วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2552

เดินตามรอยในหลวง องคมนตรี แนะวิธีฝ่าวิกฤติ

ที่มา ไทยรัฐ

หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โฟนอินผ่านระบบวีดิโอลิงค์มายังกลุ่มคนเสื้อแดง แฉถึงเบื้องหลังการรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 โดยตอนหนึ่งได้มีการกล่าวพาดพิงถึงองคมนตรีนั้น

องคมนตรีให้ระวังโฟนอิน

ที่สำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 2 เม.ย. นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อชาติและประชาชน” เนื่องในงานวันข้าราชการพลเรือนประจำปี 2552 มีใจความตอนหนึ่งว่า เป็นห่วงเหตุการณ์บ้านเมืองขณะนี้ โดยเฉพาะช่วงนี้มีการโฟนอินอะไรต่ออะไรมา ดังนั้น ในฐานะองคมนตรีจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ การพูดอะไรในที่ชุมนุมชนต้องมีความระมัดระวัง ทั้งการใส่เสื้อสีต่างๆ หรือการพูดในเนื้อหาอะไร ดังนั้น อะไรที่ได้ยินมา จึงไม่กล้าที่จะนำข้อมูลอะไรใหม่ๆมาเล่าได้ เพราะไม่สมควรที่จะมาเล่าในที่ชุมนุมชน ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ 2550 ได้กำหนดหน้าที่องคมนตรีไว้ โดยกำหนดให้คณะองคมนตรีมีความเป็นกลางทางการเมือง มีหน้าที่ถวายความคิดเห็นแด่พระมหากษัตริย์ ในพระราชกรณียกิจทั้งปวงที่พระมหากษัตริย์ทรงปรึกษา ส่วนการพ้นตำแหน่งขององคมนตรี ให้เป็นไปตามพระราชอัชฌาศัย ตาย หรือลาออก ในส่วนของตนรับราชการมา 36 ปี ขอกล่าวถึงพระราชดำรัสให้ข้าราชการทุกคนมีความซื่อสัตย์ สุจริต ซื่อตรง มีความละอายเกรงกลัวต่อบาป ความกตัญญูกตเวที ความสามัคคี ยึดมั่นผลประโยชน์ของแผ่นดิน

ชี้คอรัปชันเป็นต้นเหตุความขัดแย้ง

นายอำพลกล่าวต่อว่า ปัจจุบันระบบราชการไทยยังมีปัญหา เช่น ความขัดแย้งของข้าราชการการเมืองต่อข้าราชการการเมือง ความขัดแย้งของข้าราชการประจำต่อข้าราชการประจำ และความขัดแย้งของข้าราชการการเมืองต่อข้าราชการประจำที่มีจำนวนมาก ความขัดแย้งส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการคอรัปชันที่เกิดมาช้านานจนกลายเป็นประเพณีไทย และนิสัยการคอรัปชันก็เกิดการแสดงสิทธิที่เกิดขึ้น จะมากจะน้อยแล้วแต่ฝ่ายบริหารที่เข้ามาบริหารบ้านเมือง น่าเสียดายผู้ที่สั่งไม่ค่อยมีปัญหา ผู้ที่ปฏิบัติจะมีปัญหาตามมา ตรงนี้น่าจะเป็นบทเรียนมาก ส่วนแนวทางแก้ไขนั้น รัฐธรรมนูญหมวด 1 มาตรา 1 กำหนดว่า ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวกันจะแบ่งแยกมิได้ ขออ่านแค่นี้ให้ท่านตีความกันเองก็แล้วกัน และยังกำหนดการตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐไว้ในหมวด 12 ด้วย ทั้งการตรวจสอบการใช้อำนาจ การกระทำที่ขัดต่อประโยชน์ของชาติ รวมถึงการดำเนินคดีอาญาและจริยธรรมทั้งข้าราชการ และนักการเมือง กฎหมายเหล่านี้ข้าราชการสามารถที่จะนำมาอุทธรณ์ได้ หากพบว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากนักการเมือง รวมทั้งสมาคมข้าราชการพลเรือน คงต้องช่วยกันที่จะหาทางออกแก่ข้าราชการที่ดี

