วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2552

เทือกแบะท่าถกแม้ว จับตา10จว. แดงสมทบม็อบกรุง

ที่มา มติชน

วันดีเดย์ 8เมย.ลุยบ้านป๋า บี้ตัดคลื่น-ทักษิณงดโฟน




ปิดหมาย- พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. ติดคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลแพ่งที่ประตูทำเนียบรัฐบาล ซึ่งศาลสั่งให้ม็อบเสื้อแดงเปิดทางเข้าออก ขณะที่ฝ่ายแกนนำม็อบนปช.ส่งทนายยื่นอุทธรณ์คำสั่งทันที เมื่อวันที่ 1 เม.ย.

มหาดไทยชักหนาวพบตัวเลขผู้ชุม นุมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สั่งจับตาเข้มแดง 10 จังหวัดอีสาน-เหนือหวั่นเข้ากรุงสมทบบุกล้อมบ้านป๋าเปรมวันที่ 8 เม.ย. "เทือก"ก็พล่านเรียกประชุมครม.นัดพิเศษหารือสถาน การณ์ด่วน แบะท่าพร้อมเจรจาแม้ว เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ แต่ย้ำไม่เอาพ.ร.บ.ปรองดอง ด้านรมว. กลาโหมก็ยืนยันทหารเป็นหนึ่งเดียวไม่มีแตกแยก"สุรยุทธ์"เผยไม่ฟ้องพัลลภกล่าวหาร่วมวางแผนโค่นรัฐ บาลทักษิณ อ้างไม่อยากให้เรื่องยาว "จตุพร"ย้ำระดมม็อบ 3 แสนกดดันพล.อ.เปรมลาออกจากองคมนตรีฐานทำให้สถาบันเสื่อมเสีย รัฐบาลบี้ตัดสัญญาณวิดีโอ ลิงก์"ทักษิณ"งดโฟน

-"พงศ์เทพ"ขึ้นเวทีม็อบเสื้อแดง

วันที่ 1 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศบนเวทีปราศรัยในช่วงเช้าว่า วันนี้นอก จากจะมีนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง และนายก่อแก้ว พิกุลทอง นั่งอ่านข่าวเช้าแล้ว ยังมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็น 1 ในมูลนิธิบ้านเลขที่ 111 มานั่งสรุปข่าวเช้าบนเวทีเป็นครั้งแรก พร้อมทั้งกล่าวโจมตีนายกษิต ภิรมย์ รมว. ต่างประเทศ กรณีจะยึดหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคืน รวมถึงเรื่องที่ตำรวจจะถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณด้วย

เวลา 09.30 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. ขึ้นเวทีปราศรัยเชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมให้มากที่สุดในวันที่ 8 เม.ย.ซึ่งจะเป็นวันนัดชุมนุมใหญ่เพื่อขับไล่รัฐบาลขั้นเด็ดขาด เวลานี้เรามีกลุ่มคนเสื้อแดงที่เป็นทั้งทหารและตำรวจอยู่ในทำเนียบรัฐบาลกว่า 2,000 คนแล้ว คนเหล่านั้นได้มาขอเสื้อแดงกับแกนนำ ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องเข้าไปข้างในทำเนียบ ไม่แน่ว่าเมื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เข้ามาในทำเนียบ ทางทหาร ตำรวจที่อยู่ฝ่ายเสื้อแดงอาจจับตัวมาให้เราก็ได้ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. เป็นต้นไปกลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่อยู่นิ่งกับที่แล้ว ที่ผ่านมาจะเห็นว่าเราจะเป็นฝ่ายตั้งรับอยู่กับที่ แต่ต่อไปนี้เราจะเป็นฝ่ายรุกให้รัฐบาลเป็นฝ่ายรับบ้าง โดยในพื้นที่รอบทำเนียบเรามั่นใจว่ารับมือได้ ดังนั้นเราจะเคลื่อนไปยังที่ต่างๆ โดยเฉพาะที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ เราจะไปที่นั่นก่อน ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมตัวตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

-ณัฐวุฒิยืนยันม็อบไม่ได้ปิดประตู

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้ม ครองให้กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงเปิดถนนลูกหลวงจากช่วงแยกเทวกรรมจนถึงสะพานชมัยมรุเชฐ พร้อมทั้งให้เปิดประตู 6 และ 8 นั้น ปรากฏว่าตั้งแต่เวลา 08.30 น. ได้มีสื่อทุกแขนงเฝ้ารอทำข่าวและถ่ายภาพที่ตำรวจจะนำหมายศาลมาติด แต่เมื่อเลยเวลาก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่นำหมายศาลมาติด อย่างไรก็ตาม น่าสังเกตว่าบริเวณสะพานอรทัย ซึ่งปกติจะมีกลุ่มคนเสื้อแดง พร้อมด้วยการ์ดดูแลรักษาความปลอดภัยจะมายืนเฝ้าระวังเต็มบริเวณพื้นที่ถนน แต่เช้าวันนี้ไม่มีกลุ่มคนเสื้อแดงมายืนเฝ้าระวัง ปล่อยให้โล่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ให้เดินผ่านเข้าออกได้สะดวก จะมีกลุ่มคนเสื้อแดงไม่กี่สิบคนที่ไปยืนบริเวณหน้าประตู 8 ที่มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่จะนำหมายศาลไปติด แต่ก็ยังไม่มีมา

ต่อมาเวลา 10.00 น. นายณัฐวุฒิแถลงข่าวหลังเวทีปราศรัยว่า หลังจากศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว กลุ่มเสื้อแดงยืนยันว่าเราเคารพกระบวนการยุติธรรมและคำวินิจฉัยของศาล แต่เราขอสงวนสิทธิ์การต่อสู้ จึงมอบอำนาจให้ทนายไปยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลดังกล่าวในช่วงเช้าที่ผ่านมา สำหรับคำสั่งศาลแพ่งตนได้วิเคราะห์และแยกเป็น 3 ประเด็น 1.กรณีที่ศาลมีคำสั่งให้เปิดเส้นทางประตู 6 และ 8 เพื่อให้ข้าราชการใช้เป็นเส้นทางผ่านเข้าออกนั้น ตามข้อเท็จจริงข้าราชการไม่เคยถูกสกัดขัดขวาง ตั้งแต่กลุ่มเสื้อแดงเข้ามายึดพื้นที่วันที่ 27 มี.ค. ซึ่งเป็นวันแรกที่ข้าราชการต้องมาทำงาน ข้าราชการทุกคนเข้ามาทำงานได้ตลอด ไม่เคยถูกสกัดกั้นและตรวจค้น แต่เราขอให้เจ้าหน้าที่เดินเท้าเข้ามายังทำเนียบเท่านั้น ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีไม่มีปัญหา

-ย้อนทีปชป.จับมือม็อบพันธมิตร

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า 2.กรณีที่เปิดเส้นทางให้รัฐ มนตรีเข้ามาทำงานทำเนียบ กลุ่มเสื้อแดงชุมนุมอย่างสงบและปราศจากอาวุธ เพื่อขับไล่รัฐบาลที่บริหารประเทศไม่ชอบด้วยกฎหมาย หลังจากประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทำเนียบทราบว่าหลังจากกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมรอบทำเนียบ ยังไม่มีทรัพย์สินได้รับความเสียหาย การชุมนุมถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่เราขอสงวนสิทธิ์ส่วนนี้และคาดว่าจะได้รับการพิจารณาจากศาล เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพต่อไป 3.กรณีรัฐมนตรีจะเข้ามาทำงานทำเนียบ ตนคิดว่าขณะนี้ไม่มีความจำเป็นที่รัฐมนตรีต้องเร่งร้อนเข้ามาในทำเนียบ ถึงขนาดใช้กำลังสลายการชุมนุม อีกทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ไม่อยู่ โดยมอบให้นายสุเทพรักษาการแทน ทำให้เห็นว่าการทำหน้าที่รักษาการสามารถใช้สถานที่ไหนก็ได้ทำงาน เช่น กรณีกลุ่มพันธมิตรยึดทำเนียบถือว่าผิดกฎหมายแต่กลับมีส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปให้กำลังใจและจับมือในทำเนียบ เห็นได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์แสดงจุดยืนว่าการให้กลุ่มพันธมิตรยึดทำเนียบถือเป็นความชอบธรรม ถ้าการชุมนุมในทำเนียบถือว่าชอบธรรมบริเวณด้านนอกก็ต้องชอบธรรมด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่คำสั่งศาลระบุให้กลุ่มคนเสื้อแดงใช้เครื่องขยายเสียงที่ไม่รบกวนการทำงานในทำ เนียบ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวขณะที่ศาลกำลังวินิจฉัยทางทนายได้ร้องคัดค้าน เนื่องจากเป็นเรื่องยากในการประเมินเสียงว่าเสียงดังขนาดไหนเป็น การขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นข้าราชการทำงานในห้องแอร์ กว่าเสียงจะเข้าไปในห้องพบว่าเสียงก็ไม่ดัง คิดว่าศาลน่าจะอนุโลมให้ หากมีความจำเป็นจริงเราไม่ขัดข้องที่เจ้าหน้าที่จะนำรถยนต์เข้ามาในทำเนียบ

-เตรียมประเดิมดาวกระจาย 2 เม.ย.

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ทราบว่าขณะนี้มีการออกหนังสือจากกรมการขนส่งทุกจังหวัดถึงผู้ประกอบการรถโดยสารไม่ให้รับงานของกลุ่มคนเสื้อแดง หากต้อง การเหมารถมาชุมนุมในกรุงเทพฯ หากบริษัทใดไม่ปฏิบัติตามจะถูกเพิกถอนและไม่ต่อใบอนุญาตให้ ตนมีหลักฐานดังกล่าว ทางขนส่งจังหวัดชลบุรีส่งมาให้ผู้ประกอบการรายหนึ่งจะนำมาเปิดเผยภายหลัง พฤติ กรรมดังกล่าวอยากย้อนถามข้าราชการว่ามีอำนาจในการกระทำดังกล่าวได้หรือไม่ อีกทั้งหากข้าราชการจะรับใช้คนในรัฐอยากถามว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้วหรือยัง หลังจากนี้ตนจะขอปรึกษากับฝ่ายกฎหมายเพื่อปรึกษาว่าจะดำเนินการกับกรมการขนส่งจังหวัดดังกล่าวได้หรือไม่ เพราะไม่มีสิทธิ์เข้ามาแทรกแซง

ผู้สื่อข่าวถามว่าวันที่ 2 เม.ย.จะดาวกระจายไปยังสถานที่ราชการใดหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ในวันที่ 2 เม.ย.จะเป็นวันแรกที่จะจัดผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวนอกสถานที่เพื่อกดดันหน่วยงานของรัฐบาลบางแห่ง ซึ่งกลุ่มเสื้อแดงจะเคลื่อนไปกระทรวงการคลังเพื่อบอกกับ รมว.คลัง และข้าราชการว่ากลุ่มเสื้อแดงไม่ยอมรับการเข้าสู่อำนาจของรัฐบาล รวมทั้งการที่รัฐ บาลกู้เงินจากหลายประเทศมูลค่ากว่าแสนล้านบาท จึงอยากให้กระทรวงการคลังยุติขั้นตอนดังกล่าว

ต่อข้อถามว่า ครม.มีการประชุมนอกสถานที่ กลุ่มคนเสื้อแดงจะไปขัดขวางหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า วันนี้เราจะไม่ไปขัดขวาง ส่วนวันอื่นหากมีการประ ชุมนอกสถานที่จะหารือกันอีกครั้ง เมื่อถามว่าหลังจากกลุ่มเสื้อแดงระดมมวลชนในวันที่ 8 เม.ย.เพื่อเคลื่อนไปยังบ้านสี่เสาเทเวศร์ จากนั้นจะสลายการชุมนุมหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ในวันที่ 8 เม.ย.จะมีผู้มาชุมนุมกันจำนวนมากเพื่อขับไล่ระบอบอำมาตยาธิป ไตย ส่วนจะมีการสลายการชุมนุมหรือไม่ขณะนี้เรามีความคิดว่าน่าจะมีการรดน้ำดำหัวในรูปแบบประชา ธิปไตยในช่วงเทศกาลสงกรานต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายณัฐวุฒิแถลงอยู่ด้านหลังเวที ทางการ์ดกลุ่มเสื้อแดงได้สกัดกั้นและจับกุมหญิงสูงอายุไม่ให้เข้าไปในพื้นที่การชุมนุม โดยอ้างว่าหญิงดังกล่าวนำสุราและเบียร์เข้าไปขายในพื้นที่การชุมนุม ทางการ์ดจึงต้องใช้กำลังยื้อยุด ฉุดกระชากหญิงดังกล่าวออกนอกพื้นที่ สร้างความแตกตื่นให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เดินผ่านไปมาเป็นอย่างมาก

-รุดแปะหมายคำสั่งศาลคุ้มครอง

เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 1 เม.ย. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เดินทางขึ้นรถตู้เพื่อออกไปติดหมายของศาลแพ่ง ที่เวที นปช. บริเวณข้างทำเนียบรัฐบาล โดยพล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า จะนำหมายไปให้แกนนำนปช. ซึ่งเบื้องต้นทราบว่ามีอยู่ 2 คนคือ นายวีระ มุสิกพงศ์ กับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ซึ่งหากไปแล้วพบตัวก็จะไปให้กับมือ แต่หากไปแล้วไม่พบก็จะนำหมายไปติดที่ประตูที่ 6 และประตูที่ 8 ที่ศาลมีคำสั่งไม่ให้กลุ่มแนวร่วมกีดขวางทางเข้าออก และเป็นจุดที่ให้เปิดประตู

"เชื่อว่าตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าศาลมีคำสั่งคุ้มครอง เรื่องคำสั่งน่าจะรู้กันไปทั่วโลกแล้วด้วยซ้ำ ก็ต้องดูว่าจะปฏิบัติตามหรือไม่ หากไม่ปฏิบัติตามกรมบังคับคดีก็ยื่นเรื่องไปที่ศาลอุทธรณ์ต่อไป ตอนนี้ถึงทางกลุ่มคนเสื้อแดงจะยื่นอุทธรณ์ก็ไม่มีผล จนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น" รอง ผบช.น.กล่าว

-ครม.นัดประชุมประเมินเสื้อแดง

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่กรมประชาสัมพันธ์ ซ.อารีย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุม ครม.นัดพิเศษอย่างไม่เป็นทางการเพื่อประเมินสถานการณ์บ้านเมืองทั่วไปโดยเฉพาะการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงและการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งพาดพิงถึงหลายบุคคลและหลายสถาบัน

ก่อนหน้านี้ เวลา 07.25 น. นายสุเทพให้สัมภาษณ์ถึงศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล เปิดทางให้กับคณะรัฐมนตรีและข้าราชการเข้าไปทำงานในทำเนียบรัฐบาลว่า ตนเพิ่งได้สำเนาคำสั่งของศาล เมื่อเกิดกรณีผู้ชุมนุมปิดล้อมทำให้ข้าราชการไม่สามารถเข้า-ออกเพื่อปฏิบัติหน้าที่ได้ หรือเกิดความไม่สะดวกหรือรู้สึกไม่ปลอด ภัยในการเดินทางเข้า-ออก จึงต้องดำเนินการตามกฎหมาย ดังนั้น ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจึงยื่นคำ ร้องต่อศาลแพ่งโดยขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และพวก เปิดพื้นที่การจราจรบนถนนลูกหลวงซึ่งเป็นถนนเข้า-ออกทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่สะพานเทวกรรมถึงแยกมัฆวานรังสรรค์ ซึ่งเป็นถนนเข้าทำเนียบรัฐ บาลบริเวณประตู 6 และ 8 เพื่อให้ประชาชนและข้าราชการ รวมถึง ครม.นำรถยนต์เข้า-ออก เพื่อปฏิบัติหน้าที่โดยสะดวก

-ปัดม็อบนัดชุมนุมบ้านป๋า 8 เม.ย.

ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลจะดำเนินการอย่างไร รักษาการนายกฯ กล่าวว่า เมื่อฝ่ายรัฐบาลและเจ้าหน้าที่แสดงความรับผิดชอบปฏิบัติตามกฎหมายแล้วขอให้ฝ่ายผู้ชุมนุมดำเนินการด้วย เมื่อถามว่าหากกลุ่มผู้ชุมนุมอ้างว่าจะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล เพราะยื่นอุทธรณ์ไปแล้ว จะดำเนินการอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า คิดว่าคำสั่งของศาลชัดเจน เพราะศาลสั่งให้มีการคุ้มครองชั่วคราวจนกว่าคดีจะถึง ที่สุด หรือศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น หมายความว่าขณะนี้ต้องทำตามที่ศาลสั่งไปก่อน ส่วนการยื่นอุทธรณ์ ก็เป็นสิทธิที่ทำได้

ต่อข้อถามว่ามองข้อเสนอของน.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ที่เสนอให้รวบตัวแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่ทราบถึงข้อเสนอดังกล่าว เพราะไม่เคยมีใครเสนอให้รวบตัวแกนนำเลย เมื่อถามย้ำว่าจำเป็นต้องดำเนินการหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า รัฐ บาลนี้เป็นรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยที่ยึดกฎ หมายเป็นหลัก เราเคารพและปฏิบัติตามกฎหมาย การชุมนุมเป็นสิทธิที่ทำได้ตราบใดที่ไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย แต่หากมีการฝ่าฝืนกฎหมายก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ และรัฐบาลต้องกำกับดูแลให้เป็นไปตามกฎหมาย

เมื่อถามว่ากังวลว่าจะเกิดเหตุรุนแรงหรือไม่ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมประกาศนัดชุมนุมใหญ่ให้กินพื้นที่กว้างไปถึงหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ในวันที่ 8 เม.ย.นี้ รักษาการนายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่รัฐบาลจะพยายามป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้น ถ้าปล่อยให้เกิดเหตุ การณ์รุนแรงจะยิ่งซ้ำเติมทำให้ประเทศชาติเสียหาย ดังนั้นรัฐบาลจะระมัดระวังอย่างที่สุด ใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างที่สุด

-จี้ผู้บังคับบัญชาดูแลตร.เสื้อแดง

เมื่อถามว่าจะถึงขั้นเจรจากับแกนนำเพื่อให้เห็นแก่ส่วนรวมหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า คิดว่าคนที่เป็นหัวขบวนในการชุมนุมเป็นถึงอดีตนายกฯ อดีตรัฐมนตรี เป็นส.ส.ย่อมมีวิจารณญาณ มีความสำนึกรับผิดชอบต่อบ้านเมืองอยู่แล้ว ควรคิดได้ด้วยตัวเอง เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าจะไม่เจรจาใช่หรือไม่ นายสุเทพได้แต่หัวเราะ โดยไม่ตอบคำถาม

1.รับมือม็อบ - นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ประชุมครม.นัดพิเศษ ที่กรมประชาสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 1 เม.ย. โดยหารือถึงการชุมนุมของม็อบเสื้อแดง โดยเฉพาะการหาช่องทางตัดสัญญาณโฟนอิน และวิดีโอลิงก์ ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ต่อสายมาปลุกม็อบทุกวัน

2.หนุนป๋า- เครือข่ายคนรักแผ่นดินเกิด ชูป้ายสนับสนุน"ป๋าเปรม"พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ชุมนุมประท้วงที่หน้ารัฐสภา เรียกร้องให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และกลุ่มคนเสื้อแดงยุติการโจมตีพล.อ.เปรม และสถาบันองคมนตรี เมื่อวันที่ 1 เม.ย.

3.ขึ้นเวที- นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พร้อมด้วย น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ที่แจ้งเกิดในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ขึ้นเวทีปราศรัยของม็อบเสื้อแดง ร่วมโจมตีรัฐบาล เมื่อวันที่ 1 เม.ย.

4.ตร.สีแดง- เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนเลือกซื้อผ้าโพกหัวสีแดง ระหว่างดูแลการชุมนุมประท้วงรอบทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ขณะที่แกนนำนปช.ยังขึ้นเวทีโจมตีรัฐบาลและพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ตามข่าว



ต่อข้อถามถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจมีแนวโน้มถอดเครื่องแบบมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงเพิ่มมากขึ้น นายสุเทพกล่าวว่า ต้องแยกแยะบทบาทหน้าที่ให้ชัด ข้าราชการก็เหมือนประชาชน แต่มีหน้าที่ปฏิบัติราช การตามภาระหน้าที่ ส่วนเวลานอกเหนือจากราชการเขามีสิทธิเหมือนประชาชนทั่วไปตราบเท่าที่ไม่มีการทำผิดกฎหมาย แต่ถ้าทำผิดกฎหมายเสียเองจะถูกลงโทษมากกว่าคนอื่น เมื่อถามว่าการสวมเสื้อแดงทับเครื่องแบบตำรวจทำได้หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ใช่หน้าที่ของตนที่จะวินิจฉัย มีผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นที่จะต้องดูแล เมื่อถามว่าจะยิ่งทำให้สถาน การณ์คุกรุ่นมากขึ้นหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า อย่ามองโลกในแง่ร้าย เราอย่าไปสร้างกระแสซ้ำเติมภาวะของประเทศให้รุนแรงไปมากกว่านี้ ปฏิบัติตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

-"ตาล"รับหารือตัดคลื่นโฟนอินแม้ว

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมครม.นัดพิเศษว่า ในที่ประชุมจะคุยถึงการตัดสัญญาณถ่ายทอดการโฟนอิน เพราะการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณตั้ง ใจให้กระทบกับสถาบันและปลุกระดมให้กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ดังนั้นรัฐบาลจะต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง

เมื่อถามว่าเมื่อตัดสัญญาณแล้วจะชี้แจงกับประชา ชนอย่างไร นายสาทิตย์กล่าวว่า บางเรื่องรัฐบาลต้องกล้าหาญที่จะทำ หากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นการใช้สิทธิแบบธรรมดาก็ไม่เป็นไร แต่ละเมิดสถาบันองคมนตรีรัฐบาลอยู่เฉยไม่ได้ เนื่องจากรัฐ ธรรมนูญกำหนดไว้ว่าการแต่งตั้งองคมนตรีเป็นพระราชอำนาจ ดังนั้น รัฐบาลจะต้องชี้แจงให้เข้าใจและจะปล่อยให้ลุกลามใหญ่โตไม่ได้ เมื่อถามว่าการชี้แจงจำเป็นต้องตั้งวอร์รูมขึ้นมาหรือไม่ รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลต้องชี้แจงเป็นระยะเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าควรรวบแกนนำเพื่อยุติปัญหานั้น นายสาทิตย์กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องคุยกันก่อน

-สั่งให้ทุกหน่วยเร่งชี้แจงประชาชน

เวลา 10.30 น. ที่กรมประชาสัมพันธ์ นายสุเทพ แถลงผลการประชุมครม.พิเศษที่ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ว่า ได้พูดคุยถึงสถานการณ์ในขณะนี้ และรับฟังเสียงประชาชน โดยเฉพาะกรณีที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลและประกาศโค่นล้มการปกครองระบอบอมาตยาธิปไตย และประชาชนบางส่วนกังวลว่าจะเกิดเหตุรุนแรงหรือการปะทะจนเลือดตกยางออก ขณะที่ประชาชนบางส่วนกังวลกับกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้วิธีโฟนอินหรือวิดีโอลิงก์เข้ามาปลุกปั่นยุยงให้ประ ชาชนลุกขึ้นต่อสู้กับรัฐบาล เพื่อให้เกิดลักษณะของการก่อจลาจลและมีคำถามว่ารัฐบาลไม่ทำอะไร ยืน ยันว่ารัฐบาลได้ติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งจะระวังไม่บริหารประเทศโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของข่าวลือ หรือกระแสข่าวยังไม่ได้รับการตรวจสอบ ดังนั้นรัฐบาลจะใช้เหตุผล อีกทั้งจะพูด จาด้วยความระมัดระวัง ไม่ไปซ้ำเติมสถานการณ์ให้ขยายวงกว้างเกินความเป็นจริง

นายสุเทพ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มอบภารกิจให้แต่ละกระทรวงไปปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายอนุญาต เช่น กระทรวงมหาดไทย มอบให้ผู้ว่าฯ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อปท. ไปทำความเข้าใจกับประชาชน ให้เข้าใจสถานการณ์และข้อเท็จจริงกับประชาชน กระทรวงกลาโหม ต้องชี้แจงกรณีที่มีการกล่าวหาผู้นำกองทัพ โดยยืนยันว่าทหารเป็นทหารของประชาชน เป็นทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่ทหารของพรรคใดพรรคหนึ่ง จึงไม่ต้องกังวลว่าทหารจะเป็นเครื่องมือของใคร

-แบะท่าพร้อมเจรจากับทักษิณ

นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลจะยึดถือกฎหมายในการแก้ไขปัญหา ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลเห็นตรงกัน และจะดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมาย รัฐบาลจำเป็นต้องชี้แจง ไม่ใช่ตอบโต้กลุ่มผู้ชุมนุม แต่ทำให้ประ ชาชนเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา ตนฝากบอกถึงกลุ่มผู้ชุมนุมว่าสิ่งที่รัฐบาลพูด อย่าคิดว่ารัฐบาลท้าทายหรือยั่วยุ เพราะรัฐบาลไม่คิดทำเช่นนั้น ตรงกันข้ามรัฐบาลตั้งใจเห็นความสมานฉันท์ อยากเห็นการพูดจาตกลงกัน ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ถ้าเป็นเรื่องที่รัฐบาลทำได้ ก็พร้อมเจรจาเพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบ ถ้าอยากให้ตนไปเจรจาที่ไหนก็พร้อม ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณนัดหมายว่าจะเจรจาที่ใดก็พร้อมเจรจาด้วย เพราะเห็นว่าคนที่สั่งการกลุ่มคนเสื้อแดงตัวจริงคือพ.ต.ท.ทักษิณ

"ขณะนี้ยังไม่มีการเสนอเงื่อนไขใดๆ เข้ามา เพียงแต่เห็นว่ามีร่างพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติหรือกฎหมายนิรโทษกรรม ที่พรรคเพื่อไทยเสนอเข้าสู่สภา และได้พิจารณาแล้วเห็นว่าร่างฉบับดังกล่าวขัดกับหลักการในระบอบประชาธิปไตยตามปกติ เพราะเป็นการออกกฎหมายเพื่อไม่ให้เอาโทษกับคนที่เคยทำผิดไม่ต้องติดคุก ถ้าคุณทักษิณคิดว่าเป็นเงื่อนไขที่จะเจรจา ผมขอเรียนว่ารัฐบาลคงทำด้วยยาก เพราะร่างฉบับต้อง การช่วยไม่ให้คุณทักษิณติดคุก ทั้งที่ถูกศาลพิพากษาให้จำคุก รวมทั้งบอกให้คืนทรัพย์ที่ถูกยึดทั้งหมดนั้น ถ้าเป็นข้อเสนออย่างนี้รัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยชุดใดก็ทำไม่ได้ ดังนั้นการเจรจาหรือดำเนินการต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงตามหลักการของกฎหมาย และหลักนิติรัฐ" นายสุเทพ กล่าว

เมื่อถามว่าได้วางรูปแบบที่รัฐมนตรีจะออกมาชี้ แจงกรณีที่ถูกกล่าวหาหรือถูกพาดพิงอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งอาจขอความร่วมมือจากสื่อในการให้สัมภาษณ์พิเศษหรือออกรายการต่างๆ ตามความเหมาะสม แต่คงไม่ถึงกับต้องออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยหรือทีวีพูล เราเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย จะไม่บังคับประชาชน แต่จะออกเมื่อมีคนเรียกร้องมาจำนวนมาก

-ฮึ่มใช้กฎหมายจัดการ-ถ้าทำเกินเลย

เมื่อถามว่าได้หารือกับรมว.ไอซีที เรื่องการตัดสัญ ญาณวิดีโอลิงก์ของพ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องการตัดสัญญาณต้องดูข้อกฎหมายเป็นหลัก หากกฎหมายให้ทำได้ก็จะตัดทันที แต่ถ้าบอกว่าทำไม่ได้ก็ไม่ตัด ทั้งนี้รมว.ไอซีทีจะรับไปพิจารณาและดูในข้อกฎหมายต่อไป เมื่อถามว่าการชุมนุมผ่านมาหลายวันแล้วยังไม่ได้ดูในข้อกฎหมายอีกหรือว่าทำได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า กฎหมายบางฉบับต้องเรียนกันเป็นเทอม แต่รัฐบาลยินดีทำอะไรช้าบ้างเพราะต้องยึดหลักว่าเราต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลได้ประสานงานกับประเทศต่างๆ ที่เรามีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อขอให้สกัดกั้นไม่ให้พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยอมรับว่ารมว.ต่างประเทศได้ประ สานไปแล้ว เมื่อถามว่าขณะนี้รัฐบาลมีมาตรการป้อง กันไม่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนไปชุมนุมที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ ในวันที่ 8 เม.ย.นี้ รองนายกฯ กล่าวว่า รัฐ บาลคงไปห้ามไม่ได้ แต่ต้องไม่กระทำการที่ผิดกฎ หมายหรือละเมิดสิทธิของคนอื่น เพราะถ้าไม่ใช้กฎหมายมาบังคับก็อาจเกิดความโกลาหล สร้างความเสียหายให้ประเทศถึงขั้นกลียุค แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นว่าจะถึงขั้นแตกหัก

-ยืนยันไม่มีซื้อตัวทหารเพื่อปฏิวัติ

เมื่อถามถึงกระแสข่าวมีการซื้อตัวทหารเพื่อทำการปฏิวัติ นายสุเทพ กล่าวว่า "ผมต้องกราบเลยว่า สื่ออย่าตั้งคำถามแบบนี้ เพราะจะทำให้ประชาชนตกใจ ไม่จริง ไม่มี ทหารเป็นทหารของประชาชนและทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นของประเทศไทย ไม่ใช่สินค้าที่ใครจะมาซื้อขายได้ ดังนั้นขอการันตีในฐานะรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงได้เลย"

ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวยืนยันว่า ทหารเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่ความคิดอาจจะแตกต่างกันในทางประชาธิปไตย แต่ทหารไม่แตกแยกเพราะมีระเบียบวินัย จึงไม่ต้องห่วง ส่วนตัวคิดว่าต้องทำตามกฎหมายอย่างที่นายสุเทพพูด เพราะค่อนข้างชัดเจน ดังนั้น ถ้าเราทำตามกฎหมายได้ ประ เทศจะเดินไปได้ เมื่อถามว่าแต่บางครั้งการใช้ความเด็ดขาดจะกลายเป็นการยั่วยุ จะตัดสินใจกันอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องดูว่าการแก้ปัญหาต้องแก้ไปตามสถานการณ์

เมื่อถามว่าในวันที่กลุ่มผู้ชุมนุมประกาศจะไปปิดล้อมบ้านพล.อ.เปรม กองทัพจะป้องกันอย่างไร รมว. กลาโหม กล่าวว่า "คงยังไม่มี"

-ระนองรักษ์สอบดาวเทียมวิดีโอลิงก์

ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า กระทรวง ไอซีทีจะต้องให้นักกฎหมายดูเรื่องนี้อย่างละเอียด โดยเฉพาะเรื่องการส่งสัญญาณความถี่ที่มีกฎหมายหลายอย่างเกี่ยวข้อง เบื้องต้นหากเป็นวิดีโอลิงก์ที่ใช้ดาวเทียม กระทรวงต้องดูว่าใช้ดาวเทียมลูกไหนของประเทศใด เรื่องนี้ต้องหาคำตอบโดยเร็ว คาดว่าในวันเดียวกันนี้คงรู้ แต่จะไม่รู้ถึงเรื่องการตัดสัญญาณได้หรือไม่ เพราะการตัดสัญญาณไม่ใช่เรื่องเล็ก และอาจกระทบสัญญาณของคนอื่นด้วย อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันนี้ตนจะเดินทางไปยังกสท เพื่อหารายละเอียดในเรื่องดังกล่าว หากเป็นดาวเทียมของไทยคงต้องดูว่ามีการขออนุญาตหรือไม่ แต่ถ้าเป็นดาวเทียมจากต่างประเทศต้องยอมรับว่ารัฐบาลคงเข้าไปทำอะไรได้น้อย ขณะนี้ต้องดูที่พ.ร.บ.การสื่อสารฯ มาตรา 63 และอื่นๆ ประกอบเพราะมีกฎหมายหลายฉบับไม่ว่าจะเป็นกฎหมายเกี่ยวกับดาวเทียมหรือเว็บไซต์ และหากเป็นเว็บไซต์ก็ดำเนินการได้ทันที โดยดูที่เนื้อหาว่าหมิ่นเหม่หรือไม่ กระทบต่อความมั่นคงหรือไม่ และผิดวัฒนธรรมหรือไม่

เมื่อถามว่าการปลุกระดมของพ.ต.ท.ทักษิณดำเนินการได้หรือไม่ รมว.ไอซีที กล่าวว่า ต้องให้นักกฎ หมายตีความว่าการกระทำนั้นสมเหตุสมผลหรือไม่ สร้างความแตกแยกหรือทำให้ความมั่นคงของประเทศเสียหายหรือไม่ แต่ทุกครั้งที่พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอิน เราได้บันทึกเทปเอาไว้แล้ว ทั้งนี้ รัฐบาลจะทำอะไรต้องชัดเจน ไม่ใช่ทำอะไรไปแล้วถูกฟ้องกลับได้

-มท.บี้ผู้ว่าฯห้ามม็อบล้อมศาลากลาง

เวลา 10.30 น. ที่กรมประชาสัมพันธ์ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กล่าวภายหลังการประ ชุมว่า ที่ประชุมได้ย้ำกรณีที่มีการเกณฑ์คนจากต่างจังหวัดมาร่วมชุมนุม รวมถึงการชุมนุมตามศาลากลางจังหวัด โดยตนได้รายงานให้นายสุเทพ ทราบและจะกำชับผู้ว่าฯไม่ให้มีการชุมนุมบริเวณโดยรอบศาลากลางจังหวัด แต่ผู้ว่าฯจะต้องจัดหาที่ชุมนุมให้กับผู้ชุมนุม โดยอาจเป็นสวนสาธารณะหรือสนามฟุตบอล แต่จะไม่ให้ชุมนุมในรั้วของศาลากลางจังหวัด ซึ่งต้องปฏิบัติให้เห็นผลภายในวันที่ 3 เม.ย.นี้ หากผู้ว่าฯจังหวัดใดปฏิบัติไม่ได้ ถือว่าปฏิบัติหน้าที่หย่อนยาน และต้องได้รับการคาดโทษ ส่วนการตัดสัญญาณวิดีโอลิงก์ของพ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ที่ประชุมได้มอบหมายให้ร.ต.หญิงระนองรักษ์ ไปดูแล คาดว่าภายใน 2 วันนี้จะมีความชัดเจน

-พัลลภยังไม่ขึ้นเวทีม็อบแดงตอนนี้

วันเดียวกัน พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงข่าวจะขึ้นเวทีปราศรัยกับกลุ่ม นปช.ในค่ำวันเดียวกันนี้ว่า ตนไม่ขึ้นเวทีแน่นอน เพราะไม่เคยพูด เป็นเพียงการมัดตัว กดดันให้ตนไปปราศรัยบนเวที แต่ยืนยันอีกครั้งว่าถ้าจะขึ้นต้องเป็นวันดีเดย์ถึงขั้นแตกหัก หรือวันเสียงปืนแตก ตนถึงจะขึ้นปราศรัย ถ้าขึ้นตอนนี้จะเสียหาย ทั้งนี้แกนนำกลุ่ม นปช.ไม่เคยปรึกษาหารือตนเลย มีคน โทร.มาถามตนมากว่าจะขึ้นเวทีปราศรัยหรือไม่ ซึ่งมีคนตั้งใจจะไปฟัง ตนพูดข้อเท็จจริงจำนวนมาก แต่จนถึงวันนี้ยังไม่ถึงเวลา

เมื่อถามถึงกลุ่ม นปช.จะเคลื่อนตัวไปล้อมบ้านพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี พล.อ. พัลลภกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นความพยายามกดดัน แต่คงไม่สำเร็จ เพราะเป็นเรื่องยาก คงไปเย้วๆ กันมากกว่า ไม่มีประโยชน์อะไร

