ที่มา มติชนออนไลน์
"แม้ว" กระหน่ำรัฐบาลซื้อตัวส.ส. สงสัยให้ไปถามประธานชัย บอกจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจต้องทำการเมืองให้มั่นคง จวกอมาตยาธิปไทยแก้วิกฤตเศรษฐกิจชาติไม่ได้ ลั่นเสียงส่วนใหญ่ต้องการประชาธิปไทย
เวลา 20.30 น. วันที่ 28 มีนาคม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านระบบวิดีโอลิงค์ เพื่อปราศรัยขึ้นจอภาพ บนเวทีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง บริเวณทำเนียบรัฐบาล ว่า เมื่อครั้งพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านเคยตั้งฉายารัฐบาลเป็นรัฐบาลต่างตอบแทน แต่วันนี้รัฐบาลประชาธิปไตยเป็นรัฐบาลต่างตอบแทนตัวจริง ต้องแทนผู้มีพระคุณที่ทำให้ได้เป็นรัฐบาล ได้เป็นเพราะทหาร กลุ่มที่ออกจากพรรคไทยรักไทย รวมทั้งต้องแก้เศรษฐกิจในรัฐบาลนี้ เพราะมีเถ้าแก่เอสเอ็มอีอยู่ในคณะรัฐมนตรีจำนวนมาก
"รัฐบาลชุดนี้ลงทุนซื้อส.ส. โดยเฉพาะเขียวไข่กา ถ้าสงสัยให้ถามลุงชัย (นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร) แล้วอย่าบอกว่าเขียวไข่กาเป็นมะม่วง จะว่าเป็นฝีมะม่วงถึงใกล้เคียงหน่อย" อดีตนายกฯ กล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เมื่อวันก่อนนั่งเครื่องบินผ่านประเทศโซมาเลียที่มีโจรสลัดคอยปล้นเรือผ่านช่องแคบ ได้เห็นแต่ทะเลทราย ขนาดประธานาธิบดีต้องไปอยู่นอกประเทศ ต้องไปตั้งกองบัญชาการที่เคนย่า เมืองไนโรบี ซึ่งสหประชาชาติ(ยูเอ็น) คอยสนับสนุน นั่นคือภาวะการไร้อำนาจในการทำงาน พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เห็นรัฐบาลกำลังจะแก้กฎหมาย 2 ฉบับแล้วรู้สึกเป็นห่วง ฉบับแรกคือเรื่องการขยายเพดานเงินกู้ได้ถึง 60% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาติ(จีดีพี )ซึ่งต่างประเทศทำได้ เพราะฐานภาษีจัดเก็บได้ 35% ของจีดีพี แต่ประเทศไทยจัดเก็บได้ 15% หากรัฐบาลขยายเพดานเงินกู้ถึง 60% จริง ประชาชนก็เตรียมตัวใน 2 สถานะ คือรัฐบาลจะ
"หากมีการขยายเพดานเงินกู้เกิน 60% จริง นั่นคือกฎหมายที่จะพาคนไทยลงนรก เพราะการกู้เงินเพิ่มเท่ากับทำให้เครดิตประเทศลดลง ต้นทุนการกู้เงินก็จะแพงขึ้น เอกชนก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้น ดังนั้น พอเถอะอย่าไปกู้ ถ้าจะกู้ต้องกู้ตัวเอง แต่อย่ากู้มาก และกู้มาแล้ว ไม่ใช่มากินเปอร์เซ็นต์" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า กฎหมายฉบับที่สอง คือกฎหมายที่อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เขียนไว้เมื่อปี 2502 ที่กำหนดการขาดดุลงบประมาณต้องไม่เกิน 4.5% เพราะต้องการรักษาวินัยการคลัง ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ตั้งงบกลางปีเพิ่มเติมอีกกว่า 1% เมื่อรวมกับงบประมาณ 2552 ที่ตั้งขาดดุล 2.5% รวมแล้วจะเป็นงบประมาณขาดดุล 3.5% เมื่อรวมกับการจัดเก็บภาษีที่ต่ำกว่าเป้าหมาย และรายได้ของรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุนหลายแห่ง รวมประมาณ 2% เท่ากับขาดดุลงบประมาณแล้วกว่า 5-6% ถือว่าผิดวินัยการคลังไปแล้ว จึงเป็นเหตุผลที่รัฐบาลต้องแก้กฎหมายดังกล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า