมาะสม ผลัดเปลี่ยนจาก 24 ช.ม.ต่อผลัดเป็นผลัดละ 12 ช.ม. ระหว่างพักมีที่พัก ที่นอน พัดลม ทีวีบริการ ยังเชื่อมั่นแกนนำผู้ชุมนุมที่ยืนยันจะชุมนุมอย่างสงบ ปราศจากอาวุธ ถูกต้องตามกฎหมาย ตำรวจและแกนนำคิดตรงกันเป็นห่วงเรื่องมือที่สาม การรักษาความปลอดภัยทำเนียบ ความรับผิดชอบหลักเป็นของตำรวจ ส่วนทหารมาในฐานะเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานตามที่ร้องขอ

-ไม่มีคำสั่งตัดสัญญาณโฟนอิน

ผบช.น.กล่าวอีกว่า ตนไม่ได้รับคำสั่งเรื่องสกัดสัญญาณที่พ.ต.ท.ทักษิณจะโฟนอินมาถึงผู้ชุมนุม ส่วนการสกัดผู้ชุมนุมจากต่างจังหวัดก็ไม่มีเช่นกัน เป็นเรื่องสิทธิตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ตำรวจเพียงตั้งด่านตรวจค้นอาวุธและสิ่งของผิดกฎหมาย ยาเสพติด ซึ่งทำตามปกติ ด่านตรวจ 200 จุดทั่ว กทม.คืนที่ผ่านมายังไม่มีรายงานพบสิ่งผิดกฎหมาย ส่วนการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณก็เฝ้าฟังและวิเคราะห์โดยมีฝ่าย กฎหมายดูแลอยู่ สำหรับการปฏิบัติหากผู้ชุมนุมบุกรุกเข้าทำเนียบก็จะปฏิบัติไปตามขั้นตอนที่ศาลปกคลองวางแนวให้คือจากเบาไปหาหนัก เป็นไปตามหลักสากล

-วางตู้คอนเทนเนอร์ปิดทางม็อบ

ส่วนการรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาลช่วงเช้า ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีทหาร ตำรวจ และอปพร. เกือบหมื่นนายกระจายกำลังอยู่เต็มพื้นที่ทำเนียบ นอกจากนี้ภายในรั้วทำเนียบยังมีรถดับเพลิง รถน้ำ รถบดถนน รถขังผู้ต้องหา และลวดหนามมากั้นเป็นแนวรอบกำแพงรวมทั้งด้านบนกำแพงด้วย ขณะเดียวกันยังมีตู้คอนเทนเนอร์วางกั้นตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะสะพานอรทัย เส้นทางเข้า-ออกทำเนียบ มี 2 ตู้วางสลับฟันปลาเพื่อเปิดทางให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ผ่านเข้า-ออก

ด้านสะพานมัฆวานรังสรรค์ มีตู้คอนเทนเนอร์และรถขังผู้ต้องหาขวางกั้น โดยเปิดช่องให้ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รวมถึงรถของนายกฯ และ รมต.ผ่านเข้าออกได้เพียงช่องทางเดียวเท่านั้น ส่วนบริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐไม่มีสิ่งกีดขวางเหมือนที่ผ่านมา มีเพียงรั้วเหล็กของทำเนียบปิดทางเข้าถนนเลียบคลองเปรมประชากรเพียงชั้นเดียวเท่านั้น แต่เป็นที่น่าสังเกตว่ามีตู้คอนเทนเนอร์ 8 ตู้วางเรียง 2 ชั้น ปิดตายไม่ให้ผู้ชุมนุมใช้เส้นทางเลียบคลองเปรมประชากรผ่านเชิงสะพานอรทัย เพื่อไปบริเวณถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม บริเวณประตู 7 ได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่เตรียมจัดเส้นทางถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษมไว้ให้รถของผู้ใหญ่ในรัฐบาลใช้เดินทางเข้าทำงานในทำเนียบ

ส่วนบริเวณประตูทางเข้า-ออกทำเนียบทั้งหมด มีสิ่งกีดขวาง อาทิ รถบดถนน รถขังผู้ต้องหา ลวดหนามกั้นตลอดแนว บรรยากาศของถนนรอบทำเนียบมีรถสัญจรไปมาบางตา เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่รู้ข่าวการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงจึงหลีกเลี่ยงใช้เส้นทาง ขณะที่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทำเนียบส่วนใหญ่ลาราชการเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น

-"มาร์ค"พร้อมคุย"แม้ว"ถ้ายอมรับกม.

เมื่อเวลา 07.20 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ไปแสดงความยินดีครบรอบ 39 ปีของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 โดยมีนายประวิทย์ มาลีนนท์ ประธานผู้บริหารให้การต้อนรับ จากนั้นเวลา 07.30 น.นายกฯ พร้อมด้วยนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ร่วมออกรายการเรื่องเล่าเช้านี้ โดยกล่าวเรียกร้องกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวภายใต้กรอบกฎหมาย ซึ่งข้อเรียกร้องปฏิรูปการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐบาลสนใจและดำเนินการ แต่ต้องเข้าใจว่าไม่มีเพียงกลุ่มเดียวที่คิดแบบนี้ หากทำตามคนกลุ่มอื่นๆ ก็จะออกมา รัฐบาลจึงต้องรับฟังจากทุกกลุ่มและต้องเป็นกลาง ส่วนการรับมือนั้นยืนยันรัฐบาลไม่ประมาท ทางการข่าวรายงานตลอด เพราะรู้ดีว่าครั้งนี้ความเข้มข้นอาจมากกว่าที่ผ่านมา แต่ยืนยันจะไม่ทะเลาะกับใคร ใช้ความนิ่มนวล เพียงแต่รัฐบาลต้องรักษากฎหมาย แม้กลุ่มเสื้อแดงจะชุมนุมยืดเยื้อ รัฐบาลและตนก็จะเดินหน้าทำงานต่อ

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะพูดคุยกับพ.ต.ท. ทักษิณ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้มีเรื่องของกฎหมายอยู่ แม้จะไม่ใช่อุปสรรค แต่เป็นหน้าที่ที่รัฐบาลต้องรักษาความถูกต้องและกฎหมาย ถ้าพ.ต.ท. ทักษิณยอมรับในกระบวนการทางกฎหมายคงจะพูดคุยกันได้อยู่แล้ว การเคลื่อนไหวหรือการชุมนุมใดๆ ขอให้ใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย เพราะขณะนี้สังคมแสดงออกชัดเจนว่าต้องการให้ประเทศเดินหน้า ที่สำคัญไม่ควรนำบุคคลและสถาบันที่ทุกคนเคารพและเทิดทูนมาอยู่ในวังวนของความขัดแย้ง

ปะทะ- ม็อบเสื้อแดงเปิดฉากปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นระยะๆ ระหว่างเคลื่อนกำลังจากสนามหลวงไปตามถนนราชดำเนิน มุ่งหน้าปิดล้อมทำเนียบ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ต้องยอมปล่อยให้ผ่านด่านเพราะเกรงจะเกิดเหตุบานปลายมากขึ้น



