วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ทักษิณ กับ 'บ่อทองคำ' : ขุมทรัพย์ล้ำค่าที่มีอยู่ใน 'มันสมอง' ของเขา

ที่มา Thai E-News

ที่มา เวบไซต์ บางกอกทูเดย์
22 พฤษภาคม 2552

พลิกวิกฤติ...เป็นโอกาส!

ลักษณะ แมว 9 ชีวิต ของอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” บทเรียนชีวิตอันแสน เจ็บปวด บนเส้นทางการเมือง... ที่ชีวิตต้อง ระหกระเหเร่ร่อน เป็นคนไกลบ้าน... ใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดน

หลายคำถามเดิมๆ ที่ว่า ...ทักษิณจะอยู่อย่างไร?? กับการถูกยึดอิสรภาพในประเทศ บ้านเกิดเมืองนอน

คำตอบ คือ ยากลำบาก แต่ไม่ถึงกับทุกข์ทน หมดหนทาง เพราะอย่างน้อยๆ “ทักษิณ ชินวัตร” ก็เป็นบุคคลหนึ่งที่มีต้นทุนทางสังคมสูง และต้นทุนนี้ไม่ได้ สูง แค่เฉพาะภายในประเทศ ...แต่กับต่างประเทศ ก็ยังคงได้รับ การยอมรับ

บุคคลเหล่านั้นยอมรับทักษิณใน ความสามารถ และการดำรงตำแหน่งระดับ ผู้บริหาร ซึ่งเคยผ่านสังเวียนใหญ่ คือการขึ้น บริหารราชการแผ่นดิน ในตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี”

เงิน 76,000 ล้าน ที่ “อัยการสูงสุด” สั่งยึดทรัพย์ ...รวมถึงการถูกศาลพิพากษาสั่งจำคุก 2 ปี กรณีที่ดินรัชดา ดูแล้ว เป็นเรื่องที่ไม่ได้ทำให้ “ทักษิณ” หยุดนิ่ง ...สามารถปรับตัวปรับสภาพได้เข้ากับทุกๆ สถานการณ์ โดยเฉพาะ “ความถนัดเฉพาะด้าน” เรื่องการทำธุรกิจ ...ซึ่งน้อยคนนัก จะคิดและทำให้สำเร็จได้เห็นผล

วิสัยทัศน์ ...ชั้นเชิง ครบเครื่อง แพรวพราว

ไล่มาตั้งแต่การซื้อสโมสรฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก “แมนเชสเตอร์ซิตี้” ที่ภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี ...ทักษิณ สามารถค้าขายหากำไรได้จำนวนเงิน นับ พันล้านบาท

มาถึงกรณีล่าสุด ...ด้วยการประมูลซื้อเกาะ “สเวตตินิโคลา” หมู่เกาะในประเทศ “มอนเตเนโกร” เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้เหมือน เกาะฮาวายโดยร่วมมือกับนักธุรกิจ ...เน้น “ขายคฤหาสน์” ราคาแพง ให้กับมหาเศรษฐีแถบอาเซียนที่ร่ำรวยมีอันจะกิน ...หากโครงการนี้สำเร็จ คาดว่าจะได้กำไรประมาณ 10,000 ล้านบาท

อีกทั้ง สัมปทาน 5 เหมืองทอง แถบแอฟริกา ...ที่มี “แร่มหาศาล” ซึ่งขณะนี้ “ทักษิณ” ได้สัมปทานไปเป็นที่เรียบร้อย ถือเป็น “ขุมทรัพย์” ในต่างแดน ที่คิดเป็นเงินมูลค่ามากมายมหาศาล

ว่ากันว่า ...หากอดีตนายกฯ ทำธุรกิจตรงนี้ต่อเนื่อง ติดต่อเป็นระยะเวลา 5 ปี ...และได้มีการพัฒนาขึ้นเป็นรูปเป็นร่างจน ประสบความสำเร็จ เขาจะกลับมา “ร่ำรวย” เป็นมหาเศรษฐีของโลกอีกครั้ง

ลองนั่งนับนิ้ว ...กดเครื่องคิดเลขเวลานี้ อย่างต่ำมูลค่าทรัพย์สินที่เขาครอบครองทั้งสิ้น จะมีไม่ต่ำกว่า แสนล้านบาท

เวลานี้ “ทักษิณ” มีบ่อทองอยู่ในมือ ...แต่ไม่ใช่แค่ “บ่อทองคำ” ที่เขาถือกรรมสิทธิ์เป็นผู้ครอบครอง

บ่อทองที่ว่า ...คือ ขุมทรัพย์ล้ำค่าที่มีอยู่ใน “มันสมอง” หากขาดซึ่งสิ่งนี้ ...ชีวิตย่อมไม่สัมฤทธิผล

ท่ามกลางวิกฤติ ...คนที่มีศักยภาพ สามารถเปลี่ยนห้วงเวลา พลิกจากวิกฤติเป็นโอกาสได้เสมอ ถึงไม่มีเงิน ...เงินก็ยังวิ่งมาหา

เรื่องนี้ ...อาจดูว่า เป็นการ “ตัดไม้ข่มนาม” ข่มขวัญข้าศึกว่า “ทักษิณ” ยังมี “น้ำยา” หรือคลังเสบียงมหาศาล เป็นเงินที่หาได้ใน “ตลาดโลกที่ใหญ่กว่าประเทศไทยมาก” ขนาดของตลาดและบ่อเงินบ่อทองใหญ่กว่ามากมายหลายร้อยเท่า

ข่าวการซื้อเกาะใน “มอนเตเนโกร” และสัมปทานเหมืองในประเทศแอฟริกา ได้สร้างความหนาวสะท้านให้กับ ศัตรู ของ ทักษิณเป็นอย่างมาก เพราะประเมินได้ว่า ...การไล่บี้ทักษิณนั้น ไม่จน แถมไล่ให้ไปเจอบ่อทองมหึมากว่าเดิมอีกด้วย

หากสู้กันด้วย “อำนาจ” ของความมั่งคั่ง ...ผู้มีอำนาจในประเทศ ศัตรูของทักษิณ มีแต่จะอ่อนแอลงจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ถดถอย ทำให้มูลค่าทรัพย์สินเสื่อมค่าลงอย่างมหาศาล

“การแก้แค้นจะหอมหวน เมื่อมันเย็นลงแล้วเท่านั้น”

เมื่อคิดทบทวนในมุมกลับ ...หาก “ทักษิณ” ยังอยู่ และทำงานในประเทศไทย เขาจะมีโอกาส “เปิดกว้าง” ด้วยการหลบจากปากเหยี่ยวปากกาเช่นนั้นหรือ มองแล้วแทบไม่มีโอกาสเป็นไปได้เลย!

หากผู้มีอำนาจตัดความ อิจฉาริษยา ออกไปเสียได้ ...คนไทยที่มีศักยภาพสูงเทียบเท่า “ทักษิณ ชินวัตร” ยังมีอยู่อีกมาก อยู่ที่ว่า ...ท่านจะให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นหรือไม่?!?

สร้างฐาน ...สร้างความมั่งคั่งให้ไหลกลับสู่ประเทศชาติ

แต่บังเอิญเป็นเรื่อง น่าเสียดาย ที่คนกลุ่มเล็กๆ ผู้ยึดครองอำนาจกลับ ใจแคบ เห็นแก่ตัว ทำลายคนเก่งเสียย่อยยับ ...ไม่เปิดโอกาสให้พวกเขามีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ เอาแต่พวกพ้องตนขึ้น “เป็นใหญ่” เป็นมือ ...เป็นเท้า ในการแสวงหา “ผลประโยชน์”

วันนี้ประเทศชาติอยู่ใน อาการโคม่า กำลังถูกโรคร้ายรุมเร้า อยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งต้องการ หมอมือดี มาช่วยเหลือเยียวยารักษา แต่ขาดเพียงไม่มี “หมอมือดี” ที่ว่า ...กลับมีแต่ หมอมือใหม่ หรือไม่ก็ ผู้ช่วยหมอ ด้วยความรู้และประสบการณ์ที่ไม่สั่งสมเพียงพอ แถมยัง อวดรู้...อวดดี โชว์ความสามารถ นำพาประเทศย่อยยับ ถอยหลังเข้าคลอง

“รัฐบาลอภิสิทธิ์” วันนี้ พวกท่านได้ทำอะไรให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติแล้วบ้าง?

ไม่ใช่ความ “สงบนุ่มนวล” ในตัว นายกฯ อภิสิทธิ์ที่ประชาชนต้องการ ...แต่ความต้องการที่แท้จริงของประชาชน คือ ลืมตาอ้าปาก กินดีอยู่ดี 711,000 คน ...กับสถิติคนว่างงานแล้ว

ที่โดนก่นด่าแบบสาดเสียเทเสียอย่างไม่น่าให้อภัย คือ การขึ้นราคาน้ำมัน โดยไม่ออกประกาศเป็นทางการพรวดพราด ราคาปาเข้าไปจะ 40 บาทอยู่แล้ว ...นี่แหละคือ การไม่ “แสดงความจริงใจ” ต่อประชาชน

รัฐบาลคิดและทำเรื่องนี้ได้อย่างไร??

คิดจะขึ้นก็ขึ้น ...และบอกข่าวแก่ประชาชนก็ในช่วง ข่าวดึกตอนเที่ยงคืน แล้วใครเขาจะไปรู้เรื่องรู้ราว

กับรัฐบาล“อภิสิทธิ์” กำลังสวมหัวโขนของ นายกรัฐมนตรี แต่ไม่เคยช่วยเหลือ แบ่งเบาภาระ ให้ประชาชน ตามหน้าที่ของ ผู้รับใช้ ประชาชนแม้แต่น้อย

หัวโขน ...เป็นเพียงสมมติสัจจะ เป็นของเล่นอีกชิ้นที่โลกได้สร้างขึ้น เพื่อให้กลไกแห่งชีวิตได้ไหลเลื่อน คล่อง สะดวก และก้าวไกล

แต่บางคนกลับสำคัญว่า เป็น “หัวจริง” ไม่ยอมถอดออก ตอนนี้บ้านเมืองมีปัญหาหลายด้าน แต่กลับเห็นแต่การเพิ่มปัญหาให้หนักขึ้น ...ยังไม่เห็นแก้ปัญหาอะไรได้เลย

บ่อทองในไทยไม่ต้องขุด ...ใช้ขูดเอาแบบชิวๆ