-"สุรยุทธ์"ยืนยันไม่ได้ทำนอกหน้าที่

ที่โรงแรมสยามซิตี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงพล.อ.พัลลภจะขึ้นเวทีของกลุ่มเสื้อแดง โดยจะพูดถึงเบื้องหลังของการปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ว่า คงให้ประชาชนพิจารณาว่ามีสิ่งที่น่าจะเป็นประโยชน์ หรือเป็นสิ่งที่ประชาชนจะใช้วิจารณญาณของตนเองได้ ตนคงจะชี้แจงได้เฉพาะเท่าที่จำเป็น คงไม่สามารถพูดอะไรต่อเนื่องเหมือนการชุมนุมต่างๆ ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะเป็นข้อจำกัด ทั้งนี้ถือว่าตนได้ชี้แจงไปแล้วในส่วนที่ผูกพันกับตนจึงไม่มีอะไรเพิ่มเติมในด้านนั้น

เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณยังคงเดินหน้าโจมตีว่าอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติ พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า หากท่านได้รับข้อมูลและคิดไปอย่างนั้นคงห้ามไม่ได้ แต่อยากให้ประชาชนพิจารณาและใช้วิจารณญาณว่าสิ่งที่ตนกระทำไปนั้นได้ทำนอกเหนือหน้าที่หรือไม่อย่างไร อยากให้ประชาชนได้พิจารณา

เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ที่พ.ต.ท.ทักษิณพุ่งเป้าโจมตีท่านและประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พล.อ. สุรยุทธ์กล่าวว่า คงไม่หนักใจ เพราะความจริงต้องเปิด เผยและผู้ที่ทำสิ่งใดผลการกระทำนั้นจะตอบสนองบุคคลเหล่านั้น ไม่ว่าจะในทางที่ดีหรือไม่ดี

-ไม่ฟ้องพัลลภอ้างจะทำให้เรื่องไม่จบ

เมื่อถามถึงนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย แนะให้พล.อ.สุรยุทธ์ไปฟ้องศาล หากเห็นว่าพล.อ.พัลลภกล่าวหา เพื่อให้ข้อเท็จจริงเกิดขึ้น พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า ตนมีข้อพิจารณา ของตัวเอง คิดว่าเราไม่ควรทำเรื่องให้ยืดยาวออกไป สิ่งใดที่ประชาชนใช้วิจารณญาณได้โดยไม่จำเป็นต้องนำเรื่องเข้าไปสู่ขั้นตอนของศาลจะทำให้เรื่องเหล่านั้นสั้นลง

เมื่อถามว่าจะมีแนวทางการแก้ไขปัญหาขณะนี้อย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า คงไม่มีข้อคิดที่จะตอบได้ในขณะนี้เพราะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างกว้างขวางและต้องการความร่วมมือจากประชาชนและหลายฝ่ายว่าเราต้องการให้บ้านเมืองเราสงบสุขในระยะเวลาสั้นๆ หรือไม่ และเราจะได้มาช่วยกันแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้าคงเป็นปัญหาเศรษฐกิจ คิดว่าสิ่งเหล่านี้เมื่อเราพิจารณาให้รอบคอบน่าจะหาทางออกได้

เมื่อถามว่าในที่ประชุมองคมนตรีเป็นห่วงกรณีที่มีการกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติหรือไม่ พล.อ. สุรยุทธ์กล่าวว่า การประชุมองคมนตรีครั้งที่ผ่านมาไม่ได้พูดถึงสถานการณ์บ้านเมือง เป็นเพียงการพูดตามวาระปกติ

-มท.1 ยอมรับมีผู้ร่วมชุมนุมเพิ่มขึ้น

เวลา 09.00 น. ที่กรมประชาสัมพันธ์ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการประกาศชุม นุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 8 เม.ย.นี้ว่า จากที่ฟังข้อมูลจากสื่อรู้สึกเป็นห่วง เพราะอาจมีประชาชนมาร่วมชุมนุมจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดมีหน้าที่ทำความเข้าใจกับประชา ชนเพื่อไม่ให้มาร่วมชุมนุม ถือเป็นการทำงานตามปกติของผู้ว่าฯ อยู่แล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนที่ผู้ชุมนุมยึดศาลากลางจังหวัด 42 จังหวัดนั้น เชื่อว่าเป็นการเช็กขุมกำลังของคนเสื้อแดงก่อนที่จะชุมนุมใหญ่ เพื่อที่จะรวบรวมไว้ในจุดเดียวกัน เพราะสะดวกต่อการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งจะรวบรวมประชาชนได้ง่ายขึ้น

เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยประเมินว่าการชุมนุมใหญ่จะมีคนมากจนถึงบ้านสี่เสาเทเวศร์อย่างที่กลุ่มเสื้อแดงประกาศไว้หรือไม่ นายชวรัตน์กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องถามคนที่จะกระทำ เพราะเราเป็นผู้ถูกกระทำ ส่วนที่รัฐบาลจะถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณเหมาะ สมหรือไม่นั้น นายชวรัตน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือรายการ ตนไม่สามารถตอบได้

-บุญจงจับตา 10 จังหวัดเหนือ-อีสาน

นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในต่างจังหวัดว่า ตนติดตามอยู่ตลอดเวลาซึ่งได้มอบหมายให้ผู้ว่าฯ ดูแล ให้การชุมนุมเรียบร้อย ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยเตรียมแผนไว้รองรับกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศชุมนุมแตกหักในวันที่ 8 เม.ย. นายบุญจงกล่าวว่า การชุมนุมเป็นสิทธิตามกฎ หมายแต่ถ้ากระทำผิดต้องดำเนินคดี กระทรวงได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำความเข้าใจกับประชาชน เพราะเชื่อว่าทุกคนต้องการให้ประเทศเกิดความสงบ เรียบร้อย เมื่อถามว่ามีมาตรการใดที่จะสกัดไม่ให้เดินทางเข้ามาชุมนุมในกทม. นายบุญจงกล่าวว่า การสกัดคนไม่ใช่นโยบายของกระทรวง แต่จะใช้วิธีคุยทำ ความเข้าใจทั้งเรื่องเศรษฐกิจและปากท้องของประชา ชนว่าการมาชุมนุมทำให้บ้านเมืองเสียหาย ซึ่งตนมั่น ใจว่าข้าราชการทำได้

เมื่อถามว่าที่ผ่านมาข้าราชการทำความเข้าใจมาตลอดแต่การชุมนุมยังมีอยู่ นายบุญจงกล่าวว่า การที่มีม็อบเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตยประชาชน หน้าที่ของรัฐบาลต้องทำความเข้าใจ ต่อข้อถามว่าล่าสุดมีแกนนำท้องถิ่นเข้าไปร่วมชุมนุมด้วย นายบุญจงกล่าวว่า ยอมรับว่ามีบ้างในบางพื้นที่แต่ส่วนใหญ่ผู้ใหญ่หรือผู้บริหารท้องถิ่นเข้าใจว่าหากยังมีการชุม นุมอยู่จะมีแต่ความวุ่นวาย ซึ่งจุดนี้ผู้ว่าฯ ต้องไปดูแล แต่คงไม่ดำเนินการลงโทษ เพราะถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล

ผู้สื่อข่าวถามว่าในวันที่ 8 เม.ย เจ้าหน้าที่จะควบ คุมสถานการณ์ไม่ให้ประชาชนเข้ามาร่วมชุมนุมได้ รมช.มหาดไทยกล่าวว่า มั่นใจว่าส่วนราชการทำความเข้าใจได้ ถ้าทำเต็มที่แล้วทำไม่ได้ถือว่าปกติ แต่ถ้าปล่อยว่างไม่ให้ความสนใจก็คงต้องพิจารณา

เมื่อถามว่าได้กำชับหรือมอบนโยบายกับผู้ว่าฯ ในจังหวัดที่เป็นพื้นที่ของกลุ่มเสื้อแดง เช่น จ.เชียงใหม่ ให้เข้มข้นขึ้นหรือไม่ นายบุญจงกล่าวว่า ผู้ว่าฯ รู้ดีว่าจังหวัดใดที่เป็นเป้าหมาย ต้องทำงานให้เข้มข้นขึ้น ต่อข้อถามว่าจะต้องจับตาจังหวัดใดเป็นพิเศษ นายบุญจงกล่าวว่า มีประมาณ 10 จังหวัดในภาคอีสานและภาคเหนือบางส่วน ซึ่งตนคิดว่าถ้ามีการทำความเข้าใจ ก็ไม่น่ามีปัญหา

-ม็อบร่ำไห้-ต่อว่าตร.สองมาตรฐาน

เมื่อเวลา 11.45 น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศาลแพ่งและกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 10 นาย ได้เดินทางมาที่หลังเวทีปราศรัยสะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อนำคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลแพ่งมามอบให้แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงทั้ง 3 คน ที่ตกเป็นจำเลย ซึ่งประกอบด้วยนายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายวีระ มุสิกพงศ์ แต่เมื่อมาถึงกลับไม่พบแกนนำทั้ง 3 คน เจ้าหน้าที่จึงนำคำสั่งศาลมาติดไว้ที่บริเวณประตู 6 และ 8 ของทำเนียบรัฐบาลเพื่อแจ้งให้จำเลยได้รับทราบคำสั่งดังกล่าว โดยมีผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 30 คนติดตามมาสังเกตการณ์ พร้อมตะโกนโห่ไล่และต่อว่าเจ้าหน้าที่ด้วยถ้อยคำหยาบคาย

พล.ต.ต.อำนวยกล่าวภายหลังติดคำสั่งศาลว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ของศาลแพ่งได้นำคำสั่งศาลมายื่นให้กับจำเลยทั้งสามได้รับทราบ แต่ปรากฏว่าเมื่อมาถึงไม่พบจำเลย เจ้าหน้าที่จึงต้องนำคำสั่งศาลมาติดที่ประตู 6 และ 8 โดยคำสั่งศาลมีใจความสรุปว่า ให้จำเลยทั้งสามและจำเลยห้ามขัดขวางการเข้าออกทำเนียบรัฐบาล บริเวณประตู 6 และ 8 ห้ามใช้เครื่องขยายเสียงในระดับเสียงที่เป็นการรบกวนข้าราชการในทำเนียบตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.ของทุกวันทำการ ทั้งนี้ภายหลังเจ้าหน้าที่นำคำสั่งศาลมาติดถือว่ามีผลทันที หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะติดตามว่าจำเลยได้ทำตามคำสั่งศาลหรือ ไม่ หากจำเลยยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล โจทก์มีสิทธิ์ยื่นคำร้องต่อกรมบังคับคดีให้เข้ามาดำเนินการได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่นำหมายศาลมาติดได้มีผู้ชุมนุมจำนวนมากต่างเข้ามายืนอ่านหมายศาลด้วยความสนใจ โดยเฉพาะประตู 8 ผู้ชุม นุมบางคนถึงกับร้องไห้และต่อว่าตำรวจทำงาน 2 มาตรฐานไม่เหมือนกับที่ทำกับกลุ่มพันธมิตร นอก จากนี้ยังมีผู้ชุมนุมนำถุงพลาสติกไปครอบหมายศาลที่ติดอยู่บริเวณประตู 6 อ้างว่าป้องกันความเสียหายถ้าหากเกิดฝนตก

- ยื่นอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองชั่วคราว

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก นายคารม พลทะกลาง ทนายความของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เข้ายื่นอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลแพ่งที่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงเปิดถนนลูกหลวงตั้งแต่แยกเทวกรรมจนถึงสะพานชมัยมรุเชฐ และให้เปิดประตูทำเนียบประตูที่ 6 และ 8 ให้ข้าราชการ คณะรัฐมนตรี และผู้มาติดต่อราชการได้นำรถยนต์เข้าออกได้สะดวก และให้ใช้เครื่องขยายเสียงในระดับที่ไม่รบกวนการทำงานภาย ในทำเนียบในเวลาทำการตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ทุกวันราชการจันทร์-ศุกร์ ตามคำร้องของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

นายคารมกล่าวว่า หลังจากตนนำคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวศาลแพ่งไปปรึกษากับแกนนำนปช.แล้ว เห็นว่าแนวทางต่อสู้ที่ยังเหลืออยู่คืออาศัยประมวลวิธีพิจารณาความแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 277 ที่เปิดโอกาสให้จำเลยยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกคำสั่ง หรือยื่นอุทธรณ์คำสั่งได้ โดยยื่นอุทธรณ์โต้แย้งในประเด็นที่ฝ่ายจำเลยคัดค้าน ประเด็นแรกศาลแพ่งไม่มีอำนาจพิจารณาคำร้องของสปน. เนื่องจากก่อนหน้านี้ในคดีที่สปน.ยื่นฟ้องกลุ่มพันธมิตรฯเคยส่งให้ศาลรัฐธรรม นูญวินิจฉัยข้อกฎหมาย เรื่องอำนาจของศาลแพ่งในการสั่งคดีเกี่ยวกับสิทธิในการชุมนุม และจนถึงขณะนี้ศาลรัฐธรรม นูญยังไม่มีคำวินิจฉัยลงมา ประเด็นที่สอง เห็นว่ากรณียังไม่มีเหตุเร่งด่วนที่จะนำมาตรการคุ้มครองชั่วคราวมาบังคับใช้ เนื่องจากที่ผ่านมาในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้ปิดกั้นทางเข้าออกของข้าราชการ อีกทั้งพยานฝ่ายโจทก์ในชั้นไต่สวน ทั้งผอ.กองกฎหมาย ผอ. กองรักษาความปลอดภัย ยืนยันว่าไม่มีการบุกรุกเข้าไปทำลายทรัพย์สิน หรือลักทรัพย์ภายในทำเนียบ และสุดท้าย คำร้องของสปน.ขอคุ้มครองเพียงให้ข้าราชการและบุคคลภายนอกเข้าไปในทำเนียบ เหมือนปกปิดไม่เขียนถึง ครม. แต่ในคำสั่งศาลกลับคุ้มครองถึงครม. ด้วย ซึ่งน่าจะเกินไปจากคำร้อง

"วันที่ 2 เม.ย. เวลา 11.00 น. ผมจะมายื่นคำร้องขอยกเลิกคำสั่งคุ้มครองของศาลแพ่ง โดยเตรียมนำพยาน 4 ปาก คือนายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ แกนนำนปช. อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กับข้าราชการและอดีตข้าราชการในทำเนียบรัฐบาลอีก 3 คน ขึ้นไต่สวนเพื่อชี้ให้ศาลเห็นว่าคนเสื้อแดงชุมนุมด้วยความสงบตามสิทธิที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้" นายคารมกล่าว

- ส.ส.เพื่อไทยดอดร่วมรายการเสื้อแดง

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงบ่ายว่า บนเวทีปราศรัยยังคงมีแนวร่วมจากกลุ่มต่างๆผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นกล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาล รวมทั้งนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กรณีวิจารณ์พ.ต.ท.ทักษิณ นอกจากนี้บนเวทียังมีการจัดรายการวิเคราะห์และตอบปัญหาทางการเมือง โดยมีน.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่ดำเนินรายการ และมีนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักอุดรฯ เข้าร่วมรายงาน มีผู้ชุมนุมบางส่วนปักหลักรับฟังการปราศรัยอยู่บริเวณหน้าเวทีท่ามกลางอากาศที่ร้อนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมของกล่มคนเสื้อแดงครั้งนี้ น่าสังเกตว่าได้มีพระภิกษุสงฆ์เข้ามาร่วมปักหลักชุมนุมด้วย โดยพระสงฆ์บางรูปได้มาจับจ่ายซื้อของที่ระลึกที่มีจำหน่ายภายในพื้นที่ชุมนุม ไม่ว่าเสื้อยืดสีแดง ผ้าโพกศีรษะ ตีนตบ และหัวใจตบ โดยภายหลังพระสงฆ์รูปหนึ่งซื้อผ้าโพกศีรษะที่บริเวณประตูทางเข้าที่ 4 ได้นำผ้าผืนดังกล่าวมาผูกไว้กับย่ามใส่ของ โดยผ้าผืนดังกล่าวมีข้อความระบุว่าทักษิณกับความจริงวันนี้

- "ณัฐวุฒิ"เผยดี-สเตชั่นถูกบล็อก

เวลา 16.30 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงขึ้นเวทีและแจ้งให้ผู้ชุมนุมรับทราบว่า ขณะนี้สัญญาณถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่น ได้ถูกตัดสัญญาณและไม่สามารถแพร่ภาพได้อีกต่อไป ขณะนี้ฝ่ายเทคนิคกำลังดำเนินการแก้ไขอยู่ จึงขอเรียกร้องให้วิทยุชุมชนทุกแห่งช่วยเผยแพร่ความเคลื่อน ไหวการชุมนุม รวมทั้งขอเรียกร้องให้ประชาชนที่ไม่สามารถรับชมทางโทรทัศน์ได้ ขอให้ออกมาร่วมชุม นุมที่ทำเนียบรัฐบาลแทน อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ว่าการที่รัฐบาลตัดสัญญาณครั้งนี้ อาจมีความพยายามดำเนินการบางอย่างกับผู้ชุมนุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายณัฐวุฒิขึ้นเวทีและแจ้งให้ผู้ชุมนุมรับทราบดังกล่าว ได้นิมนต์พระสงฆ์ 30 รูปขึ้นมาสวดให้พรกับผู้ชุมนุมบนเวทีปราศรัย เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยในการเรียกร้องและขับไล่รัฐบาล

- แม้วงดวิดีโอลิงก์-ไม่เกี่ยวตัดคลื่น

เวลา 17.00 น. ที่หลังเวทีปราศรัย เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. แถลงถึงการตัดสัญญาณของสถานีดีสเตชั่นว่า ขณะนี้มีการตัดสัญญาณการออกอากาศของสถานีดีสเตชั่น แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลใช้กลไกอำนาจรัฐเข้ามาแทรกแซงการใช้สิทธิเสรีภาพของสื่อสารมวลชน และแสดงตัวเองว่าธาตุแท้ว่าไม่ใช่รัฐบาลในยุคประชาธิปไตย และสลัดภาพของเผด็จการที่ชุบเลี้ยงตัวเองไม่ได้ ทั้งที่ในสมัยที่พันธมิตรยึดทำเนียบฯ ยึดสนามบิน คนของพรรคประชาธิปัตย์ยังออกมาปกป้องเอเอสทีวี ให้ออกอากาศได้อย่างต่อเนื่อง หากรัฐบาลเห็นว่าจะกดขี่ข่ม เหงกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างไรก็ได้ก็ไม่เป็นไร เราจะต่อ สู้ทางเทคนิคอย่างเต็มที่ หากจำเป็นก็อาจไปเยี่ยม เยียน กระทรวงไอซีที หรือตามหานายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จุดประสงค์ของการตัดสัญ ญาณของดีสเตชั่น เกิดจากความต้องการตัดสัญญาณ วิดีโอลิงก์ของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ทำไม่ได้ จึงไปลงที่ ดีสเตชั่น ซึ่งทางสถานีกำลังดูช่องทางทางกฎหมาย อยู่ว่าจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง สำหรับการตัดสัญ ญาณนี้ น่าจะเป็นการกระทำของรัฐวิสาหกิจ ที่ดีสเต ชั่นเช่าช่องสัญญาณ เพื่อยิงสัญญาณไปยังดาวเทียมไทยคม ทำให้จอดำ อย่างไรก็ตาม วันที่ 1 เม.ย.นี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะงดวิดีโอลิงก์เข้ามา แต่ไม่เกี่ยวข้อง กับการตัดสัญญาณ เพราะที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า ไม่สามารถตัดสัญญาณวิดีโอลิงก์ได้ โดยจะมีนายสม ชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯมาขึ้นเวทีแทนในเวลา 20.00 น.

- ชุมนุมใหญ่ 8 เม.ย.พิฆาตอมาตย์

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สำหรับยอดเงินบริจาคด้านหลังเวทีตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.มียอดเงินบริจาค 4 ล้านบาท โดยวันที่มียอดเงินบริจาคสูงสุดคือวันที่ 30 มี.ค. ที่รัฐบาลระบุจะมีการสลายการชุมนุม จึงขอร้องให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯออกข่าวจะสลายอีก เพื่อให้มียอดเงินบริจาคให้มากขึ้นอีก และเงินบริจาคตรงนี้แสดงให้เห็นว่าเราจะชุมนุมยืดเยื้อขนาดไหนก็ได้

ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. กล่าวว่า การชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงเรานัดกันวันที่ 8 เม.ย. โดยเวทีจะอยู่ที่เดิม แต่จะให้หางแถวยาวไปถึงถนนราชดำเนิน ผ่านลานพระบรมรูปทรงม้า จนถึงบ้านสี่เสาเทเวศร์ คาดว่าจะมีผู้มาร่วมชุมนุม 3 แสนคน และจะจัดการกับระบอบอมาตยาธิปไตยให้เด็ดขาดก่อนวันสงกรานต์ หากยังไม่ได้ชัยชนะ เราพร้อมจะต่อสู้ต่อไปเรื่อยๆและบอกได้เลยว่าที่นายสุเทพ ออกข่าวว่าพร้อมจะเจรจากับพ.ต.ท.ทักษิณนั้น ยืนยันว่าเรื่องนี้มันเลยจากพ.ต.ท.ทักษิณไปแล้ว และไม่มีการเจรจากันทั้งสิ้น เพราะเราไม่ได้เรียกร้อง แต่เรามาขับไล่ จึงไม่มีการเจรจาอะไรทั้งนั้น

- "มาร์ค"อัดม็อบอยากให้รุนแรง

วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐ มนตรี ให้สัมภาษณ์ระหว่างการเข้าร่วมประชุมสุด ยอดลอนดอน ผู้นำกลุ่มประเทศ จี-20 วันที่ 1-4 เม.ย. ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ถึงกรณีศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้กลุ่มเสื้อแดง เปิดถนน และประตูทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้คณะรัฐมนตรี ข้าราชการ ผู้มาติดต่อ นำรถยนต์เข้า-ออกได้ว่า นาย สุเทพ ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ทราบแล้ว ขึ้นอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุมว่าเมื่อได้รับหมายแล้ว จะมีท่าทีอย่างไร ซึ่งจะประเมินสถานการณ์ต่อไป

ต่อข้อถามว่าหนักใจกับสถานการณ์ขณะนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้บริหารจัดการให้ทุกอย่างอยู่ในขอบเขต เพราะไม่ต้องการให้เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐบาล เมื่อถามว่าประเมินว่าสถานการณ์หลังปิดหมายศาลเหตุการณ์จะรุนแรงขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เชื่อว่าเหตุการณ์จะไม่รุนแรง ทุกคนน่าจะยอมรับและเห็นความจำเป็นว่ารัฐบาลได้พยายามถึงที่สุด เพื่อรักษาบรรยากาศ ขณะเดียวกันรัฐบาลก็รักษาสิทธิของตัวเองด้วย ขอย้ำว่ารัฐบาลจะไม่ให้เกิดความรุนแรง ซึ่งได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายว่าอย่าทำอะไรที่นำไปสู่ความรุนแรง เพราะอาจเป็นความต้องการ ของคนกลุ่มน้อย แต่คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการความรุนแรงอยู่แล้ว

- ดีทีวีกลับมาอีกครั้ง-ถูกตัด 3 ชม.

เมื่อเวลา 18.45 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษ ฎร ซึ่งมีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาทำหน้าที่ประ ธานการประชุม ระหว่างที่พิจารณาร่างพ.ร.บ.จัดตั้งศาลจังหวัดที่อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ที่เสนอโดยศาลฎีกา ปรากฏว่าส.ส.พรรคเพื่อไทยได้อภิปรายเรื่องการตัดสัญญาณโทรทัศน์ดาวเทียมดีทีวี โดยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายสนับสนุนควรรีบจัดตั้งศาลจังหวัดที่อ.ฮอด โดยเร็วเพราะฮอดมีคนเสื้อแดงเยอะ เชื่อว่าต้องมีการร้องศาลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะขณะนี้มีความพยายามจะปิดดีทีวี ถ้าดีทีวีถูกปิดสัญญาณ ประชาชนไม่สามารถร้องศาลที่ไหนได้ ต้องเข้ามาหาความเป็นธรรมในกรุงเทพฯ ถ้าดีทีวีถูกปิด แต่เอเอสทีวีไม่ถูกปิด แบบนี้จะถือว่าไม่เป็นธรรม ดังนั้นต้องรีบตั้งศาล ไม่เช่นนั้นคนจะไหลเข้ากรุงเทพฯและเกิดเหตุการณ์วุ่นวายแน่ จากนั้นเวลา 19.00 น. ปรากฏว่าสัญญาณการถ่ายทอดสดของดีทีวี กลับมาเป็นปกติ หลังการถูกตัดสัญญาณนานกว่า 3 ชั่วโมง ทำให้นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นกล่าวขอบคุณรัฐบาลกลางสภาที่เปิดสัญญาณดีทีวี และขอให้เป็นแบบนี้ตลอด

นายสุรพงษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เชื่อว่าคนที่อยู่เบื้อง หลังในการตัดสัญญาณดีทีวี คือนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกฯ เป็นคนสั่งการให้กสท ตัดสัญญาณ เพื่อทำให้การชุมนุมไม่ต่อเนื่อง จึงขอเรียกร้องให้นายสาทิตย์ มาชี้แจงเรื่องนี้โดยด่วน เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชน นอกจากนี้อยากให้กลุ่มเสื้อแดงรีบไปขอให้ศาลปกครองสั่งคุ้มครองเหมือนที่พันธมิตรฯทำ

- สานเสวนาเรียกร้องชุมนุมสันติ

เครือข่ายสานเสวนาเพื่อสันติธรรม ออกแถลง การณ์ให้เสื้อแดงเคารพกฎหมาย ระบุว่านับจากเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 เป็นต้นมา ทำให้ประชาชนในชาติต้องเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก และจนถึงปัจจุบันปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งทางเครือข่ายเห็นว่าหากปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข ประเทศชาติอาจได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินอย่างในเหตุ การณ์ในอดีต ดังนั้นเครือข่ายฯ ขอเรียกร้องให้รัฐบาล หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมาย ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรงทุกรูปแบบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และขอเรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมเคารพกฎหมายบ้านเมือง ชุมนุมอย่างสงบและปราศจากอาวุธ ไม่ทำลายทรัพย์สินของประเทศ และไม่ละเมิดสิทธิของประชาชนชาวไทยอื่นๆ รวมถึงขอให้สื่อนำเสนอข้อมูลตามข้อเท็จจริง พิจาร ณาข้อมูลที่ได้รับจากแต่ละฝ่ายอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม

- นพดลขึ้นเวทีแฉประชาธิปัตย์

บรรยากาศการชุมนุมช่วงเย็น มีผู้เข้าร่วมต่อเนื่องแต่บางตากว่าที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ยังคงชุมนุมกันที่ด้านหน้าเวทีใหญ่สะพานชมัยมรุเชฐ ด้านถนนพิษณุโลก และถนนนครปฐม จำนวนมาก แต่จุดอื่นทั้งถ.เลียบคลองผดุงกรุงเกษม และถ.ราชดำเนิน มีผู้ชุมนุมนั่งชมการปราศรัยผ่านจอโปรเจ็กเตอร์บางตา

เวลา 18.30 น. นายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ ขึ้นปราศรัยบนเวที ยืนยันเป็นคนจงรักภักดีและไม่ใช่คนขายชาติ พรรคประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์ กำลังบิดเบือนว่าสามารถเอาปราสาทพระวิหารคืนมาได้ ความเป็นจริงคือเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเกินกว่า 40 ปี ตามกฎแล้วไม่สามารถรื้อฟื้นได้ แล้วมาบอกว่าจะเอาคืนอย่างนี้เป็นการตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ ที่บอกว่ารัฐบาลยึดสันปันน้ำเป็นเขตแดน ความจริงคือทั้งกระทรวงการต่างประเทศ กองทัพไทย รัฐ บาลที่ผ่านมา ยึดแผนที่แอล 7017 ที่เรายกปราสาทเขาพระวิหารให้แล้ว หากนายอภิสิทธิ์ จะยึดสันปันน้ำต้องไปคุยกับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ถ้าไม่ทำถือว่าโกหกประชาชน

- ม็อบปรบมือลั่น-ดีทีวีกลับมา

เวลา 19.00 น. โฆษกบนเวทีประกาศว่าสัญญาณโทรทัศน์ดีทีวี สามารถถ่ายทอดได้แล้ว ผู้ชุมนุมจึงปรบมือโห่ร้องอย่างดีใจ จากนั้น นายจตุพร พรหมพันธุ์ ขึ้นปราศรัยบนเวทีว่า หากไม่ติดงานกาชาดจะลุยตั้งแต่วันนี้แต่เป็นเพราะติดงานดังกล่าวจนถึงวันที่ 7 เม.ย. จึงต้องนัดรวมพลครั้งใหญ่ในวันที่ 8 เม.ย. ให้คนมากไปจนถึงบ้านสี่เสาเทเวศร์ คำนวณดูแล้วใช้คนแค่เพียง 3 แสนเท่านั้น ยอดบริจาคจนถึงวันนี้เฉพาะเงินสดที่ให้ด้านหลังเวทียอดเงินเกือบ 5 ล้านบาทแล้ว ขณะนี้มีพี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัดอยากมาร่วมแต่ติดปัญหาเรื่องการเดินทางเพราะการชุมนุมที่ผ่านมาผู้ประกอบการเดินรถถูกสั่งไม่ให้อำนวยความสะ ดวก ไม่เช่นนั้นจะถูกถอนใบอนุญาต ทุกคนไม่ต้องกลัวหลังวันที่ 8 เม.ย. ทุกคนจะได้รับใบอนุญาตคืนขอให้พี่น้องต่างจังหวัดมาร่วมกันในวันที่ 8 เม.ย. หากยังไม่สำเร็จ เช็กบิลต่อวันที่ 9-10 เม.ย. เพียง 3 วัน ไม่มีวันที่ 4 หากมากันมากถึง 3 แสนคน เมื่อถึงวันนั้นพล.อ.เปรม และนายอภิสิทธิ์ ไม่ลาออก เราจะแสดงพลังกันว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะบริหารประเทศแล้วในวันนั้น เผด็จศึกก่อนวันสงกรานต์ได้อย่างแน่นอน

- จตุพรบี้เทือกเจรจาเสื้อแดงเท่านั้น

นายจตุพรกล่าวว่า มีคนสงสัยว่าเมื่อศาลแพ่งให้เปิดทางคนเสื้อแดงจะทำอย่างไร วันนี้ทีมทนายไปยื่นอุทธรณ์แล้ว และการชุมนุมของคนเสื้อแดงทุกวันนี้ เปิดทางให้ข้าราชการเข้าออกได้เป็นปกติ ก่อนจะไปร้องศาล และการที่นายสุเทพ กล่าวว่าเมื่อศาลคุ้มครองจะเข้าทำเนียบ ขอบอกเลยว่าไม่มีทางที่นาย สุเทพจะเข้าทางประตู 6 และประตู 8 อย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่มีการชุมนุมมานายสุเทพ พูดตลอดว่าจะเข้าทำเนียบ แต่จนถึงวันนี้ไม่เคยเห็นเข้าทำเนียบแม้ครั้งเดียว ไหนคุยว่าเป็นนักเลง กล้าพูดกล้าทำ หากทุกคนเห็นนายสุเทพ เข้าทำเนียบให้ทุกคนปล่อยเข้าไป จากนั้นเราแค่ยืนล้อมไว้ไม่ต้องทำอะไรดูว่านายสุเทพจะออกจากทำเนียบได้อย่างไร

"นายสุเทพเปิดทางแล้วว่า พร้อมจะพูดกับพ.ต.ท. ทักษิณ ทุกที่ทุกเวลา แต่เมื่อคืนพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวแล้วว่าเป็นเพียงคนตัวเล็กๆ คนหนึ่งในขบวนการเสื้อแดงเท่านั้น หากนายสุเทพ ต้องการเจรจาต้องเจรจากับคนเสื้อแดงทั้งหมด แต่วันนี้คนเสื้อแดงมาขับไล่ ดังนั้นไม่ต้องมีการเจรจาทั้งสิ้น จนกว่าบ้านเมืองจะได้ประชาธิปไตยที่ไม่มีระบอบอำมาตยาธิปไตยในที่สุด" นายจตุพร กล่าว

- ย้ำขับไล่คนที่ทำให้สถาบันเสื่อมเสีย

นายจตุพร กล่าวว่า หน้าที่ของคนเสื้อแดงในวันที่ 8 เม.ย. ต้องดึงพล.อ.เปรมลงมาจากการที่แอบอ้างจนทำให้สถาบันแปดเปื้อน เพื่อรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ให้คงอยู่คู่กับประชาชนให้ได้ วันนี้คนเสื้อแดงไม่ต้องการล้มระบบองคมนตรี แต่ต้องการกำจัดคนที่สร้างมลทินให้สถาบันพระมหากษัตริย์ออกจากอำนาจให้ได้ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงกล่าว คนเสื้อแดงเคารพองคมนตรี แต่ไม่เคารพองคมนตรีที่ทำให้สถา บันแปดเปื้อน

นายจตุพร กล่าวว่า มีคนถามว่าวันที่ 8 เม.ย. จะมีการปฏิวัติหรือไม่ เพราะเห็นมีการเคลื่อนกำลังและรถถัง บอกได้เลยว่าคนเสื้อแดงไม่กลัวการปฏิวัติ หากเกิดขึ้นจริง คนเสื้อแดงจะไปยืนล้อมรถถัง ให้ทหาร ลงมาแล้วเปลี่ยนเป็นสวมเสื้อแดง คนเสื้อแดงประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนตั้งแต่การชุมนุมที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถานแล้วว่าปฏิเสธการปฏิวัติรัฐประหาร หากเกิดขึ้นจริงเป็นเรื่องดีที่จะสามารถโค่นล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย รัฐบาลรับใช้เผด็จการได้ในคราวเดียว กัน ดังนั้นประชาชนที่จะเข้าร่วมในวันที่ 8 เม.ย. เตรียม เสื้อผ้ามา 3 วัน คนเสื้อแดงไปที่ไหนสะเทือนที่นั่น วันที่ 8 เม.ย.คือวันโค่นล้มพล.อ.เปรม และรัฐบาลอภิสิทธิ์ วันที่ 8 คือวันที่มีประชาธิปไตยที่ไร้ระบอบอำมาตยาธิปไตย ต้องร่วมกันออกมาโค่นล้มอำมาตยาธิปไตย วันที่ 8 จะเป็นวันที่กองทัพแดงจะเคลื่อนทัพปลดแอกประเทศไทยออกจากระบอบอำมาตยาธิปไตย

- "สมชาย"ขึ้นเวทีปลุกแดงสู้ต่อ

เมื่อเวลา 20.30 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ขึ้นปราศรัยบนเวที โดยก่อนการปราศรัย นายวีระ มุสิกพงศ์ กล่าวแซวว่า เป็นนายกฯที่มาจากการเลือกตั้งคนเดียวในประวัติศาสตร์ ที่ไม่เคยเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมชาย ตอบว่า แม้ไม่ได้เข้าทำงานที่ทำเนียบฯสมัยที่เป็นนายกฯ ไม่เป็นไร เพราะทำเนียบฯขณะนั้นอยู่ที่ดอนเมือง สาเหตุเพราะขณะนั้นมีกลุ่มคนที่คิดว่าทำเนียบรัฐบาลเป็นโรงแรมจึงเข้ามาอาศัยอยู่ ตอนนั้นไม่ได้จะคิดทำอะไรรุนแรง เพราะ ไม่ต้องการให้ประชาชนรับอันตราย

นายสมชายกล่าวว่า มีคนเคยถามว่า กลุ่มเสื้อแดงมาชุมนุมเพื่ออะไร เพื่อทักษิณหรือไม่ ขอตอบเลยว่าไม่ใช่ เรื่องของพ.ต.ท.ทักษิณเป็นผลพลอยได้ แต่ครั้งหนึ่งในชีวิตของคนไทย ต้องทำอะไรให้แผ่นดิน ที่เรามาเรียกร้องประชาธิปไตยในวันนี้ไม่ได้ทำเพื่อคนที่มาชุมนุม ไม่ได้ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ทำเพื่อลูกหลานในอนาคต และหากทำสำเร็จขึ้นมา จะเป็นมรดกตก ทอดไปชั่วลูกชั่วหลาน