-เข้าทำงานทำเนียบตามปกติ

ต่อมาเวลา 08.30 น.นายกฯ เป็นประธานมอบเช็คช่วยชาติ ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพฯ เมื่อเสร็จสิ้นพิธีเดินทางต่อมายังทำเนียบทันที เมื่อมาถึงได้ขึ้นไปยังห้องทำงานใช้เวลาอยู่นาน 30 นาที

นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงว่า มีรายงานมาเป็นระยะ ช่วงนี้เข้าใจว่ากลุ่มผู้ชุมนุมกำลังรวมตัวกันที่สนามหลวง เมื่อถามว่าโฆษกกระทรวงกลาโหมระบุการข่าวของทหารยืนยันว่าจะมีการสร้างสถานการณ์ความรุนแรง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ย้ำกับนายสุเทพ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง และย้ำเจ้าหน้าที่ทุกคนว่าต้องอดทนอดกลั้นเป็นพิเศษ เพราะการชุมนุมจะมีลักษณะยั่วยุ

เมื่อถามว่าจะมีการปาประทัดยักษ์เข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม นายกฯ ย้อนถามว่า "ใครปา เรื่องนี้ยังไม่มีข่าว จะพยายามดูแลทุกอย่างให้เรียบร้อย และอยากย้ำว่าต้องการให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าให้ได้" เมื่อถามว่าหากมีเหตุการณ์รุนแรงใครจะเป็นผู้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามกฎหมายคือตน ครม. และผู้เกี่ยวข้องจะร่วมกันพิจารณา

-เลี่ยงตอบตัดสัญญาณโฟนอินหรือไม่

ต่อข้อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ประเมินว่าการชุมนุมครั้งนี้จะมีความรุนแรงสอดคล้องกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เท่าที่ฟังเสียงก็ระดมกันเข้มข้นเป็นพิเศษ จึงย้ำกับเจ้าหน้าที่ว่าต้องพร้อม และอดทนอดกลั้นเป็นพิเศษด้วย ทั้งนี้ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นรัฐบาลต้องพร้อมรับมือและตัดสินใจอย่างเหมาะสม จะไม่ทำอะไรรุนแรงแต่จะทำหน้าที่รักษากฎหมาย ตามแนวปฏิบัติซึ่งเป็นที่ยอมรับได้

เมื่อถามว่าการชุมนุมครั้งนี้จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ประเทศอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า มีความเคลื่อนไหวมาตลอด สิ่งสำคัญคือดูแลควบคุมสถานการณ์ได้ เพราะการชุมนุมใหญ่ลักษณะนี้ในปีนี้ถ้านับไม่ผิดน่าจะเป็นครั้งที่ 3 แล้ว

เมื่อถามว่ารัฐบาลจะดูแลการโฟนอินของพ.ต.ท. ทักษิณอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทุกคนต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง รัฐบาลต้องรักษากฎหมาย เมื่อถามว่าถ้ายั่วยุจะตัดสัญญาณหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อย่าพูดอะไรล่วงหน้าเพราะยังไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่าจนถึงขณะนี้ยังมั่นใจว่าจะควบคุมสถาน การณ์ได้โดยไม่ต้องประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มั่นใจ ส่วนวันที่ 27 มี.ค.จะเข้าทำงานที่ทำเนียบหรือไม่ต้องดูตามกำหนดการ แต่เข้าใจว่าต้องไปตอบกระทู้ในการประชุมวุฒิสภา อย่างวันนี้เดิมไม่มีกำหนดการที่สภา แต่ประธานนัดประชุมก็ต้องยกเลิกงานที่เมืองทองธานี

-"เทือก"ปล่อยจัดการตามหน้าที่

ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เข้ามาทำเนียบเวลา 08.25 น. โดยใช้เส้นทางสะพานมัฆวานรังสรรค์ เข้าประตู 7 จากนั้นนายสุเทพให้สัมภาษณ์ว่า ปล่อยเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ ต้องเคารพความเป็นมืออาชีพของเจ้าหน้าที่ เพราะมีประสบการณ์และเข้าใจสถานการณ์ดี ในอดีตที่ผิดพลาดเพราะฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซง กดดันมากเกินไป จึงทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานผิดไปจากหลักการปกติ จนเกิดความวุ่นวาย

ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่เพราะฝ่ายทหารวิเคราะห์ว่าอาจเกิดเหตุการณ์รุนแรง นายสุเทพกล่าวว่า ตนติดตามสถานการณ์ จะเห็นว่าฝ่ายที่ดำเนินการมีเป้าหมายและขั้นตอนชัดเจน และพยายามยกระดับการเคลื่อนไหวให้ไปสู่เป้าหมาย ส่วนเจ้าหน้าที่ต้องประเมินสถานการณ์ และปรับขีดความสามารถ กระบวนการรับมือตามที่เห็นสมควร เมื่อถามว่าจะสกัดกั้นการเคลื่อนขบวนของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันนี้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่คิดว่าจะสกัดกั้น แต่ในส่วนที่ตำรวจดำเนินการคือไม่ต้องการให้นำอาวุธเข้ามา

-ถ้ารุนแรงเตรียมประชุมครม.พิเศษ

เมื่อถามว่าถ้ามีสถานการณ์ฉุกเฉินใครจะตัดสินใจ นายสุเทพกล่าวว่า นายกฯ มอบหมายตนดูแลเรื่องความมั่นคง ถ้าอยู่ในวิสัยที่ตัดสินใจเองได้ตนจะดำเนินการ แต่ถ้าเหลือบ่ากว่าแรงต้องหารือกับนายกฯ หรืออาจนัดประชุม ครม.เป็นพิเศษ แต่ภาวนาว่าขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี เมื่อถามว่าเตรียมกำลังตำรวจ ทหารไว้มากขนาดนี้เพราะประเมินว่าสถานการณ์จะรุนแรงใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวพร้อมหัวเราะว่า "ก็ไม่เบา แต่เราต้องเตรียมให้พร้อม"

จากนั้นเวลา 08.50 น. ผบช.น.เข้ารายงานนายสุเทพก่อนที่ม็อบจะเคลื่อนขบวนออกจากสนามหลวงมาปิดล้อมทำเนียบ ผบช.น.กล่าวว่า การชุมนุมวันนี้คงไม่รุนแรง เมื่อถามว่ามีรายงานข่าวว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะดาวกระจายไปยังสถานที่สำคัญ ทั้งที่พรรคประชาธิปัตย์ และรัฐสภา ผบช.น.กล่าวว่า เรื่องดาวกระจายนั้นมีแน่

-เที่ยงครึ่งส่งสัญญาณเคลื่อนม็อบ

สำหรับการชุมนุมที่สนามหลวง เวลา 12.30 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดงประกาศบนเวทีให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนไปบริเวณหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยมีรถจักรยานยนต์ประมาณ 50 คันเป็นแนวหน้า ตามด้วยรถขยายเสียง 4 คัน และรถยก 2 คัน ส่วนบริเวณสะพานพระปิ่นเกล้า ผู้ชุมนุมนำรั้วเหล็กมากั้นปิดเส้นทางไม่ให้รถผ่านไปมา ขณะที่ผู้ชุมนุมเข้ายึดพื้นที่ถนนราชดำเนินในทั้ง 2 ฝั่ง กลุ่มผู้ชุมนุมส่วนหน้าเคลื่อนไปปิดแยกคอกวัวและบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยใช้รถประจำทางและรถกระบะจอดขวางตามทางแยก

เวลา 13.10 น.กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนมาปักหลักบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ประกาศจุดยืนขับไล่รัฐบาลและเรียกร้องนายอภิสิทธิ์ลาออก ก่อนเคลื่อนมาบริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ หยุดพักนาน 5 นาทีเพื่อถ่ายภาพเป็นสัญลักษณ์ แล้วเคลื่อนต่อผ่านหน้ากระ ทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระ ทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

-ผ่านหน้าทบ.-ประกาศไล่"ป๊อก"ไขก๊อก

เมื่อผู้ชุมนุมเคลื่อนผ่านมาถึงหน้ากองบัญชาการกองทัพบก นายณัฐวุฒิปราศรัยผ่านรถขยายเสียงเรียกร้องพล.อ.อนุพงษ์ลาออกจากผบ.ทบ. เพื่อคืนประชา ธิปไตยให้ประชาชน ก่อนเคลื่อนมายังสะพานมัฆวานรังสรรค์ ซึ่งมีตำรวจ 500 นายปักหลักรออยู่ พร้อมรถขนผู้ต้องขัง 10 คัน ตู้คอนเทนเนอร์จำนวนมากกีดขวางเส้นทางเข้าทำเนียบฝั่งริมคลองผดุงกรุงเกษม แต่ผู้ชุมนุมสามารถเคลื่อนผ่านสะพานมัฆวานฯ ไปได้โดยไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น

กระทั่งเวลา 13.50 น.ผู้ชุมนุมเคลื่อนมาถึงหน้าทำเนียบฝั่งถนนพิษณุโลก เจ้าหน้าที่ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงขอร้องอย่าทำลายทรัพย์สินและอย่าใช้ความรุนแรง สร้างความไม่พอใจให้ผู้ชุมนุมซึ่งโห่ไล่เสียงดังกระหึ่ม จากนั้นผู้ชุมนุมกระจายปิดล้อมด้านหน้าทำเนียบและเคลื่อนกำลังประชิดรถขนผู้ต้องขัง 4 คัน ตู้คอนเทนเนอร์ 6 ตู้ที่ตั้งขวางอยู่ด้านข้างสะพานอรทัย บนถนนนครปฐม

-ใช้เครนยกตู้ขวางทางทิ้งลงคลอง

นายณัฐวุฒิประกาศขอความร่วมมือผู้ชุมนุมช่วยกันเคลื่อนย้ายรถคุมผู้ต้องขังซึ่งถอดแบตเตอรี่และล็อกพวงมาลัยที่จอดขวางอยู่ จากนั้นเคลื่อนรถเครนยกเข้ามายกตู้คอนเทนเนอร์ 2 ตู้ทิ้งลงคลองเปรมประชากร ซึ่งด้านหลังตู้คอนเทนเนอร์มี ตชด.ประมาณ 500 นายในชุดปราบจลาจลพร้อมโล่ยืนรักษาการณ์อยู่ เมื่อผู้ชุมนุมเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมดออกมาจากเส้นทางได้ก็เคลื่อนเข้าไปประชิดตำรวจ ก่อนใช้กำลังผลักดันแนวเจ้าหน้าที่จนเกิดการยื้อยุด ผู้ชุมนุมบางส่วนใช้ขวดน้ำขว้างปาเข้าใส่ จนเจ้าหน้าที่ต้องล่าถอย

ขณะเดียวกันผู้ชุมนุมที่ปักหลักอยู่ข้างพาณิชย์พระนครได้เคลื่อนเข้าไปหาตำรวจที่ปักหลักอยู่บริเวณสะพานอรทัย เรียกร้องให้ย้ายกำลังออกนอกทำเนียบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ให้ความร่วมมือไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ

-3 หมื่นคนปิดล้อมทุกด้านสำเร็จ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ชุมนุมปิดล้อมทำเนียบทั้ง 4 ด้าน ทั้งถนนราชดำเนิน ถนนพิษณุโลก ถนนนครปฐม และถนนริมคลองผดุงกรุงเกษม รวมยอดประมาณ 30,000 คน จากนั้นพยายามผลักดันเจ้าหน้าที่ที่ตั้งแนวอยู่รอบๆ พื้นที่นอกทำเนียบออกไป

ภายหลังม็อบเสื้อแดงปิดล้อมทำเนียบ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารภายในทำเนียบกระจายกำลังเข้าประจำจุดต่างๆ อาทิ ประตูด้านสะพานมัฆวานฯ สะพานชมัยมรุเชฐ สะพานอรทัย และแนวรั้วหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทหารรีบเสริมรั้วลวดหนามตามแนวป้องกันการบุกรุกทุกจุด เช่น บริเวณตู้คอนเทนเนอร์บนสะพานอรทัย สะพานมัฆวานฯ โดยภายในตู้คอนเทนเนอร์นำถุงทรายใส่ไว้ด้วยเพื่อถ่วงน้ำหนักป้องกันการยก ทำลาย เคลื่อนย้าย

-จนท.แตกตื่นเก็บของรีบกลับบ้าน

เจ้าหน้าที่ประกาศผ่านเครื่องกระจายเสียงขนาดใหญ่รอบทำเนียบ ทั้งที่ตึกสันติไมตรี ประตู 8 ประตู 5 ขอความร่วมมือชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ รักษากฎหมาย อย่าทำลายทรัพย์สินหรือบุกรุกสถานที่ราชการ และให้คิดว่าเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร เป็นเหมือนลูกหลานที่มาดูแลความปลอดภัย จะใช้วิธีเจรจาอย่างสันติวิธี หากพบเห็นบุคคลที่มีพฤติกรรมในทางไม่ดี พยายามยั่วยุขอให้ประสานเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมสถานการณ์ทันที

ทั้งนี้เมื่อกลุ่มเสื้อแดงล้อมพื้นที่ทำเนียบได้แล้ว ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ภายในต่างแตกตื่นตกใจ รีบเก็บข้าวของสัมภาระและเอกสารสำคัญๆ ทยอยออกจากทำเนียบอย่างเร่งรีบ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ประสานแกนนำ นปช.ขอเปิดเส้นทางประตูอรทัย ให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่เดินเท้าออกไป

-มท.1 ไม่รู้มี"เสื้อน้ำเงิน"อีกม็อบ

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าจะมีผู้ร่วมชุมนุมประมาณ 3 หมื่นคน ส่วนความรุนแรงตนเป็นห่วงระดับหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ตำรวจรับผิดชอบ กระทรวงมหาดไทยไม่ได้ตั้งวอร์รูม ติดตามสถานการณ์การชุมนุม เพราะอยู่ในความรับผิดชอบของรองนายกฯ กระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่ติดตามการเดินทางเข้ามาของกลุ่มผู้ชุมนุมจากการรายงานของผู้ว่าฯ เท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีรายงานว่ากลุ่มคนเสื้อน้ำเงินจะรวมตัวกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อป้องกันกลุ่มเสื้อแดงบุกยึดสนามบิน นายชวรัตน์กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะเสื้อน้ำเงินใครก็ใส่ได้

- ชายฉกรรจ์เสื้อน้ำเงินพรึบสุวรรณภูมิ

รายงานข่าวจากมหาดไทยแจ้งว่า ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่กว่า 100 คนในสังกัดนักการเมืองใหญ่กลุ่มเพื่อนเนวิน สวมเสื้อสีน้ำเงิน มีข้อความว่า"ปกป้องสถาบัน" ไปประจำที่ศูนย์ซ่อมบำรุงภายในสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเตรียมป้องกันสนามบินหากกลุ่มเสื้อแดงเคลื่อนไปปิดล้อม

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มชายฉกรรจ์สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน มีข้อความ"สงบ สันติ สามัคคี" มารวมกลุ่มกันประ มาณ 300 คน ที่ลานเอนกประสงค์อาคารซ่อมบำรุง สนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนใหญ่เดินทางโดยรถตู้มาจากจ.ปทุมธานี ชัยนาท ลพบุรี และพระนครศรี อยุธยา โดยตั้งเต็นท์ก่อนแยกย้ายกันพักผ่อน

ส่วนบรรยากาศโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิมีกำลังตำรวจและทหารมารักษาการทั้งรอบนอกและอาคารผู้โดยสารกว่า 500 นาย รวมทั้งตั้งจุดตรวจทางเข้าทางออกสนามบินทุกจุด

ม็อบลุย- ภาพเหตุการณ์ม็อบเสื้อแดงรวมตัวกันที่สนามหลวงช่วงเช้าวันที่ 26 มี.ค. ก่อนเคลื่อนกำลังไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ระหว่างทางเกิดปะทะกับเจ้าหน้าที่บ้างประปราย พร้อมใช้รถเครนยกตู้คอนเทนเนอร์ที่ตำรวจนำมาขวางทางโยนทิ้งน้ำ และบางส่วนก็ยกไปปิดทางเข้าทำเนียบ



-"ประวิตร"ประชุมสภากลาโหม

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานสภากลาโหม เป็นประธานประชุมสภากลาโหม โดยมีพล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกา บาตร์ ผบ.สส. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. และบรรดา 5 เสือทุกเหล่าทัพเข้าร่วม

พล.ร.อ.กำธรกล่าวก่อนประชุมถึงการชุมนุมใหญ่ของม็อบเสื้อแดงว่า ไม่น่ารุนแรง กลุ่มผู้ชุมนุมบอกว่าจะอยู่ชั่วคราว ถึงงานกาชาดก็เลิก คงไม่มีอะไรรุนแรงเกิดขึ้น สำหรับการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณที่ขู่แฉผู้อยู่เบื้องหลังรัฐประหารต่อนั้น ให้ความคิดเห็นไม่ได้ ยังไม่ทราบว่าจะพูดเรื่องอะไร แต่ไม่เป็นไร ลองฟังดู

ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะเพื่อน ตท.10 เป็นห่วงหรือไม่ว่ายิ่งพ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินบ่อยครั้งยิ่งทำให้ประเทศชาติแย่ลง พล.ร.อ.กำธรกล่าวว่า ตนเป็นห่วงว่าถ้าโฟนอินเข้ามาบ่อยๆ จะทำให้เกิดความไม่เรียบร้อย ตนคงไม่ฝากพ.ต.ท.ทักษิณหยุดโฟนอิน ไม่อยากพูดอะไร

-แจงใช้ทหาร 21 กองร้อย 3 พันคน

ต่อมาพล.อ.ประวิตรแถลงภายหลังประชุมว่า เจ้าหน้าที่พยายามดูแลสถานที่ราชการให้ดีที่สุด หวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ทุกคนเป็นคนไทยอย่าให้มีสีเสื้อ มีอะไรพูดจากัน คิดว่าทุกฝ่ายรับฟังโดยเฉพาะรัฐบาลรับฟังทุกเรื่อง เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลจะเจรจากับแกนนำคนเสื้อแดง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้จะเจรจาเรื่องใด ไม่มีเรื่องเจรจา สำหรับกำลังทหารใช้ 21 กองร้อย ประมาณ 3,000 นาย ดูแลสถานที่สำคัญทางราชการ จะทำทุกอย่างเพื่อรักษาสถานที่ราชการเท่านั้น ไม่ปะทะหรือใช้ความรุนแรงนอกจากจะเข้ามาในเขตสถานที่ราชการ ทุกอย่างมีกฎหมายบังคับอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่าเสื้อแดงระบุว่ากองทัพใช้ 2 มาตร ฐานดูแลผู้ชุมนุม พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ขอโทษครับ ตอนนี้คนละรัฐบาล ทหารทำตามรัฐบาล ไม่ใช่ทำตามอำเภอใจของทหาร รัฐบาลสั่งอย่างไรทำอย่างนั้น เปรียบเทียบอย่างนั้นไม่ได้ ขึ้นกับรัฐบาลที่ผ่านมาใช้ทหารแค่ไหน รัฐบาลชุดนี้ใช้ทหารแค่ไหน มีอำนาจใช้เหมือนกัน ดังนั้นไม่แปลกอะไรเลย"

- รัฐบาลที่แล้วไม่อยากใช้ทหาร

เมื่อถามว่าแสดงว่ารัฐบาลที่ผ่านมาใช้ทหารไม่เป็น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ใช่ใช้ไม่เป็น อาจไม่อยากใช้ก็ได้ เมื่อถามว่ารัฐบาลที่ผ่านมาประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้ทหารปฏิบัติหน้าที่ แต่ทหารไม่ยอมออกมา พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ไม่มีการไม่ปฏิบัติ รัฐบาลมีอำนาจ ลองทหารไม่ปฏิบัติรัฐบาลก็ปลดออกได้ วันนี้ทหารทำตามคำร้องขอของตำรวจ ให้เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน

เมื่อถามว่าเป็นการเลี่ยงบาลีทางกฎหมายเพื่อให้ตำรวจร้องขอทหารมาช่วยปฏิบัติหน้าที่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ใช่ ตำรวจร้องขอโดยประเมินว่ามากน้อยขนาดไหน เมื่อตำรวจไม่มีกำลัง เพราะรัฐบาลมอบให้รักษาทำเนียบไว้ให้ได้ ตำรวจบอกรักษาไม่ได้หากคนมามาก ก็ร้องขอทหารมาช่วย

-"แม้ว"ต้องมีวิจารณญาณในการพูด

ต่อข้อถามว่าจะหยุดยั้งพ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า คงไม่ เป็นเรื่องของท่าน ต้องใช้วิจารณญาณว่าควรพูดอะไร เป็นผู้ใหญ่ต้องรับผิดชอบคำพูด เราบอกอะไรท่านไม่ได้ เมื่อถามว่าประเมินการใช้งบที่กอ.รมน.ได้รับจากรัฐบาลเพื่อสลายเสื้อแดงที่ผ่านมาว่าได้ผลหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า รู้ได้อย่างไรว่าไม่ได้ผล โครงการเพิ่งเริ่ม เงินยังไม่ออกแม้แต่บาทเดียว ยังไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแต่อยากไปช่วยเรื่องเศรษฐกิจ ไม่ได้ละลายเสื้อเขียว เสื้อเหลือง เสื้อแดง ไม่เกี่ยว ทำเพื่อประชาชนชาวไทย ขณะนี้บ้านเมืองลำบากเรื่องเศรษฐกิจ อยากไปช่วยเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่ใช้ทหารแต่ใช้ทุกกระทรวงที่อยู่ในกอ.รมน.

เมื่อถามว่างบ 1,000 ล้านบาทที่กอ.รมน.ได้รับถือว่ามากเกินไปหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ใช่น้อยหรือมาก แต่ให้กำลังพลลงไปทุกหมู่บ้าน ช่วยกันทุกกระทรวง ทบวง กรม ใช้ด้วยความระมัดระวังเพราะเป็นเงินของราษฎร หวังให้ประชาชนอยู่ดีกินดี กอ.รมน.เน้นเรื่องปากท้องมากกว่า

เมื่อถามว่าทหารรับผิดชอบเรื่องความมั่นคงแต่ต้องดูแลเรื่องเศรษฐกิจ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ทหารไม่เกี่ยวข้องเศรษฐกิจ ทหารอยู่ในกอ.รมน. ทุกหน่วยงานในกอ.รมน.ร่วมมือกัน ไม่ใช่ทหารมาแก้เศรษฐกิจ นายกฯ เป็นประธาน

-เน้นย้ำระวังข้อมูลลับกันรั่วไหล

ด้านพ.อ.จิตตสักก์ เจริญสมบัติ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงว่า รมว.กลาโหมเน้นย้ำที่ประชุมเรื่องปกป้องสถาบัน ปัจจุบันมีการเผยแพร่รูปภาพหรือข้อความไม่เหมาะสม ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสถาบันเบื้องสูงผ่านสื่อต่างๆ เช่น อินเตอร์เน็ต วิทยุชุมชน และสื่อสิ่งพิมพ์อื่นๆ เป็นการหมิ่นสถาบันเบื้องสูง จึงขอให้หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และ ผบ.เหล่าทัพช่วยกันป้องกันและแก้ไข ส่วนของเหล่าทัพแต่ละปีจะมีทหารกองประจำการหมุนเวียนเข้ามารับราชการจำนวนมาก ควรใช้ทหารเหล่านี้ ซึ่งปลดประจำการออกไปตามพื้นที่ต่างๆสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ ปกป้องสถาบัน

"รมว.กลาโหมยังเน้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการตามมาตรการรักษาความปลอดภัย และการรักษาความลับทางราชการอย่างเคร่งครัด ระมัดระวังการเผยแพร่เอกสารทางราชการที่กำหนดชั้นความลับไม่ให้รั่วไหล" โฆษกกลาโหมกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าวิเคราะห์ถึงสาเหตุการหมิ่นเบื้องสูงอย่างไรเพราะในอดีตไม่เคยปรากฏ พ.อ.จิตตสักก์กล่าวว่า สาเหตุหลายประการโดยเฉพาะเรื่องเหตุ การณ์บ้านเมือง มีประเด็นพาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูง ความขัดแย้งทางด้านการเมืองผูกโยงกับสถาบันมาตลอด เมื่อความขัดแย้งทางการเมืองยังไม่ยุติ การพาดพิงสถาบันก็จะเกิด หากจะยุติการเมืองต้องสงบและนิ่ง หากไม่นิ่งก็คงหาเหตุมาเกี่ยวโยงกับสถาบัน ทั้งนี้ทหารไม่ได้ติดตามการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ตำรวจดำเนินการ สิ่งใดผิดกฎหมายคงฟ้องร้อง การชุมนุมคงใช้เวลา 3 วัน หากเหตุการณ์รุนแรงมีแผนรองรับสถานการณ์ได้

-ตร.ประเมินหลังม็อบล้อมสำเร็จ

เมื่อเวลา 15.30 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ในฐานะผบ.ศูนย์บัญชาการสถานการณ์ เรียกประชุมประเมินสถานการณ์ หลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงปิดล้อมทำเนียบสำเร็จ ใช้เวลาประชุมเกือบ 2 ช.ม. จากนั้นพล.ต.ท.วรพงษ์กล่าวว่า การรักษาความปลอดภัยยึดหลักไม่กระทบกระทั่งกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุม หากเจ้าหน้าที่รักษาสิ่งกีดขวางโดยไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมยกออกไป อาจนำไปสู่ความรุนแรงได้ ตำรวจจึงยอมกลุ่มผู้ชุมนุมยกสิ่งกีดขวางออกไป ตนมอบฝ่ายกฎหมายพิจารณาถึงกรณีที่กระทำให้เกิดการเสียทรัพย์ การขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน เนื่องจากบนถนนมีประกาศเจ้าพนักงานแล้ว อาจเข้าข่ายลหุโทษแต่ขอให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาก่อน

พล.ต.ท.วรพงษ์กล่าวอีกว่า การรักษาความปลอด ภัยภายในทำเนียบยังเข้มข้น เป็นเป้าหมายหลักสำคัญการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมบุกรุกเข้ามาได้ เมื่อถามว่าเป็นห่วงสถานการณ์ช่วงกลางคืนหรือไม่ ผบช.น.กล่าวว่า เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ห่วงใยอยู่แล้ว เท่าที่ทราบกลุ่มผู้ชุมนุมก็ห่วงใยและระมัดระวังเช่นกัน ต่างคนต่างช่วยกันดูแลระมัดระวัง ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่อาจถูกยั่วยุด้วยถ้อยคำรุนแรงหยาบคายนั้น ทุกคนได้รับการฝึกมาตั้งแต่เป็นนักเรียนตำรวจ อดทนกับความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก

-พยายามให้นายกฯเข้าทำงานได้

เมื่อถามว่าวันที่ 27 มี.ค. นายกฯ รมต.และข้าราชการยังเข้ามาทำงานในทำเนียบรัฐบาลได้หรือไม่ ผบช.น.กล่าวว่า ทุกคนเข้าทำงานได้ตามปกติ ตนจะพยายามอย่างสุดความสามารถ เรื่องนี้ต้องขอหารือเพื่อปรับแผนนิดหน่อย แก้ไขหน้างานกันไปเพราะแผนพัฒนาไปเรื่อยๆ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดวันนั้นได้รายงานรองนายกฯ ทราบโดยตลอด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นผบช.น.และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเดินทางออกจากทำเนียบไปยังบช.น.เพื่อประชุมกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเวลา 17.00 น.