มีนายไม่ดีเหมือนพายเรือให้โจรนั่ง

นายอำพล กล่าวอีกว่า การสร้างคนให้เป็นคนดี ให้เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมมักพูดถึง 2 ส่วนใหญ่คือพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อม สำหรับเรื่องการทำงานจะมีตัวอย่างที่ดีและไม่ดี พวกข้าราชการพลเรือนจะเสียเปรียบข้าราชการทหารและตำรวจ เพราะเขาจะสอนเรื่องวินัย จะเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา แม้บางครั้งจะเป็นคำสั่งที่ไม่ค่อยถูกต้องนัก แต่เขาถือว่าคำสั่งผู้บังคับบัญชา ต้องปฏิบัติ ถ้ากองทัพ หรือตำรวจไม่มีวินัย อันนั้นคือกองโจร แต่สำหรับข้าราชการพลเรือนเมื่อเข้าไปก็ต้องดูนาย ซึ่งมีทั้งนายดีและไม่ดี ตามคนไทยเขาเรียกว่าหัวไม่ส่ายหางไม่กระดิก ถ้านายดี ลูกน้องก็ค่อนข้างดี แต่ถ้านายหากิน ลูกน้องก็มักเป็นอย่างนั้น เป็นสิ่งที่ผมคิดว่าน่าเสียดาย บางคนก็ถอยออกมา แม้จะอยู่ในสภาพพายเรือให้โจรนั่ง แต่ก็ต้องอยู่อย่างนั้น เพราะเราเป็นข้าราชการไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ต้องทนจนกว่าเขาจะไป

ใครคิดไม่ดีต่อสถาบันมักมีอันเป็นไป

นายอำพลกล่าวว่า สิ่งที่ข้าราชการยึดถือเป็นหลักได้มี 2 ส่วน คือสถาบันศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์ โชคดีที่เรามีสถาบันพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน ที่ยึดทศพิธราชธรรม เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับข้าราชการและประชาชน ในใจตนเชื่อเสมอว่า หากใครทำไม่ดีต่อสถาบัน คนเหล่านั้นมักมีอันเป็นไป เช่น กบฏแมนฮัตตัน เป็นต้น พระองค์ท่านผ่านนายกฯถึง 18 คน ทรงมีประสบการณ์กับบุคคลต่างๆมากมาย ที่สำคัญพระองค์ไม่เคยล่วงละเมิดรัฐธรรมนูญ ทรงใช้อำนาจเพื่อปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง แต่ตอนนี้เป็นห่วงนิดหนึ่งว่า พระอนามัยอาจถดถอยลงไปบ้าง หน่วยงานที่ทำงานรับใช้มา ก็เริ่มอยากได้กำลังใจอันนี้ แต่ขอผ่านเรื่องนี้ไปก่อน

แนะเดินตามรอยในหลวงฝ่าวิกฤติ

ทั้งนี้ ตนมีโอกาสรับใช้สนองเบื้องพระยุคลบาทต่อเนื่องมา 59 ปี ได้ทำงานสนองพระราชดำริหลายเรื่อง ยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน ก็คงยิ่งต้องสนองพระราชดำริต่างๆให้มากขึ้น สุดท้ายฐานะที่เคารพบูชาพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพระประมุขมาเกือบตลอดชีวิต ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ยึดมั่นในความสามัคคี จึงขอเชิญชวนทุกท่านเดินตามรอยพระองค์ท่าน โดยเฉพาะในสภาวะบ้านเมืองกำลังเกิดปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ ปัญหาความแตกแยกของสังคม มั่นใจว่าหากได้ยึดปฏิบัติเช่นนี้ แม้เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของพระองค์ท่าน คงทำให้ทุกคนมีความสุข

นายอำพลให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ที่มีการโจมตีองคมนตรีว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะคิดแตกต่างกัน และมีสิทธิที่จะพูดโดยเสรี แต่ต้องเอาข้อเท็จจริงไปศึกษาดูแล้วทุกคนจะเข้าใจ โดยขอให้ทุกอย่างอยู่ในกรอบของกฎหมาย