วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2552

วิกฤติการเมือง ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น.....

ที่มา ไทยรัฐ

การขับเคลื่อนของ เหล่าคนเสื้อแดง รวมพลังทั้ง ส.ส.เพื่อไทย และ อดีต ส.ส.ที่ถูกตัดสิทธิ์ ทางการเมือง ไม่ธรรมดา..... ไม่ใช่คนเสื้อแดงข้างถนน แต่เป็นคนเสื้อแดงที่มีทั้ง อดีตนายกฯ และ รมต. เป็นคนเสื้อแดงที่มีทั้งนักวิชาการและชนชั้นปัญญาชน.....ยิ่งภาพของ ความอยุติธรรม ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่าไหร่.....ประชาชนจะออกมาเดินบนถนนมากขึ้นเท่านั้น............

เพราะฉะนั้น การที่รัฐบาล นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะสร้างความสมานฉันท์ขึ้นในประเทศ เพื่อแก้วิกฤติการเมืองให้ สะเด็ดน้ำไม่ใช่แก้ด้วยลมปาก.....แต่จะต้องแก้ด้วย สปิริตและจิตใจที่บริสุทธิ์ บนผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน.....ห้ามเลือกข้าง............

และด้วยที่ไปที่มาของการขึ้นครองอำนาจ รัฐบาลประชาธิปัตย์ ยังเต็มไปด้วยข้อกังขา .....ตามแผน บันได 4 ขั้น ในการยึดอำนาจ และ ปล้นประชาธิปไตย.....จึงเป็นเงื่อนไขของ คนเสื้อแดง ที่จะอ้างสิทธิดังกล่าวในการทวงอำนาจคืนด้วยความชอบธรรม............

ดังนั้น วีดิโอลิงค์นัดอุ่นเครื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ จ.เชียงใหม่ จึงถึงลูกถึงคน.....การออกมา เปิดอกอย่างหมดเปลือก ถึงสาเหตุที่ถูกยึดอำนาจ.....ย่อมสะเทือนซางใครหลายคน และคงจะเป็น ชนวนร้อนทางการเมือง อีกกระทอก............

ผลสำรวจของ เอแบคโพล ต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ข้อมูลการอภิปรายเงิน 263 ล้านของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้รับความเชื่อถือมากที่สุด 4.89 คะแนน และเห็นว่า กษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ควรถูกปลดออกสูงถึงร้อยละ 41.8.....แต่เชื่อว่า นายกฯอภิสิทธิ์ คงไม่เอาเสียงนกเสียงกามาเป็นสาระ............

ที่น่าสนใจคือแนวโน้ม ความนิยมของประชาชน ที่มีต่อ นายกฯอภิสิทธิ์ เมื่อเทียบกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในช่วงเวลาเดียวกัน....นายกฯอภิสิทธิ์ อยู่ที่ร้อยละ 50.6 หรือโซน B- ในขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยอยู่ในระดับ B+.....แม้ปัจจุบันจะลดลงมาอยู่ในโซน D+ แปลว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีอิทธิพลต่อมวลชน ไม่น้อย............

พูดกันอย่างตรงไปตรงมา ความคิดที่จะ โค่นล้ม พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่เรื่องปอกกล้วยเข้าปาก.....ดังนั้น รัฐบาล กองทัพ และผู้มีอำนาจ ควรจะทบทวนแนวทางแก้ ปัญหาวิกฤติการเมือง เสียใหม่.....ก่อนประเทศชาติ ประชาชน จะหายนะ............

ควันหลงจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็อย่างที่ อินทรีเหล็กเคยเกริ่นไว้แล้วว่า น่าจะจับตาความเคลื่อนไหวใน พรรคเพื่อไทย ให้ดี แม้จะไม่ถึงขั้นมีการขับออกจากพรรค....แต่น่าจะมีการพูดคุยเพื่อเคลียร์ปัญหาในพรรค กันวันนี้ โดยเฉพาะกรณีของ ปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี ที่ชอบทำตัวแตกต่าง............

เช่นเดียวกันซีกรัฐบาลเอง ก็เริ่มจะมีการขยับ ก่อนหน้านี้ข่าวที่ว่า รัฐบาลจะมีเสียงเพิ่มขึ้น โดยการ แลกกับโควตา รมต. อีกสองเก้าอี้.....ชักจะเป็นรูปเป็นร่าง.....ร้อนถึง นายกฯอภิสิทธิ์ และ ชินวรณ์ บุญยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล ต้องรีบออกมาปิดเกม ยืนยัน ไม่มีการปรับ ครม. ใดๆทั้งสิ้น.....หน้า สิ่วหน้าขวานขืนรัฐบาลทำน้ำกระเพื่อมก็ไปไม่รอด............

ฮัดเช้ย สดศรี สัตยธรรม กกต. ออกมาปฏิเสธที่จะตรวจหลักฐาน เงินบริจาค เข้าพรรคประชาธิปัตย์จำนวน 263 ล้านบาท.....อ้าง การเปิดกล่องเอกสาร จะต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเปิดอย่างเป็นทางการ และอาจต้องส่งคืน ดีเอสไอ เพื่อดำเนินการฟ้องคดีเอง.....นี่แหละคือมาตรฐานของกระบวนการตรวจสอบเมืองไทย............

เฮ้อ เรื่องอื้อฉาวใน กบข. ทำท่าจะบานปลาย เมื่อ ธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการ ป.ป.ท. เดินหน้าตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลในกองทุน กบข. .....เสนอ กระทรวงยุติธรรม ตั้งคณะกรรมการตามล่ามหกรรมการปล้นเงินกองทุนชนิดเอาจริงเอาจัง.....หวังว่าคงไม่มีรายการ ลูบหน้าปะจมูก เกิดขึ้น............

ไม่รู้เมื่อไหร่จะเกิดจิตสำนึก ในยามที่ การบินไทย ขาดทุนบักโกรก ปรากฏว่า ที่ประชุม บอร์ดการบินไทย กำหนดค่าตอบแทนและโบนัสกันสนุกสนาน.....ยอมหั่น สิทธิประโยชน์ ตัวเองแค่ร้อยละ 25 จึงไม่แปลกที่การ ย้ายเคาน์เตอร์การบินไทย จากดอนเมืองไปสุวรรณภูมิถึงได้สะดวกโยธิน............

อินทรีเหล็ก