-"มาร์ค"ไปมธ.รังสิตก่อนกลับบ้าน

เมื่อเวลา 17.40 น. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์ว่า สถาน การณ์ล่าสุดยังไม่มีอะไร เจ้าหน้าที่ยังควบคุมได้ เมื่อถามว่าจะยืดเยื้อหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เมื่อถามย้ำว่าจะเข้าทำงานทำเนียบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็ปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ มาเป็นประธานเปิดโครงการชุมชนพอเพียงที่อาคารยิม 5 ธรรมศาสตร์ รังสิต โดยมีตำรวจจำนวนมากพร้อมโล่กระจายกำลังตามจุดต่างๆ โดยรอบ ทั้งนี้ก่อนหน้านายกฯ มาถึงกลุ่มเสื้อแดงรวมตัวกัน แต่สุดท้ายไม่มีอะไร กระทั่งเวลา 18.00 น. นายกฯ เดินทางกลับบ้านสุขุมวิท 31

-"ณัฐวุฒิ"จี้นายกฯอธิบายคำพูด"ธิลิ้ม"

เย็นวันเดียวกัน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำม็อบเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ทางช่อง 3 ว่า ครั้งนี้ชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ทั้งหมด ต่างจากครั้งที่ผ่านมาที่ชุมนุมเพื่อแสดงเจตนารมณ์เพื่อประชาธิปไตย แต่ข้อเรียกร้องที่ผ่านมากลับถูกเพิกเฉย ครั้งนี้จะไม่ยอมให้นายกฯและครม.เข้าทำงานในทำเนียบเด็ดขาด รวมถึงรัฐบาลต้องอธิบายคำพูดของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร ที่ว่า รัฐบาล ชุดนี้มาจากการอุ้มของทหารและหากไม่มีพันธมิตรจะไม่มีรัฐบาลชุดนี้ การชุมนุมครั้งนี้เตรียมการมา 1 เดือน ระดมมาทั้งประเทศเพื่อต่อสู้ยืดเยื้อไม่ใช่แค่ 2-3 วันอย่างแน่นอน

นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า ตู้คอนเทนเนอร์ที่นำมาขวางทางคนเสื้อแดงเป็นการปิดกั้นประชาชนและยังใส่ทรายไว้ข้างใน แต่บังเอิญมีนายตำรวจหัวใจสีแดงนำเรื่องมาเล่าให้ฟังก่อน จึงเตรียมรถยกมาเปิดทาง และนำไปขวางประตูทางเข้าทำเนียบบางส่วนเพื่อปิดกั้นรัฐบาลอภิสิทธิ์เข้าทำเนียบ

-เพราะมีเหลืองวันนี้จึงมีแดง

แกนนำม็อบเสื้อแดงกล่าวอีกว่า ส่วนการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ วันนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะมีหรือไม่ แต่วันที่ 27 มี.ค. มีวิดีโอลิงก์อย่างแน่นอน ขณะที่วันอื่นๆ ต้องประเมินสถานการณ์วันต่อวัน

นายณัฐวุฒิกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า "เรื่องราวทั้งหมดมีสาเหตุ ถ้าไม่มีพฤติกรรมของเหลือง จึงไม่มีแดง เมื่อมีพฤติกรรมเหลืองเช่นนี้ เลยมีแดงเช่นนี้"

ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวในรายการเดียวกันว่า เท่าที่ประเมินผู้ชุมนุมมีประมาณ 30,000 คน เท่าที่คุยกับนายกฯ บอกว่าถ้าไม่มีกรณีพิเศษใดๆ จะปฏิบัติภารกิจตามเดิม หากจำเป็นต้องเข้าทำเนียบก็จะเข้าตามปกติ

-ปิดถนนตั้งเวทีสะพานชมัยฯ

ส่วนบรรยากาศการปิดล้อมทำเนียบช่วงเย็น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเสื้อแดงขัดขวางรถเสบียงของทหารไม่ให้เข้าไปในทำเนียบ โดยปีนขึ้นไปยืนเกาะประตูคนขับและเกิดการยื้อยุดกันขึ้น ก่อนที่รถเสบียงจะยอมถอยออกไปหาทางเข้าประตูอื่น

จากนั้นนายณัฐวุฒินำม็อบไปปิดล้อมประตู 7 และ 5 ฝั่งตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อพบตู้คอนเทนเนอร์ 5 ตู้ ตั้งปิดหัวมุมทำเนียบทางประตู 7 จึงใช้รถเครนย้ายออก โดยยกไปปิดประตู 5 กันไม่ให้นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพเข้าทำงาน จากนั้นใช้ตู้คอนเทน เนอร์เป็นเวทีปราศรัย ขณะที่เวทีปราศรัยหลักตั้งอยู่สะพานชมัยมรุเชฐหันหน้าเข้าหาทำเนียบ โดยติดตั้งจอโปรเจ็กเตอร์และเครื่องขยายเสียงกระจายตลอดถนนพิษณุโลกและถนนราชดำเนิน จนต้องปิดการจราจรบริเวณแยกสวนมิสกวันและมัฆวานโดยปริยาย

-ร้านค้ารอบม็อบขายดี

นายณัฐวุฒิประกาศให้ผู้ชุมนุมพักผ่อนรอเวลา โดยผู้ชายไปนอนก่อนเพื่อสลับมาร่วมชุมนุมตอนกลางคืน ส่วนผู้หญิงให้ร่วมชุมนุมและสลับไปนอนตอนกลางคืน ขณะที่ตำรวจถอนกำลังออกนอกพื้นที่โดยรอบทำเนียบด้านนอกเหลือเพียงกำลังตชด. รักษาการอยู่ภายในรั้วทำเนียบ ส่วนทหารกระจายกันอยู่ในอาคารต่างๆ

ทั้งนี้รอบบริเวณชุมนุมมีการตั้งร้านค้าแผงลอยจำนวนมาก ทั้งจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อความจริงวันนี้ ตีนตบ หัวใจตบ ป้ายคล้องคอรูปพ.ต.ท.ทักษิณ ซองพลาสติกใสกันน้ำสำหรับใส่โทรฯมือถือสกรีนรูปพ.ต.ท.ทักษิณ ขณะที่ร้านค้ารอบบริเวณ อาทิ สามแยกนางเลิ้ง ถนนนครสวรรค์ ตลาดนางเลิ้ง ต่างขายดิบขายดี เนื่องจากคนเสื้อแดงแวะเวียนมาซื้ออาหารและเครื่องใช้ส่วนตัวจนขายแทบไม่ทัน

-เร่งต่อสัญญาณเชื่อมนายใหญ่

ช่วงเวลา 17.00 น. ที่เชิงสะพานอรทัย ข้างทำเนียบ นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวถึงการเตรียมต่อสัญญาณวิดีโอลิงก์ของพ.ต.ท.ทักษิณว่า ขณะนี้ อยู่ระหว่างต่อสัญญาณเสียงและภาพเพื่อเชื่อมสัญญาณจากเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ไปยังบริเวณรอบทำเนียบที่กลุ่มเสื้อแดงชุมนุมอยู่ หากสัญญาณเรียบ ร้อยจะเปิดให้พ.ต.ท.ทักษิณปราศรัยเข้ามาทันที หาก ไม่เรียบร้อยก็จะถ่ายทอดสัญญาณวันที่ 27 มี.ค. และทุกวันตั้งแต่เวลา 19.30-20.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณจะปราศรัยทุกวันจนกว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์จะออกไป ยอมรับว่าการต่อสัญญาณลำบากมากเพราะมีการยิงสัญญาณรบกวนการถ่ายทอดของดีสเตชั่นตลอดเวลา อยากเตือนว่าการปิดกั้นการรับข้อมูลข่าวสารของประชาชนยิ่งจะทำให้รัฐบาลพังเร็วขึ้น เพราะจะยิ่งมีประชาชนที่ถูกปิดกั้นมาเข้าร่วมชุมนุมมากขึ้น

นายจตุพรกล่าวอีกว่า ระยะเวลาการชุมนุมจะยืดเยื้อยาวนานแค่ไหนอยู่ที่อายุของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ถ้าไปเร็วก็เลิกเร็ว นายอภิสิทธิ์เป็นเพียงจิ๊กซอว์ตัวหนึ่งเท่านั้น ยังมีผู้ควบคุมบงการอยู่เบื้องหลังอีกทอด

-ยังอุบบุกบ้านสี่เสาฯหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีการวิเคราะห์ว่ากลุ่มนปช.โจมตีองคมนตรีและทหารเพื่อต้องการให้ทหารปฏิวัติ นายจตุพรกล่าวว่า ยืนยันมาตลอดว่าต่อต้านการรัฐประ หารและหากทหารออกมาจริงก็ดี เรื่องราวจะได้จบในครั้งเดียวสักที เพราะในอดีตไม่ว่า 14 ตุลา 6 ตุลา หรือพฤษภาทมิฬ ทหารไม่เคยฆ่าประชาชนได้เกินร้อยคนก็ต้องหนีออกไปนอกประเทศแล้ว และครั้งนี้หากปฏิวัติจริงคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดินก็พร้อมจะออกมาต่อต้านทันที เพราะทหารเองก็ใช้ประโยชน์จากรัฐบาล อ่อนแอหากินกับคอมมิชชั่น

เมื่อถามว่ามีแผนดาวกระจายไปบ้านสี่เสาเทเวศร์หรือไม่ นายจตุพรกล่าวว่า มีข้อเสนอมาแต่ยังไม่ได้ข้อสรุป เมื่ออยู่กันนานก็มีแนวทางการเคลื่อนไหวมากกว่านี้แน่นอน แต่จะประกาศให้ทราบเป็นวันๆ เมื่อถามว่ามีข้อสังเกตว่ากลุ่มเสื้อแดงทำตามแผนตากสิน นายจตุพรกล่าวว่า ไม่มีแผนตากสินอะไรทั้งนั้น เป็นเรื่องจับแพะชนแกะเอาเรื่องนั้นมาผสมเรื่องนี้ จึงอยากเรียกร้องคนที่อ้างว่ามีแผนตากสินอยู่ในมือออกมาเปิดเผยว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

นายจตุพร กล่าวว่า ได้รับรายงานจากอดีตรมช. คมนาคม ว่า มีการส่งกำลังทหาร 500 นาย เข้าไปประจำที่สนามบินสุวรรณภูมิ ถือเป็นการกระทำที่วิกลจริต กลุ่มเสื้อแดงยืนยันไม่มีการยึดสถานที่ราชการ ไม่ว่าจะเป็นทำเนียบหรือสนามบิน

-โทร.รายงานนายใหญ่ตลอดวัน

เวลา 18.30 น. นายจตุพรขึ้นปราศรัยบนเวทีว่า ได้โทรศัพท์แจ้งพ.ต.ท.ทักษิณถึงเหตุการณ์ปิดล้อมทำเนียบตลอดทั้งวัน แม้วันนี้ระบบวิดีโอลิงก์จะยังไม่สมบูรณ์ แต่พ.ต.ท.ทักษิณจะโฟนอินเข้ามาพูดคุยกับผู้ชุมนุมเวลา 20.00 น.วันนี้ และจะมีวิดีโอลิงก์ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.เป็นต้นไปช่วงเวลา 19.30 น. ทุกวัน

นายจตุพรยังกล่าวโจมตีกลุ่มพันธมิตรและรัฐบาล พร้อมกับยืนยันการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงเพื่อโค่นล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย เพราะหากรัฐบาลชุดนี้ล้มไป แล้วแก้รัฐธรรมนูญใหม่แต่ถ้าระบอบอำมาตยาธิปไตยยังมีอำนาจอยู่ คนเสื้อแดงก็จะออกมาขับไล่อีก

-2ทุ่ม"แม้ว"โฟนอินสวัสดีทุกคน

จากนั้นเวลา 19.20 น. เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นบริเวณประตู 8 ริมคลองผดุงกรุงเกษม ประตูเดียวที่เปิดให้ผู้สื่อข่าวเข้าออก เมื่อตำรวจขอให้กลุ่มคนเสื้อแดงที่ชุมนุมอยู่เปิดทาง เพื่อนำรถตู้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่นำเสบียงเข้าไปส่งตำรวจและทหารในทำเนียบ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยินยอมเปิดทางและฮือล้อมรถตู้ไว้ โดยขอให้เดินเท้าเท่านั้น ไม่อนุญาตรถเข้าไปอย่างเด็ดขาด แต่ตำรวจยืนยันต้องนำรถเข้าไป กลุ่มผู้ชุมนุมจึงร้องตะโกนโห่ไล่จนตำรวจต้องถอยรถกลับออกไป ขณะเดียวกันขบวนรถตู้ของหน่วยคอมมานโดต้องการนำรถออกนอกทำเนียบ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันว่าให้เดินเท้าออกเพียงอย่างเดียว หลังเจรจาพักใหญ่ตำรวจต้องยอมนำรถกลับเข้าไปจอดด้านหลังตึกตามเดิม

ด้านบรรยากาศบนเวทีหลังนายวีระ มุสิกพงศ์ ขึ้นปราศรัยโจมตีองคมนตรีอย่างเผ็ดร้อน กระทั่งเวลา 20.05 น. พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินเข้ามาว่า "สวัสดีคนไทยที่รักทุกคน ทั้งเสื้อแดงและที่ไม่ใช่เสื้อแดงรวมทั้งทหารทั้งหลาย วันนี้เป็นเรื่องของชาติ เป็นวันที่เราจะทวงคืนประชาธิปไตยที่แท้จริงให้กลับมาสู่สังคมไทย สังคมไทยถูกหลอกว่าเป็นประชาธิปไตยมานานมากแล้วแต่ข้อเท็จจริงไม่ใช่ เห็นชัดหรือไม่ว่าระบบ 2 มาตรฐานมีอยู่เต็มไปหมด ตอนม็อบเสื้อเหลือง รัฐบาลขอให้ทหารออกมาแต่ก็ไม่ออกมา พอวันนี้มีม็อบเสื้อแดงกลับมีทหาร 5-6 พันคน แม้ทหารไม่คิดว่าจะมาทำไมแต่มาเพราะคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่ฝักใฝ่การเมือง"

-พรุ่งนี้นัดแฉ"ผู้มีบารมีนอกรธน."

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวอีกว่า "ดังนั้นวันพรุ่งนี้ (27 มี.ค.) จะพูดให้ชัดว่ามีใครบ้าง เมื่อจะเล่นการเมืองก็ต้องให้การเมืองเล่นด้วย พรุ่งนี้จะพูดให้ชัดว่าตอนที่ผมเป็นนายกฯ คำว่าผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญคือใคร แล้วมันยุ่งอย่างไร"

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวต่อว่า "ที่พูดไม่ได้จะสร้างปัญหาแต่จะหาทางออกให้ประเทศ หาทางออกทางการเมือง ทราบว่าพี่น้องประชาชนจะหยุดวันเสาร์ ดังนั้นพรุ่งนี้จะพูดเรื่องเศรษฐกิจยาวหน่อย ให้เข้าใจกันหน่อย เพราะพูดสั้นจะไม่ค่อยเข้าใจ และพรุ่งนี้จะได้เห็นหน้าตากัน"

-ปลุกทวงคืนศักดิ์ศรีประเทศไทย

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า "วันนี้ผมกำลังจะไปพบประธานาธิบดีประเทศหนึ่ง พรุ่งนี้ก็จะพบกับประธานาธิบดีอีกประเทศหนึ่ง พวกเขาเรียกผมว่าเป็นผู้ร้ายหลบหนี แต่ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยต้อนรับผม เพราะรู้ว่าบ้านเมืองเราการเมืองมันเลอะเทอะ ขอบคุณประชาชนที่ทวงคืนประชาธิปไตย เพราะถ้าไม่มีประชาธิปไตยแท้จริงประเทศไทยจะไม่เจริญ เหมือนลิงไต่ถังน้ำมัน ขึ้นไปหน่อยเดียวสุดท้ายต้องตกลงมา วันนี้การเมืองย้อนไปเหมือน 30 ปีที่แล้ว จะบอกว่าใครเป็นคนทำให้การเมืองย้อนหลัง ขอให้รอฟังกันให้ดี คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก วันนี้แผ่นดินไทยใหญ่โตแต่ด้วยความคับใจทำให้พี่น้องต้องมาชุมนุม ขอขอบคุณ ไม่รู้จะขอบคุณอย่างไร วันนี้อยากยืนอยู่บนเวที พรุ่งนี้จะพูดให้สนุก เพราะจะได้เห็นหน้าเห็นตาแต่ตอนนี้กำลังทุลักทุเลเดินทาง จึงขอแค่นี้ก่อน แต่บอกไว้ก่อนว่าเราคนไทยด้วยกันจะทำอะไรขอให้ใช้วิจารณญาณ เราต้องลุกขึ้นเพื่อทวงศักดิ์ศรีของไทยในสังคมโลก"

-เสียงเฮเขย่าหัวใจ-ตีนตบกระหึ่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เสียงโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณติดต่อเข้ามาตอนแรกเบามาก นายวีระต้องประกาศบอกผู้ชุมนุมเงียบเสียง จากนั้นเมื่อได้ยินเสียงพ.ต.ท. ทักษิณพูด ผู้ชุมนุมต่างตั้งใจฟังและส่งเสียงเฮ พร้อมกับเขย่าหัวใจและตีนตบเป็นระยะๆ แต่ที่เสียงดังมากคือช่วงปรบมือต้อนรับการโฟนอินครั้งแรก และตอนที่พ.ต.ท.ทักษิณระบุจะเปิดเผยว่าใครคือผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ

-ผบช.น.ชี้ยอดม็อบสูงสุด3หมื่น

เมื่อเวลา 20.00 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ให้สัมภาษณ์หลังจากประชุมติดตามสถาน การณ์รอบค่ำว่า จำนวนผู้ชุมนุม ณ เวลานี้มีประมาณ 28,000 คน ช่วงเย็นมีคนลดลงบ้าง ส่วนช่วงสูงสุดอยู่ที่ 30,000 คน อยู่ในความคาดหมายของเรา ยังอยู่ในวิสัยที่ตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อยได้ กลุ่มผู้ชุมนุมไม่มีท่าทีแสดงความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่ โดยรอบๆ นอกทำเนียบดูแลด้วยการตั้งจุดตรวจจุดสกัด

ผบช.น.กล่าวอีกว่า กรณียกตู้คอนเทนเนอร์ลงคลองได้ให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณา ยังไม่ชัด รอศึกษาคำวินิจฉัยเดิมซึ่งเคยมีกรณีลักษณะนี้อยู่ ส่วนทรัพย์สินทางราชการอื่นที่ได้รับรายงานมีรถตำรวจแกนพวงมาลัยหัก 1 คัน กำลังตำรวจเวลานี้เพียงพอ ส่วนทหารประสานการปฏิบัติกันตลอด ไม่ขอบอกรายละเอียด ยืนยันว่าการส่งกำลังบำรุงเรื่องอาหารทั่วถึงกำลังพลทั้งหมด สำหรับวันที่ 27 มี.ค. ได้รับมอบหมายภารกิจต้องให้ข้าราชการตลอดจนฝ่ายการเมืองเข้าทำงานในทำเนียบ ตนต้องรับผิดชอบดำเนินการ รักษาความปลอดภัยนายกฯ และรมต.

"สำหรับไข่ที่อาจขว้างปาใส่ก็มีแผนป้องกัน มั่นใจว่าป้องกันได้ ส่วนการปราศรัยพาดพิง มีการเฝ้าฟังอยู่และฝ่ายกฎหมายพิจารณากัน ขณะนี้ยังไม่มีข่าวหรือพบเรื่องมือที่สามเข้ามาก่อกวน"ผบช.น.กล่าว

-เวทีเสื้อแดงโวยเนวินอย่ารังแก

ขณะที่บนเวทีม็อบเสื้อแดง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ปราศรัยว่า ขณะนี้มีข้อมูลว่าพี่น้องชาวเสื้อแดงที่เดินทางกลับบ้านผ่านสะพานปิ่นเกล้า ย่านท่าพระอาทิตย์ ถูกดักตีหัวหลายราย ขอร้องผบช.น.สั่งเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจสกัดบริเวณนั้น หากตำรวจดูแลประชาชนไม่ได้ คนเสื้อแดงที่กลับเส้นทางนั้นจะประสบอันตราย แล้วคนทำที่อยู่ละแวกบ้านพระอาทิตย์ก็จะไม่ปลอดภัยเช่นกัน นอกจากนี้ทราบว่ามีการนำนักศึกษารามคำแหงหลายร้อยคนใส่เสื้อสีน้ำเงินไปอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ อ้างว่าเพื่อปกป้องสนามบินจากกลุ่มคนเสื้อแดง ยืนยันว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่เข้าไปยึดสนามบินหรือสถานที่ราชการเด็ดขาด หากมีใครดำเนินการขอให้ตำรวจจับกุมทันที ได้ยินมาว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคือนักการเมืองใหญ่กลุ่มเพื่อนเนวิน หากคนกลุ่มนั้นเปลี่ยนไปใส่เสื้อแดงแล้วก่อความวุ่นวายเพื่อทำลายการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง แม้ตนจะเคารพนายเนวินแต่ขอท้าว่าได้เจอกันแน่นอน หากรังแกกันเมื่อใด ไปเจอกันที่ตึกสิริภิญโญที่ทำการพรรคภูมิใจไทยทันที