สมัยที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ปลัดกระทรวงการคลังขณะนั้นได้รายงานว่าดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล 8.1% ถือเป็นสัญญาณอันตรายต่อค่าเงินบาท ทางแก้ไขปัญหาคือต้องตัดรายจ่ายภาครัฐลง แต่รัฐบาลขณะนั้นไม่ทำ ทำให้ค่าเงินบาทมีปัญหา และเกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ในรัฐบาลต่อมาคือรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ค่าเงินบาทโดนโจมตีอย่างหนัก
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า รัฐบาลปัจจุบันต้องตัดงบประมาณบางอย่างที่ไม่จำเป็นเพื่อนำงบไปใช้ลงทุนให้เกิดการสร้างงานให้ประชาชน แต่วันนี้รัฐบาลทำงบเพื่อมาแจกประชาชน แบบเดียวกับประชานิยม แต่อยากบอกว่าใช้ไม่ได้กับยุคสมัยนี้ หากหวังคะแนนเสียงจากประชาชนก็จะเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ไม่กี่วันประชาชนก็ลืมแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ประเทศไทยยังมีเงินอยู่มาก ไม่ต้องไปกู้เช่นมีเงินสำรองอยู่ 1.1 แสนล้านเหรียญ แต่มีหนี้เพียง 6.5 หมื่นล้านเหรียญเท่านั้น จึงควรเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ แต่อย่าใช้ให้เสียวินัยทางการคลัง กู้ตัวเองได้ไหม จากกระเป๋าขวา กู้มากระเป๋าซ้าย เงินเหล่านั้นเอามาทำเมกะโปรเจ็คต์ต่างๆ ที่วางไว้ แต่ไม่ได้หมายความว่าให้นายมาร์คเป็นคนทำ เพราะต้องคืนประชาธิปไตยมาก่อน แล้วให้รัฐบาลที่มาจากอำนาจประชาชนที่แท้จริงมาทำ นายมาร์คถ้าแน่จริงให้ยุบสภา ถ้าประชาชนเลือกนายมาร์คมา ค่อยไปทำ "งบที่ไม่จำเป็น อย่างเช่นงบทหาร ต้องลดลงเพราะประเทศกำลังลำบากอย่างนี้ ต้องรอก่อนเงินมันไม่พอ เอาเงินลงใต้ไปแสนล้าน ทั้งที่จีดีพีใต้ไม่ถึง งบที่ลงไปนอกจากจะไปทำลายวัฒนธรรมในพื้นที่แล้ว ก็ยังแก้ปัญหาไม่ถูกจุด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงแนะนำให้ใช้แนวทางเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา แต่วันนี้ต้องเปลี่ยนเป็นจัดซื้อ เบี้ยเลี้ยง เพลิดเพลิน แต่เป็นเฉพาะคนระดับบน ไม่ใช่ระดับล่างที่เหน็ดเหนื่อย" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้คือส่งออกหาย จีดีพีหด หนี้เพิ่ม การจะทำให้หนี้ลดได้มี 2 ข้อ คือจีดีพีต้องโต และ 2.ใช้หนี้ แต่ต้องมีเงินใช้หนี้ แต่ขณะนี้จีดีพีประเทศไทยหด ส่งออกลด จึงถือเป็นความลำบาก
"ผมบอกได้เลยว่าความเจริญของโลกต่อจากนี้ไปจะอยู่ที่เอเชีย ไม่ใช่ที่ตะวันตกอีกแล้ว" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ในการประชุมจี 20 ที่ผ่านมา เป็นการประชุมเพื่อเรียกร้องให้มีการเพิ่มทุนให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จำนวน 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อนำไปปล่อยกู้ให้ยุโรปตะวันออกเพื่อนำไปใช้หนี้ให้ยุโรปตะวันตก ไม่ใช่จะปล่อยกู้ให้ประเทศในเอเชีย เพราะฉะนั้นประเทศไทยต้องช่วยเหลือตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องกู้ต่างประเทศ แต่กู้ตัวเองได้หรือไม่ในเมื่อประเทศไทยมีเงินสำรอง 1.1 แสนล้านเหรียญ แต่ต้องไม่เสียวินัยการคลัง และอีกเรื่องที่ต้องทำคือปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ การทำให้เกิดการบริโภคเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นทำได้แต่ต้องเกิดจากการมีรายได้
