ที่มา มติชนออนไลน์
"ทักษิณ"เดินเกมไม่หยุด ให้สัมภาษณ์ 2 สื่อต่างชาติ อ้างองคมนตรีเข้าเฝ้าฯ "ในหลวง" กราบบังคมทูลไม่จงรักภักดี สกัดกำลังกองทัพ ไม่ให้ใช้กฎหมายตอบโต้ "บัวแก้ว"ปัดไม่เป็นจริง "จักรภพ"เผยเผ่นนอกปท.แล้ว เล็งตั้งฐานเคลื่อนไหวเสื้อแดง ลั่นไม่ให้จบง่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 20 เมษายนว่า หนังสือพิมพ์ โกลบ แอนด์ เมล์ ของอังกฤษ นำเสนอบทบรรณาธิการในฉบับวันที่ 20 เมษายนนี้ เรียกร้องให้องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระราชทานแนวทางเพื่อรักษาประชาธิปไตยของประเทศเอาไว้ เหมือนเช่นที่ทรงทำมาหลายครั้งในอดีต โดยให้เหตุผลว่าประเทศไทยตกอยู่ภาวะปิดตายทางการเมือง ซึ่งยังผลให้เกิดการปฏิบัติการแบบไม่เคารพกฎหมายจากทั้งสองฝ่าย เห็นได้ชัดจากความพยายามลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้นำในการชุมนุมประท้วงต่อต้านทักษิณเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา บทบรรณาธิการดังกล่าวสรุปว่า ถ้าหากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่ทรงใช้พระราชอำนาจเท่าที่มีเพื่อสร้างสมานฉันท์ให้เกิดขึ้น ประเทศไทยจะเสื่อมทรุดลงสู่ภาวะอนาธิปไตย เผด็จการทหาร หรือไม่ก็สงครามกลางเมือง
ด้าน บุนน์ นาการา คอลัมนิสต์เจ้าของคอลัมน์ "บีไฮน์ เดอะ เฮดไลน์ส" เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ เดอะ สตาร์ ของมาเลเซียเมื่อวันที่ 19 เมษายน นอกจากจะนำเสนอบทเรียน 10 ประการที่สำคัญที่สุดซึ่งรัฐบาลไทยควรเรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วยังเปิดเผยไว้ในคอลัมน์ของตนด้วยว่า มีการกล่าวหากันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้เงินเพื่อขับเคลื่อนม็อบเสื้อแดงในช่วงที่ผ่านมาสูงถึง 10,000 ล้านบาท โดยไม่ได้อ้างที่มาของคำกล่าวหาดังกล่าวแต่อย่างใด
ด้าน หนังสือพิมพ์ ไฟแนนเชียล ไทม์ส ของอังกฤษ ฉบับประจำวันที่ 19 เมษายน นี้อ้างคำให้สัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีระบุว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ซึ่งก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราวหลังการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ร่วมอยู่ในการกราบบังคมทูลฯถวายรายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในครั้งนั้นด้วย โดย พล.อ.สุรยุทธ์, พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กับองคมนตรีอีกคน ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและกราบบังคมทูลฯพระองค์ว่า พร้อมที่จะทำเพื่อยังประโยชน์แด่พระองค์ด้วยการกำจัดเขา ซึ่งไม่ได้จงรักภักดีต่อพระองค์ ทั้งหมดซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นกระบวนการ
อดีตนายกรัฐมนตรี อ้างอีกว่า เมื่อเขาพยายามปราบปรามผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลหลังจากการเข้าเฝ้าฯครั้งนั้น กลับไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ เพระไม่มีใคร (ในกองทัพ) ให้ความร่วมมือ เนื่องจากมีใครบางคนอยู่เบื้องหลังคนเหล่านี้
ไฟแนนเชียล ไทม์ส ระบุว่า ทางการไทยได้ปฏิเสธว่า ข้อกล่าวอ้างของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูล โฆษกของสถานทูตไทยในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษกล่าวว่า เป็นการโกหกเท่านั้นเอง ในขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงซึ่งอยู่ใกล้ชิดกับสถานการณ์ดังกล่าวกล่าวด้วยว่า ข้อกล่าวหาทั้งหมดของพ.ต.ท.ทักษิณ "ไม่เป็นความจริงโดยสิ้นเชิง"
วันเดียวกัน สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานเรื่องเดียวกันนี้ว่า ได้สอบถามไปยังนายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับคำอธิบายว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ และ ทางกระทรวงฯได้ตรวจสอบกับหลายๆแหล่งข่าวแล้ว องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงทราบเรื่องนี้หลังจากเกิดการรัฐประหารขึ้นแล้วเท่านั้น
บลูมเบิร์ก อ้างคำให้สัมภาษณ์ของนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีสมัยนายสมัคร สุนทรเวช 1 ใน 37 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับฐานเป็นผู้นำและยุงยงให้เกิดเหตุจลาจลขึ้น ซึ่งขณะนี้หลบซ่อนตัว โดยไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน ให้สัมภาษณ์จากสถานที่ที่ไม่เปิดเผยระบุว่า การต่อสู้ของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลยังไม่ยุติ และเตรียมแผนที่จะปฏิบัติการอีกในเร็วๆนี้ หากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไม่เสนอแนวทางสมานฉันท์ที่แน่วแน่มั่นคงให้กับพวกตน ซึ่งได้วางแผนที่จะหลบอยู่ใต้ดินนานเท่าที่จำเป็น การต่อสู่ในไทยมันไปไกลเกินกว่าจุดที่จะยอมยกเลิกไปเฉยๆแล้ว นี่คือจุดที่ไม่ว่าฝ่ายไหนตากก็สามารถระดมผู้เข้าร่วมจำนวนมหาศาลได้ แล้วเมื่อคุณมีพลวัตรทางการเมืองแบบนี้อยู่ ไม่มีใครบอกได้จริงๆหรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นเป็นลำดับถัดไป" นอกจากนี้ นายจักรภพยังให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอพีทางโทรศัพท์ด้วย โดยกล่าวว่ากลุ่มเสื้อแดงมีแผนที่จะออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลครั้งใหม่ใน 2-3 วันข้างหน้า ซึ่งจะเป็นการชุมนุมกันเล็กๆและถูกต้องตามกฎหมาย และยังจะมีการชุมนุมกันที่ทำเนียบรัฐบาลอีก แต่ยังไม่มีการกำหนดวัน
นายจักรภพ ยังอ้างอีกว่า กองทัพได้ใช้ทหารซึ่งเชื่อว่าเป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพอากาศ แฝงตัวเข้ามาอยู่ในกลุ่มเสื้อแดงในการเเคลื่อนไหวก่อความรุนแรงเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของกลุ่มเสื้อแดง เช่น การจุดไฟเผารถโดยสาร มีการจัดฉากให้เกิดความวุ่นวาย ทำให้เกิดการนองเลือด ซึ่งไม่ใช่ฝีมือของพวกเรา" นายจักรภพกล่าว พร้อมกับยอมรับว่าอาจมีเสื้อแดงบางคนที่ไปร่วมก่อความรุนแรงด้วยโดยไม่รู้เท่าทัน
นายจักรภพยังกล่าวถึงความพยายามลอบสังหารนายสนธิว่า เป็นการจัดฉากของคนในกองทัพและพรรคประชาธิปัตย์ โดยเป็นการให้ไฟเขียวกองทัพในการทำลายทุกสี ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเสื้อเหลืองและเสื้อแดง นายสนธิตกเป็นเป้าหมายสังหารเพราะนายสนธิรู้มากเกินไปและควรจะถูกเก็บ วันเดียวกัน นายจักรภพยังได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์แก่สำนักข่าวเอเอฟพี ซึ่งถูกระบุว่า เป็นการโทรศัพท์กลับมาหาเอเอฟพีจากสถานที่แห่งหนึ่งในต่างประเทศ ที่นายจักรภพระบุว่าใ ช้เป็นที่ซ่อนตัวอยู่ แต่ไม่ขอเปิดเผยและให้ผู้ช่วยเป็นคนโทรศัพท์มา เพื่อป้องกันการถูกสะกดรอยตาม โดยนายจักรภพกล่าวว่า เหตุที่ต้องหลบหนีออกนอกประเทศก็เพื่อหลีกเลี่ยงหมายจับกุมในข้อหาปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง เขาระบุว่า กำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในที่ที่ปลอดภัยและกำลังตั้งสำนักงานเพื่อใช้ในการเคลื่อนไหวต่อไป โดยได้ปรับยุทธศาสตร์บางอย่าง จึงต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้น "การตัดสินใจที่จะยุติการชุมนุมนั้นไม่ได้เป็นมติเอกฉันท์ แต่ผมเคารพการตัดสินใจของแกนนำที่อยู่ที่นั่น เพราะตัวผมเองไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย เนื่องจากผมไม่สามารถติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากภายนอกได้ ผมจึงตัดสินใจที่จะหนีออกนอกประเทศเมื่อมีการสลายการชุมนุม" นายจักรภพกล่าว นายจักรภพกล่าวว่า ได้ติดต่อกับพ.ต.ท.ทักษิณที่เมื่อเร็วๆนี้เมื่อตอนยังอยู่ที่ดูไบ แต่พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เป็นคนสั่งการในสิ่งที่เรากำลังทำกันอยู่ที่นี่
ด้านนายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า การที่มีการเสนอข่าวพาดพิงสถาบันเกี่ยวกับการปฏิวัติเมื่อปี 2549 เกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้วโดยนักวิชาการและสื่อมวลชนต่างประเทศ ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ทำความเข้าใจและชี้แจงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์กับการเมืองว่า พระมหากษัรติย์อยู่เหนือกฎหมายภายใต้รัฐธรรมนูญ ซึ่งที่ผ่านมาสื่อที่มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนก็ได้มีการตีพิมพ์คำชี้แจงของกระทรวงการต่างประเทศให้ผู้อ่านได้เห็นมุมมองจากทางการของอีกฝ่ายหนึ่งด้วย และในครั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศก็จะยืนยันข้อเท็จจริงดังกล่าวไปยังไฟแนนเชียลไทม์ส