วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2552

โฟนอิน “ทักษิณ” ไม่ผิด ก.ม.

ที่มา ไทยรัฐ

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า ที่สอบถามเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าการโฟนอินดังกล่าวยังไม่เข้าข้อกฎหมายที่จะดำเนินการได้ แต่ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายถอดเทป และติดตามการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณทุกวันเพื่อพิจารณาในเรื่องข้อกฎหมาย หากเห็นว่าเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายต้องเสนอขึ้นมา ขณะนี้เท่าที่รายงานเป็นเรื่องที่พาดพิงตัวบุคคลเป็นเรื่องส่วนตัว ต้องมีการร้องทุกข์กล่าวโทษของผู้เสียหายที่ถูกพาดพิงมาที่ตำรวจ ดำเนินการ แต่หากเข้าข่ายความผิดมาตรา 112 จะมีการดำเนินการทันที

แย้งคดี นปช.บุกบ้านป๋าเปรม

ส่วนความคืบหน้าคดีกลุ่ม นปช.บุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ บ้านพักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทำความเห็นแย้งพนักงานอัยการไปตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค. 51 หลังจากที่อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องกลุ่ม นปช. แต่ไม่ทราบว่าทำไมมาเป็นข่าวในช่วงนี้ เป็นเรื่องเก่าที่มีการประชุมร่วมกันของฝ่ายกฎหมาย และมีความเห็นแย้งทางคดีไปที่อัยการ ซึ่งทางกฎหมายพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง และอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีความเห็นแย้งอัยการได้ เพราะอำนาจตัดสินอยู่ที่ดุลพินิจของอัยการสูงสุด ซึ่งเหตุผลที่มีความเห็นแย้งอัยการ เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนทำขึ้นมามีน้ำหนักและความถูกต้องเพียงพอ

ผบ.ตร.ย้ำ ตร.ขึ้นเวทีม็อบไม่ได้

นอกจากนี้ พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงหรือ นปช.ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. เป็นผู้ตรวจสอบรายละเอียดในเรื่องนี้ซึ่งเป็นเรื่องความเหมาะสมของข้าราชการ กฎหมายรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องเป็นกลาง การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามารับเสื้อกับกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่น่าจะเป็นเรื่องการเมือง แต่การขึ้นเวทีการเมืองของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการพิจารณาทางวินัย เป็นหน้าที่ของหัวหน้าหน่วยต้องดำเนินการกับผู้ใต้บังคับบัญชาว่า ที่ผ่านมามีการดำเนินการมาก่อนหรือไม่

ยื่นอุทธรณ์-รอไต่สวนฉุกเฉิน

สำหรับความคืบหน้าการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่งของกลุ่ม นปช. ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก เวลา 14.00 น. นายคารม พลทะกลาง ทนาย ความของนายวีระ มุสิกพงศ์ กับพวกแกนนำ นปช. ได้ยื่นคำร้องขออุทธรณ์คำสั่งที่ศาลแพ่ง อนุญาตให้คุ้มครองชั่วคราวในกรณีฉุกเฉิน จากกรณีที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งขอให้มีคำสั่งให้ กลุ่ม นปช. เปิดถนน และประตูเข้าออกทำเนียบรัฐบาล ก่อนศาลแพ่งจะมีคำสั่งให้นายวีระกับพวก เปิดเส้นทางถนนลูกหลวง ตั้งแต่แยกเทวกรรมถึงแยกสะพานมัฆวานรังสรรค์และเปิดประตู 6 และ 8 เพื่อให้ข้าราชการ คณะรัฐมนตรี และบุคคลอื่นเข้าออกทำเนียบรัฐบาลและให้ลดระดับเครื่องขยายเสียงลง

อ้างสิทธิชุมนุมตาม รธน.

ทั้งนี้ ในคำร้องอุทธรณ์ระบุว่า จำเลยที่ 1 ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของศาลดังกล่าว เพราะการชุมนุมของจำเลยเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ เป็นการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ไม่มีการนำกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล อีกทั้งจำเลยได้ยื่นคำร้องคัดค้านว่าศาลแพ่งไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา ถือว่าจำเลยที่ 1 ได้โต้แย้งว่า ตามมาตรา 420 ซึ่งเป็นบทกฎหมายที่โจทก์นำมาฟ้องในคดีนั้น จึงไม่อาจนำมาบังคับใช้กับจำเลยที่ 1 กับพวกได้ และต้องส่งความเห็นของจำเลยที่ 1 ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จำเลยที่ 1 จึงขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกคำสั่งและเพิกถอนคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าว ซึ่งภายหลังศาลพิจารณาคำร้องอุทธรณ์ดังกล่าวแล้วได้รับคำร้องไว้พิจารณา จากนั้นนายคารมกล่าวว่า ในวันที่ 2 เม.ย.นี้จะยื่นคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าว โดยมีพยานเข้าไต่สวนจำนวน 4 ปาก หนึ่งในนั้นมีนายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ แนวร่วม นปช.ร่วมอยู่ด้วย

เสื้อแดงไล่ยำเสื้อเหลืองบุกเวที

ต่อมาเวลา 15.00 น. มีชายวัยกลางคนสวมเสื้อสีเหลือง ทราบชื่อภายหลังว่านายชินวรณ์ ธนาวุฒน์ อายุ 48 ปี เดินเข้ามาที่บริเวณหน้าเวทีของกลุ่มเสื้อแดง ที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ เมื่อกลุ่มเสื้อแดงเห็น จึงวิ่งกรูเข้าไปรุมล้อม นายชินวรณ์จึงรีบวิ่งหนีมาทางสะพานอรทัย โดยมีกลุ่มเสื้อแดงจำนวนมากวิ่งไล่ตามไปฉุดกระชาก จนนายชินวรณ์ล้มลง ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จากนั้นการ์ดกลุ่มเสื้อแดงได้รีบเข้าไปกันตัวนายชินวรณ์ไว้ และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้งมารับตัวไป โดยนายชินวรณ์ได้โชว์บัตรข้าราชการระบุตำแหน่งปลัดอำเภอ พร้อมกล่าวว่า เป็นปลัดอำเภอที่ จ.พังงา และเป็นปลัดอำเภอมา 12 ปีแล้ว การเดินทางมาทำเนียบฯ ครั้งนี้ เพื่อเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพราะแก้ปัญหาประเทศไม่ได้ โดยตนจะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน ตนลาพักร้อน 7 วัน เพื่อมาเรียกร้องที่ทำเนียบฯไม่รู้ว่ามีการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ตนอยู่บ้านนอก ไม่ได้ดูข่าวเลย ส่วนที่ใส่เสื้อเหลืองมา เพราะปกติก็ใส่เสื้อเหลืองทำงานทุกวันอยู่แล้ว

โวย “ดีทีวี” ถูกตัดสัญญาณ

จากนั้นบรรยากาศการชุมนุมในช่วงเย็น ได้เกิดความวุ่นวายเล็กน้อยเมื่อเวลา 17.00 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แถลงว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ใช้กลไกของอำนาจรัฐ ดำเนินการตัดสัญญาณออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ ดีสเตชั่น ถ่ายทอดสดการชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลตลอด 24 ชั่วโมง โดยขณะนี้ดีทีวีจอดำแล้ว คนเสื้อแดงจึงขอตั้งคำถามไปยังนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกฯ และผู้รับผิดชอบกระทรวงไอซีที รวมถึงนายกรัฐมนตรี ว่าเจตนาของรัฐบาลนี้คืออะไร ที่เคยประกาศว่าจะไม่แทรกแซงสื่อ ให้สิทธิในการแสดงออกของประชาชน การตัดสัญญาณแบบนี้ เท่ากับรัฐบาลชุดนี้ก็ไม่อาจสลับคราบของเผด็จการที่ให้กำเนิดและชุบเลี้ยงตัวเอง โดยไม่มีจุดยืนของประชาธิปไตยเลย

ฉุน ปชป.สองมาตรฐาน

แกนนำคนเสื้อแดงกล่าวด้วยว่า ในคราวที่กลุ่มพันธมิตรฯใช้สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีโจมตีรัฐบาลชุด ก่อน และถึงกับใช้ในการระดมคนให้ไปยึดสนามบิน ปรากฏว่าคนในพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่นายอภิสิทธิ์ ลงมาไม่เคยแสดงท่าทีใดๆ ทั้งยังอภิปรายในเชิงปกป้องเอเอสทีวีด้วย ส่วนรัฐบาลไม่ว่านายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายสมัคร สุนทรเวช ก็ไม่เคยปิดสัญญาณเอเอสทีวี ในขณะที่ทางสถานีดีสเตชั่น ยืนยันว่าตั้งแต่การชุมนุมวันแรกว่าเป็นการชุมนุมที่สงบ และไม่มีการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ แม้แต่ข้าราชการสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ ที่ไปร้องศาลแพ่ง ยังให้การว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงสงบและปราศจากอาวุธ แต่การชุมนุมแบบนี้กลับเป็นการชุมนุมที่รัฐบาลไม่ให้โอกาสการถ่ายทอดสดทั้งภาพและเสียง จึงขอประณามรัฐบาลที่ไม่สามารถสลับคราบเผด็จการแล้วสุดท้ายก็ต้องแสดงสันดานออกมา

เตรียมหาช่อง ก.ม.ฟ้องร้อง

“แต่ก็ไม่มีปัญหา ถ้าคนเสื้อแดงจะต้องอยู่ในประเทศนี้ ในฐานะของคนที่ต้องถูกรังแก กดขี่และเจอการสกัดกั้นตลอด ถ้าเป็นแบบนี้เราจะต่อสู้เพื่อใช้สิทธิอย่างเต็มที่ แต่ความอดทนของคนเสื้อแดงก็มีขีดจำกัด ถ้าเหยียบย่ำกดขี่รังแกกันเกินไป เราก็ต้องมีมาตรการที่จะตอบโต้ในวิธีที่เหมาะสม และขณะนี้ทางฝ่ายเทคนิคของดีสเตชั่นกำลังพยายามต่อสู้เพื่อกู้สัญญาณอยู่ และถ้าทำได้ก็จะเป็นการตบหน้ารัฐบาลชุดนี้ว่าไม่มีปัญญา ตัดสัญญาณของดีทีวีครั้งนี้ เพราะรัฐบาลต้องการที่ จะตัดสัญญาณวีดิโอลิงค์ แต่จัดการไม่ได้จึงใช้วิธีการตัดสัญญาณของดีสเตชั่นแทน และในส่วนของการใช้ มาตรการทางกฎหมายนั้น ทางบริษัทเพื่อนพ้องน้องพี่กำลังหารือกันเพื่อเตรียมการยื่นฟ้องร้องอยู่” นายณัฐวุฒิ กล่าวอย่างมีอารมณ์

ขู่ยิ่งปิดตา ปชช.คนยิ่งออกมา

นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิยังระบุด้วยว่า พบหนังสือจากกรมการขนส่งจังหวัดชลบุรี มาถึงผู้ประกอบการรถโดยสารเอกชนในจังหวัดชลบุรี อ้างว่าไม่ให้มีการใช้รถโดยสารเอกชนขนส่งคนเสื้อแดงที่จะมาชุมนุม ทั้งขู่ว่าถ้าใครฝ่าฝืนจะถอนใบอนุญาต และไม่ใช่แค่จังหวัดชลบุรี จังหวัดอื่นก็มี จึงขอถามว่า ผู้ว่าราชการจังหวัด กรมการขนส่ง และกระทรวงมหาดไทย มีอำนาจอะไร การกระทำแบบนี้เท่ากับรัฐบาลแทรกแซงการประกอบธุรกิจของประชาชน จากนี้สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ คือ การขับเคลื่อน ของคนเสื้อแดงคงมากขึ้น โดยอาจจะต้องนำผู้ชุมนุมไปเยี่ยมให้เห็นหน้าเห็นตากัน ส่วนเงินบริจาคนั้น ตั้งแต่ วันที่ 26 มี.ค.เป็นต้นมา มีทั้งสิ้นกว่า 4 ล้านบาท จึงยืนยันว่าเราสามารถชุมนุมยืดเยื้อกี่วันก็ได้ เพราะพลังประชาธิปไตยจะไหลเข้ามาเรื่อยๆ ยิ่งรัฐบาลจะสลายการชุมนุมยอดบริจาคยิ่งเพิ่มขึ้น

ลั่นจะปิดบัญชีก่อนสงกรานต์

ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่า การนัดหมายระดมพลเสื้อแดงครั้งใหญ่ในวันที่ 8 เม.ย.นี้ เป้าหมายคือจะมีคนเสื้อแดงมามากกว่า 3 แสนคน และปลายแถวของการชุมนุมจะอยู่ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ ระหว่างถนนหรือสถานที่ต่างๆก่อนจะถึงบ้านสี่เสาฯ จะเต็มไปด้วยคนเสื้อแดง ดังนั้น การที่รัฐบาลปิดสัญญาณดีสเตชั่น ก็เหมือนการเอาฝ่ามือไปปิดแผ่นฟ้า ถ้าดูประวัติศาสตร์แล้ว เมื่อครั้งคณะปฏิวัติปิดกั้นสื่อส่วนมาก ยิ่งทำให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นของประชาชนเพิ่มขึ้น ดังนั้น เราต้องปิดบัญชีรัฐบาล และ พล.อ.เปรม ก่อนสงกรานต์แน่นอน วันนี้ไม่มีการเจรจาใดๆ เพราะมาขับไล่เท่านั้น พล.อ.เปรม ก็เช่นกัน ถ้าไม่อยากเป็นก้อนกรวดในรองพระบาทต้องลาออกไป