พ.ต.ท.ทักษิณยังพยายามโชว์วิสัยทัศน์ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยเน้นให้พัฒนาในเรื่องอาหาร โดยควรดึงกองทุนเพื่อความมั่นคงทางอาหารของตะวันออกกลางมาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งมีความเข้มแข็งในเรื่องนี้
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า อีกเรื่องหนึ่งคือการพัฒนาพืชที่ใช้ทดแทนพลังงาน เพราะเชื่อว่าน้ำมันจะขึ้นไปอยู่ที่ 70 เหรียญ/บาร์เรลแน่ๆ ในปี 2554 นอกจากนี้ควรจะลงทุนระบบโลจิสติคส์ โดยสร้างรถไฟเชื่อมระหว่างกรุงเทพฯกับเมืองหลักๆ ที่เป็นศูนย์คมนาคม เช่น นครราชสีมา ภาชี (อยุธยา) เพชรบุรี ชลบุรี อีกอย่างหนึ่งที่อยากเห็นการลงทุน คือการลงทุนเพื่อการศึกษาให้ทุนแก่เด็กที่มีความสามารถ แต่ไม่มีเงินเรียน ส่วนทางด้านสุขภาพควรสร้างศูนย์เป็นเลิศทางโรคเฉพาะทาง เรื่องน้ำก็ควรทำ เพราะใช้เงินไม่มาก ส่วนภาคใต้ให้ลงทุนเรื่องแลนด์บริดจ์ อุตสาหกรรมทางการท่องเที่ยวก็ต้องช่วยดูแล เพราะตั้งแต่ปิดสนามบิน ธุรกิจตายเกือบหมด
"วันนี้มันยุ่งเหยิงไปหมด ความไม่น่าเชื่อถือมันสูง เราต้องเรียกร้องประชาธิปไตยกลับคืนมา ถ้าไม่คืน ก็ไม่รู้ว่าความเชื่อถือจะอยู่ตรงไหน ขอให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน แก้รัฐธรรมนูญเสีย ถึงเวลาต้องปฏิรูปใหญ่ ปฏิรูปการเมือง โดยให้มีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ปฏิรูปกฎหมายที่ดึงให้ประเทศไทยล้าหลัง ปฏิรูปวัฒนธรรมทางการเมือง ไม่เช่นนั้นประชาชนจะไปไม่รอด" "เอารัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยกลับมาไม่ว่าใครเป็นรัฐบาล ผมพร้อมจะให้คำแนะนำปรึกษา แต่ถ้าพี่น้องบอกว่าทักษิณมาทำเองเลย พร้อมครับ จะขอเหนื่อยตอนอายุ 60 อีกครั้ง"
"พี่น้องครับ ลุกขึ้นขึ้นมาทั้งประเทศไทยมาร่วมกับเสื้อแดง เอาประชาธิปไตยคืนมา ไม่ต้องมากรุงเทพฯก็ได้ ชุมนุมกันทั้งประเทศอย่างสันติ เพื่อบอกให้รู้ว่าเราหวงแหนประชาธิปไตย เอาคืนมาให้เราซะ แล้วความเป็นอยู่พี่น้องจะดีขึ้น" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวด้วยเสียงอันดัง พ.ต.ท.ทักษิรกล่าวว่า บรรดานักการเมืองมาร่วมกับตน อย่าเหนียม ออกมานำพี่นอ้งประชน เราไม่ทำร้ายใคร เราไม่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย เราต้องการประชาธิปไตยแท้จริง ไม่ใช่หลอกหลวง เราต้องการประชาธิปไตยเพื่อประชาชน
"ไม่ต้องห่วงผม ผมห่วงพี่น้องครับ พี่น้องที่มีกำลังมาช่วยเหลือพวกเสื้อแดง ข้าวหม้อแกงหม้อให้พวกเราอยู่และสู้กัน เราต้องการประชาธิปไตยเพื่อประเทศไทย เพื่อคนไทย เพื่อลูกหลานของเรา เราต้องการมีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่อยู่กับประชาธิปไตย โดยไม่มีพวกเกะกะวุ่นว่ายกับการเมือง กับการเมืองผมพร้อมครับ ถ้าผมต้องเดินเข้าประเทศไทย แล้วเราเดินไปด้วยกัน เพื่อได้ประชาธิปไตยซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการ" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว