วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2552

อย่าดีกว่า

ที่มา ไทยรัฐ

ระยะนี้ดูเหมือนจะเห็นข่าวความเคลื่อนไหวของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ.และประธาน คมช.มากขึ้น ถี่ขึ้น หลังจากเก็บตัวเงียบหายไปจากสังคมการเมืองและการทหารทำท่าเหมือนว่าจะปลีกวิเวกไปแล้ว

เจ้าของเกมยุทธ์ ลับ ลวง พรางที่เจ้าตัวดูจะภูมิอกภูมิใจกับแผนการนี้ว่าประสบผลสำเร็จเมื่อนำทีมทหารยึดอำนาจจากรัฐบาล ทักษิณเมื่อปี 2549 จนกระทั่งมาถึงเหตุการณ์ปัจจุบัน แต่ในความหมายที่คิดว่าสำเร็จนั้น

ประเทศไทยต้องตกอยู่ใน กับดักการเมืองจนถึงวันนี้

จริงๆแล้วนับแต่การยึดอำนาจจนมีรัฐบาลใหม่ มีนายกฯ 3 คน มีเสื้อเหลือง+เสื้อแดงที่ยังเผชิญหน้ากัน แต่การเมืองไทยยังย่ำเท้าอยู่กับที่เพราะปัญหาความขัดแย้งยังดำรงอยู่ ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะฟันฝ่าไปได้หรือไม่

ที่ว่าความขัดแย้งยังดำรงอยู่ก็คือการยังเป็นการต่อสู้ระหว่างผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ กับฝ่ายต่อต้านที่แตกตัวเป็นเสื้อแดง-เสื้อเหลือง เช่นกันอดีตทักษิณที่เคยประกาศจะวางมือทางการเมืองก็ไม่ได้วางจริง หนำซ้ำยังประกาศต่อสู้ทุกรูปแบบ

ซึ่งการเมืองวันนี้กลายเป็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พรรคเพื่อไทยและกลุ่มเสื้อแดงอยู่ข้างหนึ่ง ประชาธิปัตย์รัฐบาลอันประกอบไปด้วยพรรคร่วม 4 พรรค คือ ภูมิใจไทย รวมใจไทยชาติพัฒนา ชาติไทยพัฒนาและเพื่อแผ่นดิน กลุ่มเสื้อเหลืองอีกข้างหนึ่ง

ว่าให้ถึงที่สุด ณ วันนี้น่าจะเป็น ทักษิณกับประชาธิปัตย์ เสื้อเหลืองและภูมิใจไทย ซึ่งภูมิใจไทยนั้นเป็นการรวมตัวของ 1 พรรค กับอีก 1 กลุ่ม คือ มัชฌิมาธิปไตยและเพื่อนเนวินที่แยกจากพรรคพลังประชาชน

ไม่ยอมอยู่ใต้อุ้งมือ นายใหญ่อีกต่อไป

ไม่รู้ว่าผลการเมืองที่ออกมาอย่างนี้อยู่ในแผนลับ ลวง พรางหรือไม่ แต่นั่นหมายถึงว่าการยึดอำนาจที่ผ่านมาไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งแม้แต่น้อย เพียงแต่เป็นแค่การเว้นวรรคการเมืองในรูปลักษณ์ประชาธิปัตย์ มาเป็นอำนาจทหารมากกว่า

ยิ่งในห้วงระหว่างยึดอำนาจอยู่แม้จะมีอำนาจที่จะดำเนินการหรือแก้ไขปัญหาของประเทศให้เข้ารูปเข้ารอยได้มากกว่านี้ แต่ทำไม่ได้ ทำไม่ สำเร็จและพูดง่ายๆแทบจะไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศเท่าใดนักแต่กลับทิ้งร่องรอยความขัดแย้งให้ลึกลงไปอีก

อะไรที่ควรทำเพื่อประโยชน์ประเทศชาติก็ไม่ได้ แต่ไปทำที่ไม่ได้ประโยชน์โภชน์ผลมากนัก ว่าไปแล้วก็แค่เป็นการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองเท่านั้น

ว่ามาเสียยืดยาว จริงๆแล้วต้องการจะกล่าวถึง พล.อ.สนธิ ที่กำลังมีข่าวว่าจะเล่นการเมือง จะตั้งพรรคการเมือง ล่าสุดก็แอบไปเรียนระดับปริญญาเอก สาขาวิชารัฐศาสตร์ ที่ ม.รามคำแหง ต่างๆเหล่านี้มันทำให้ เกิดความเข้าใจกันว่าจะเอาแน่ทางการเมือง

แม้เจ้าตัวยังไม่ได้แสดงความเห็นต่อเรื่องนี้อย่างชัดเจน มีแต่ว่าเอาไว้หลังรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ พ้นไปแล้วทำนองว่าผิดหวังที่ทำอะไรไม่ได้อย่างใจ ถ้าย้อนเวลาได้คงเป็นนายกฯไปแล้ว

นั่นแสดงว่า พล.อ.สนธิยังสนใจยังติดใจกับอำนาจ มองอย่างวิเคราะห์ ลักษณะก็พอจะชี้ว่ามีโอกาสที่จะเล่นการเมืองมาก เพียงแต่จะตั้งพรรค เองหรือไปอยู่กับพรรคการเมืองอื่น เพราะข่าวว่ามีความสัมพันธ์กับนักการ เมืองที่ไม่ธรรมดา ขณะเดียวกันก็จะเอาเพื่อนร่วมรุ่นมาร่วมงานการเมืองกันด้วย

แต่เท่าที่ดูเพื่อนร่วมรุ่นแต่ละคนดูไม่ค่อยอยากจะเข้ามาสู่ถนนการเมืองแล้ว เพียงชีวิตหลังเกษียณก็มีความสุขดีแล้ว มีก็เพียงแค่ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ เพียงคนเดียวที่เป็นรัฐมนตรีกลาโหม

ไม่รู้ว่าอดีตประธาน คมช.จะเล่นหรือไม่เล่น แต่ในความเห็นแล้วอย่าดีกว่าเพราะเชื่อว่าจะเป็นเป้า นิ่งทางการเมืองทันที เพราะมันมีตราประทับ แล้วและยิ่งจะทำให้การเมืองร้อนฉ่าขึ้นมาอีก

อยู่บ้านเลี้ยงหลานน่าจะมีความสุขและช่วยชาติได้มากกว่า.

สายล่อฟ้า