วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2552

“ทักษิณ” โทร.ขอบคุณเสื้อแดง

ที่มา ไทยรัฐ

วันที่ 1 เม.ย.สำหรับบรรยากาศการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง ซึ่งเหล่าแกนนำได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นปราศรัยบนเวทีกันอย่างต่อเนื่องมาตลอดวัน โดยช่วงหนึ่ง นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีให้ผู้ชุมนุมทราบว่า ตนได้รับโทรศัพท์สายตรงจาก พ.ต.ท.ทักษิณ โทร.มากล่าวขอบคุณพี่น้องเสื้อแดงออกมาร่วมชุมนุมกันทุกคนที่ช่วยกันรักษาประชาธิปไตย และยืนยันจะวีดิโอลิงค์เข้ามาพบปะกับพ่อแม่พี่น้องอย่างแน่นอน ขณะเดียวกัน หลังเวทีปราศรัยก็ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.หลายสิบนายที่มารักษาความสงบเรียบร้อยรอบทำเนียบรัฐบาล ทยอยเดินมาขอรับเสื้อแดงและผ้าโพกหัวของกลุ่ม นปช.อย่างต่อเนื่อง

ให้แดง ตจว.สลายตัวเพื่อออมแรง

ขณะที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่ม นปช. ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในเวลาต่อมาว่า หากรัฐบาลตัดสินใจใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงอีก กลุ่มเสื้อแดงตามจังหวัดต่างๆ พร้อมที่จะลุกฮือปิดศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อตอบโต้การสลายการชุมนุมของรัฐบาล แต่ในขณะนี้ขอให้กลุ่มเสื้อแดงที่ปิดล้อมศาลากลางจังหวัดต่างๆ ให้สลายตัวกลับบ้าน เพื่อไปพักผ่อนเอาแรงไว้ก่อน

ตั้งข้อสังเกตทหารเยอะจัง

นายณัฐวุฒิยังกล่าวอีกว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่ากำลังทหารภายในทำเนียบรัฐบาลมีมากถึง 6 พันนาย ซึ่งรัฐบาลอาจจะใช้กำลังทหารสลายการชุมนุม โดยยืนยันว่ากลุ่มเสื้อแดงตอบโต้ทุกกรณี เพราะทหารเป็นเพียงเจ้าพนักงานผู้ช่วยปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจเท่านั้น ทั้งนี้หากจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสลายก็ขอบอกว่าขณะนี้ได้มีนายตำรวจที่พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยรอบทำเนียบรัฐบาลแล้ว ต่างมารับเสื้อแดงไปแล้วจำนวน 1 พันกว่าตัว และผ้าโพกหัว 400-500 ชิ้น ซึ่งขณะนี้หัวใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายเป็นสีแดงไปทั้งหมดแล้ว

ย้อนรอยเอาอย่าง พธม.

จากนั้น นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ให้สัมภาษณ์เสริมกรณีที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจะไปฟ้องร้องต่อศาลแพ่งให้ศาลมีคำสั่งฉุกเฉินให้กลุ่มเสื้อแดง เปิดทางเข้าออกให้กับคณะรัฐบาลและข้าราชการ เพื่อเข้าทำงานในทำเนียบรัฐบาลนั้นว่า หากศาลแพ่งมีคำสั่งออกมาให้กลุ่มเสื้อแดงเปิดทางเข้าออกให้กับรัฐบาลและออกจากถนนพิษณุโลก แกนนำกลุ่มฯจะทำเหมือนกับกลุ่มพันธมิตรฯเคยดำเนินการทุกอย่าง โดยจะไปยื่นขออุทธรณ์ต่อศาลเพื่อร้องขอการคุ้มครองชั่วคราวให้กลุ่มเสื้อแดงชุมนุมได้ต่อไป และการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงก็ไม่เคยเข้าไปทำให้สถานที่ราชการเสียหาย และไม่เคยบุกเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล ซึ่งศาลยังคุ้มครองให้กลุ่มพันธมิตรฯชุมนุมอยู่ภายในทำเนียบฯได้ หากมีการฟ้องร้องจริงจะทำให้สาธารณชนรับทราบว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยมีกี่มาตรฐาน และนายกรัฐมนตรีเดินทางไปประชุมจี 20 แล้วมอบหมายให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดูแลและรับผิดชอบการใช้กฎหมายความมั่นคงภายใน นายสุเทพไม่สามารถออกคำสั่งใน พ.ร.บ.ความมั่นคงได้เพราะเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีคนเดียวเท่านั้น ที่จะเป็นผู้เซ็นคำสั่งได้

ฮือฮาภาพ “ป๋า” แต่งหญิงเล่นละคร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายจตุพรกำลังแถลงข่าวอยู่นั้นได้หยิบรูปภาพ ซึ่งได้เป็นซีร็อกซ์ภาพขาวดำ ในภาพรูปใส่ชุดผู้หญิงอายุประมาณ 15-17 ปี แต่งหน้าแต่งตาอย่างสวยงาม โดยทำท่าเอามือสองข้างประกบกันลักษณะคล้ายพนมมือ แต่นำมาวางไว้ติดข้างแก้มด้านขวา ทำท่าเอียงคอเล็กน้อย โดยมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างเอียงอาย โดยภาพดังกล่าวที่มองไม่ค่อยชัดเจน และดูไม่ออกว่าเป็นรูปของใคร นายจตุพรหยิบขึ้นมาและตั้งคำถามให้ผู้สื่อข่าวทายว่า เป็นภาพของใคร จำได้หรือไม่ แต่ผู้สื่อข่าวไม่สามารถเดาได้ถูกว่าคนในภาพคือใคร จากนั้นนายจตุพร ได้เฉลยว่า บุคคลในภาพคือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งใต้ภาพเขียนข้อความระบุว่าเป็นภาพของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2478 ที่มาของภาพจากนิตยสารอาทิตย์สยามนิกร ฉบับที่ 152 วันที่ 24 พ.ย. 2523 ครั้งแสดงละครเรื่อง “เมื่อชายเป็นหญิง” ของโรงเรียนมหาวชิราวุธ จ.สงขลา ซึ่งภาพดังกล่าวสร้างความฮือฮาให้กับผู้สื่อข่าวเป็นอย่างยิ่ง

เสื้อแดงกาญจน์หัวใจวาย

ขณะที่บรรยากาศของกลุ่มเสื้อแดงในจังหวัดต่างๆที่ จ.กาญจนบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 31 มี.ค. กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงกาญจนบุรีช่วยกันเก็บเต็นท์ที่พักหลังสลายการชุมนุม ขณะเดียวกัน น.ส.นุชรี โรจนากร แกนนำกลุ่มเสื้อแดง อ.ท่าม่วง เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากญาติของนายสินชัย คูหาอุดมลาภหรือโกอ่ำ อายุ 59 ปี เซียนพระชื่อดัง เจ้าของแผงพระในตลาดท่าม่วง หนึ่งแกนนำเสื้อแดงเมืองกาญจน์ได้เสียชีวิตที่ รพ.กรุงเทพ ในตอนสายวันเดียวกัน เพราะหัวใจวายทั้งนี้ หลังจากนายสินชัยมาร่วมชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี จนกลางดึก ปรากฏว่าหายใจไม่ออก เลยกลับบ้านที่ อ.ท่าม่วง แล้วหมดสติไป ญาตินำส่ง รพ.ท่าม่วง ก่อนส่งต่อ รพ.กรุงเทพ จนเสียชีวิต

นปช.โคราชยังชุมนุมปราศรัย

ส่วนเคลื่อนไหวภายหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และกลุ่ม นปช.กล่าวโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการทำปฏิวัตินั้น ผู้สื่อข่าวไปสังเกตการณ์ที่บ้านไร้กังวล ซึ่งเป็นบ้านพักของ พล.อ.เปรม ตั้งอยู่ตรงข้ามหน้ากองบัญชาการช่วยรบที่ 2 (บชร.2) เลขที่ 1885 ถนนสืบศิริ ปากซอยสืบศิริ 32 ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา ไม่มีความเคลื่อนไหวภายในบ้าน และไม่มีกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าไปปิดล้อม หรือ ประท้วงแต่อย่างใด ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดงโคราชยังคงจัดชุมนุมอยู่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี มีการปราศรัยโจมตีขับไล่รัฐบาลและ พล.อ.เปรม ผ่านเครื่องขยายเสียงอย่างต่อเนื่องสลับกับการฟังการปราศรัยของ นปช.ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลทางโปรเจกเตอร์

“ขวัญชัย” ยกทีมชุมนุมทำเนียบ

ส่วน จ.อุดรธานี บริเวณสถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร เอฟเอ็ม 97.5 เมกะเฮิรตซ์ นายขวัญชัย สาราคำ หรือไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ได้นำสมาชิกชมรมฯ 300 คน เตรียมเดินทางเข้า กทม.เพื่อร่วมสมทบกับสมาชิกชมรมฯ และสมทบกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่ทำเนียบรัฐบาล โดยรถบัส 5 คัน นายขวัญชัยเปิดเผยว่า การชุมนุมปิดล้อมศาลากลางจังหวัดได้ยุติลงแล้ว เลยนำสมาชิกชมรมฯไปร่วมสมทบกับคนเสื้อแดง ที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมนำข้าวสาร อาหารแห้ง ผักสด น้ำดื่ม น้ำปลา รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ที่ได้รับบริจาคจากสมาชิกส่งไปสนับสนุนให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย

ม็อบพร้อมยึดศาลากลาง

ขณะที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ กลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 300 คน นำโดยนายนัฐวุฒ ชีววิทยานนท์ นายก อบต.ห้วยต้อน จ.ชัยภูมิ ได้ตั้งเต็นท์พร้อมติดตั้งเครื่องขยายเสียงโจมตีรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างดุเดือด และสั่งห้ามทหารทำร้ายกลุ่มคนเสื้อแดงที่หน้าทำเนียบอย่างเด็ดขาด หากคนเสื้อแดงถูกทำร้ายจะนำกลุ่มคนเสื้อแดงบุกยึดศาลากลางจังหวัดชัยภูมิทันที

จี้รัฐให้จัดการเด็ดขาด “ทักษิณ”

อีกด้านหนึ่ง ในส่วนของกลุ่มที่ไม่พอใจม็อบเสื้อแดงและการพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พาดพิงประธานองคมนตรีฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทยสาขานครราชสีมา นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยและคณะ ร่วมกันออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมารับผิดชอบในการรักษารัฐธรรมนูญและกฎหมาย และดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมทั้งแกนนำกลุ่ม นปช. ที่กล่าวพาดพิงสถาบันองคมนตรีซึ่งถือว่าเป็นสถาบันชั้นสูงของประเทศ รวมทั้งยังได้ ปลุกระดมปลุกปันให้ประชาชนกระทำผิดกฎหมายคิดล้มล้างการปกครองของแผ่นดิน ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย