ผมรู้สึกช็อกเมื่อ สำนักวิจัยเอแบคโพล แถลงผลสำรวจความคิดเห็นของ ประชาชนใน 17 จังหวัด 1,228 ครัวเรือน เมื่อวันอาทิตย์ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 84.5 มองว่า การทุจริตคอรัปชันเป็นเรื่องปกติธรรมดาในการทำธุรกิจ และ ร้อยละ 51.2 ตอบว่า ยอมรับได้ที่รัฐบาลทุจริตคอรัปชัน ถ้าทุจริตแล้วทำให้ประเทศรุ่งเรือง ประชาชนกินดีอยู่ดี
ผมไม่รู้ว่าเอแบคโพลสำรวจจังหวัดไหนบ้าง เพราะข่าวออนไลน์ไม่ได้บอกชื่อจังหวัดที่ไปสำรวจ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของข้อมูล
แต่จำนวน 17 จังหวัดก็ถือว่ามากพอแล้ว ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจแสดงให้เห็นว่า คนไทยยังมีความเข้าใจผิดต่อความเลวร้ายของการทุจริตคอรัปชันอย่างมาก ถือเป็นเรื่องเศร้าอันยิ่งใหญ่ของประเทศ ไทยเลยทีเดียว เมื่อ "ความชั่ว" สามารถเอาชนะ "ความดี" และ "ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี" ไปจนถึง "จิตสำนึกคุณธรรม จริยธรรม" ในสังคมไทยได้มากมายขนาดนี้
เมื่อทุกคนคิดว่าการทุจริตคอรัปชันเป็นเรื่องปกติธรรมดา เป็นเรื่องที่ยอมรับกันได้ ใครๆก็ทุจริตกันทั้งนั้น ขอให้ฉันสบายอยู่ดีกินดีก็แล้วกัน แล้วประเทศไทยในอนาคตจะเหลืออะไร
ผลสำรวจของเอแบคโพลไม่ได้แตกต่างไปจากผลสำรวจของ "เพิร์ค" เมื่อสองเดือนก่อน ที่สำรวจความคิดเห็นของนักธุรกิจระดับผู้บริหารใน 16 ประเทศ ผลปรากฏว่า ประเทศไทย ได้ตำแหน่ง รองแชมป์การทุจริตสูงสุด ต่อจาก อินโดนีเซีย ซึ่งครองแชมป์ประเทศที่มีการทุจริตคอรัปชันมากที่สุด
เรื่องนี้ผมคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่สังคมไทยไม่ควรจะละเลยมองข้ามไป
เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ รัฐบาล และ หน่วยงานรัฐ ไปจนถึง ภาคเอกชน จะต้องระดมสรรพกำลังออกมาช่วยกันรณรงค์เพื่อ ปรับทัศนคติ ของประชาชนที่ กำลังหลงทาง ให้กลับเข้ามาหา ความถูกต้อง ก่อนที่จะสายไปยิ่งกว่านี้
สิ่งที่คนไทยยังไม่รู้ก็คือ ไม่รู้ว่าขบวนการคอรัปชันที่เกิดขึ้น จะส่งผลกระทบต่อประเทศชาติร้ายแรงขนาดไหน ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเขาและลูกหลานในอนาคตร้ายแรงแค่ไหน คิดง่ายๆแบบคนไทยว่า โกงกินไม่เป็นไร ขอให้มีผลงาน ทำให้ประเทศรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดีก็พอแล้ว
แต่ความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด
การคอรัปชันไม่สามารถทำให้ประเทศเจริญรุ่งเรืองได้ ไม่สามารถทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีได้ ผลสุดท้ายจะทำให้ชาติล่มจมหายนะ ประชาชนจะลำบากมากขึ้น ทุกชาติในโลกจึงมุ่งปราบการคอรัปชันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะจีนโทษถึงขั้นประหารชีวิตเลยทีเดียว
การคอรัปชันในเมืองไทยได้พัฒนาไปถึงขั้น การคอรัปชันระดับนโยบาย มีการตั้งงบประมาณล่วงหน้ากันแล้ว ไอ้ที่รับกันเล็กๆน้อยๆระดับล้านสองล้าน สิบล้านยี่สิบล้านเป็นปลายแถว ระดับหัวแถวเขารับกันทีละหลายร้อยล้านหลายพันล้าน จากโครงการขนาดใหญ่หลายพันหลายหมื่นล้านบาท
ขั้นตอนการคอรัปชันที่ทำให้บ้านเมืองเสียหายมากที่สุด ก็คือ การทำให้หน่วยงานรัฐอ่อนแอ เพื่อให้การคอรัปชันทำได้ง่ายขึ้น วิธีง่ายๆก็คือ การแต่งตั้งคนของตัวเองไปเป็นปลัดกระทรวง เป็นอธิบดี เป็นผู้อำนวยการ และเป็นบอร์ด เพื่อคอยประสานงานกันเป็นขั้นๆ สุดท้ายคือ การทำให้องค์กรตรวจสอบการคอรัปชันอ่อนแอ เพื่อทำลายกระบวนการตรวจสอบ
เห็นหรือยังครับ การคอรัปชันส่งผลเลวร้ายแค่ไหน นี่แค่ตัวอย่างคร่าวๆเท่านั้น
ผมจึงอยากให้คนไทยคิดกันใหม่ ศึกษากันใหม่ ประเทศที่มีการคอรัปชันมากล้วนหายนะล่มจมกันทั้งนั้น ไม่มีหรอกครับ ประเทศที่คอรัปชันมากๆแล้วประเทศนั้นจะเจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดี มีแต่ประชาชนจะเดือดร้อนกันมากขึ้น ไม่เชื่อไปดูประเทศในอเมริกาใต้ และแอฟริกาดูก็แล้วกัน ผมได้แต่ภาวนาขอให้เมืองไทยอันเป็นที่รักของเรา อย่าได้เป็นอย่างเขาครับ.
"ลม เปลี่ยนทิศ"
วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552
หายนะประเทศไทย ยอมรับคนโกงเพื่ออยู่ดีกินดี
ที่มา ไทยรัฐ