วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ทักษิณทีวี : ต่างจากที่นึก ลึกกว่าที่คิด

ที่มา Thai E-News


แนวร่วมREDฉบับพระเมตตาฯ-หน้าปกของนิตยสารแนวร่วมREDฉบับล่าสุด พาดปก"พระเมตตาจากฟ้าสุรารัยสู่แดนดิน"ในวาระประชาชนไทยร่วมใจถวายฎีกาพระราชทานอภัยโทษ กำหนดวางแผงวันศุกร์ที่ 31 ก.ค.นี้ทั่วประเทศ

ที่มา นิตยสารแนวร่วมRED
30 กรกฎาคม 2552

นอกจากมิ่งขวัญแล้ว อีกคนหนึ่งที่เชื่อว่าน่าจะหวนกลับมาเป็นแม่ทัพสำคัญ ก็คือ ทรงศักดิ์ เปรมสุข โคตรเซียนการตลาดที่ปลุกปั้น ไอทีวี จนโด่งดัง ทรงศักดิ์ได้ชื่อว่าเป็นขุนพลมือฉมังที่ทักษิณเชื่อมั่นอย่างมาก ทรงศักดิ์เก่งแค่ไหน นักสื่อสารมวลชนอย่าง”กาแฟดำ” สุทธิชัย หยุ่น น่าจะรู้ดี!



กลายเป็น “บิ๊กเซอร์ไพรส์” ย่อยๆฉลองแซยิด 60 ปีหนีไม่พ้นกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศจะทำสถานีโทรทัศน์ที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วโลก ประมาณ 100 ช่อง โดย 2-3 ช่อง จัดทำเพื่อคนไทยเป็นพิเศษ


ช่องหนึ่งเป็นเรื่องเศรษฐกิจ โดยการขายสินค้าโอท็อปผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ และให้โอกาสนักธุรกิจขนาดย่อมที่ไม่มีกำลังทำการตลาดมาโฆษณา โดยคัดสินค้ามาโฆษณาขายให้ ทำให้น่าซื้อ

อีกช่องคือเรื่องคนจน จะทำเป็นเรียลลิตี้ ไปถ่ายทำชีวิตคนจนว่าจะหายจนได้ต้องทำอย่างไร ซึ่งบางครอบครัวใช้เงินเพียง 5 หมื่นบาทก็หายจนได้ เพียงแค่คนรวยหยุดกินไวน์ขวดละ 8 หมื่นสักขวดก็มาช่วยได้แล้ว นอกจากจะทำให้เลิกกินเหล้ายังได้เรื่องสุขภาพ ส่วนครอบครัวคนจนก็จะหายจน และเลี้ยงตัวเองได้ เป็นการเอาคนที่มีกำลังไปช่วยคนอ่อนแอ อาจจะเป็นคนไทยในต่างประเทศ คนไทยในต่างแดน หรือคนต่างชาติก็ได้

อีกเรื่อง คือการศึกษา ซึ่งทุกวันนี้พ่อแม่ต้องเสียเงินให้ลูกไปกวดวิชา ตนจึงอยากจะหาครูดีๆ มาติวผ่านโทรทัศน์ให้ โดยจะเป็นทีวีสองทาง( Inter active T.V.) โต้ตอบกันได้เหมือนมีครูมาติวให้ที่บ้าน เพียงเข้ามาในเซิร์ฟเวอร์ ก็เลือกเวลาดูได้ตามใจ


นอกจากนี้ ยังจะเผยแพร่วิธีการเรียนการสอนต่างๆ เพราะแต่ละที่ก็มีวิธีการสอนที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นที่สวนกุหลาบ เตรียมอุดม หรือมงฟอร์ต ทุกแบบที่สอนก็ดีทั้งนั้น ดังนั้นจึงจะเปิดโอกาสให้เลือกนำมาใช้ นอกจากนี้จะเอาตำราจากต่างประเทศมาร่วมด้วย เอารายการเหล่านี้ใส่ใน thumb drive อยากเรียนเมื่อไหร่ก็จะได้เรียนได้ และจะได้ไม่แพ้ต่างประเทศ

ต้องบอกว่านี่เป็นหมัดเด็ดที่น่าติดตามอย่างยิ่ง !

ยิงกระสุนกระตุ้นต่อมความสนใจของนายกทักษิณเที่ยวนี้ นกร่วงระนาว ที่ได้แน่ๆก็คือ นายกทักษิณสามารถสร้างช่องทางสื่อสารกับชาวบ้านได้มากขึ้น ใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยเฉพาะทีวีช่องการศึกษา ซึ่งจะกุมหัวใจได้ทั้งคนเป็นพ่อแม่ และเด็กรุ่นใหม่ และถ้าเติม Contents ให้มีความหลากหลาย เหมือนที่นายกทักษิณบอกว่า Contents is King ก็จะสร้างการยอมรับได้ง่ายขึ้นอีก

นักสื่อสารมวลชน (ประเภทกบในกะลา) บอกว่า มันก็งั้นๆ ทีวีดาวเทียมกลายเป็นของเล่นเก่าไปแล้ว ขณะที่เสนาบดีกระทรวงศึกษาตอบกลับทันควันเลยว่า ไม่กลัว จะทุ่มเงินอีก 6,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนา ETV (ทีวีช่องการศึกษา) ให้เป็นเหมือนฟรีทีวี ไม่ต้องติดจานรับ เพื่อขยายโอกาสการรับรู้มากขึ้น


ไม่ยากหรอกที่จะใช้เงิน 5-6 พันล้าน ปรับปรุงทีวีสักช่อง แต่ถามว่าจะสร้างเสน่ห์ของช่องนี้ให้เกิดขึ้นได้อย่างไร และการพัฒนาคุณภาพการศึกษาแท้จริงนั้น ผูกติดกับการทุ่มงบมหาศาลเพื่อทำทีวีอย่างนั้นหรือ?

ภาษานักเลงเขาเรียกว่า งานนี้นายกทักษิณต้อนรัฐบาลเข้ามุม ถลุงด้วยการวัดเชาวน์ปัญญาจนยับเยิน !

ที่น่าสนใจของทีวีดาวเทียมที่นายกทักษิณจะทำขึ้นนั้น น่าจะอยู่ที่คีย์แมนคนสำคัญๆว่า จะเป็นใครกันบ้าง เท่าที่รู้มาบอกได้ว่า โคตรเซียนตัวจริงของวงการทีวี เช่น มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตแม่ทัพใหญ่ อสมท.ที่ใช้เวลาไม่กี่ปีในการประกาศศักดา ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ ให้เป็น Knowledge Society ขนาดใหญ่

เถียงกันไม่ได้เลยว่า ช่อง 9 ยุคมิ่งขวัญนั้นได้รับการตอบรับมากมายเพียงไร ทั้งในแง่ผู้ดู โฆษณา

มิ่งขวัญไม่ได้มาคนเดียวแน่นอน ขุนทัพนายกองที่ร่วมมหกรรมงานสร้างกับช่อง 9 อสมท.ดูเหมือนจะรอนกหวีดสัญญาณดังขึ้นเท่านั้น

นอกจากมิ่งขวัญแล้ว อีกคนหนึ่งที่เชื่อว่าน่าจะหวนกลับมาเป็นแม่ทัพสำคัญ ก็คือ ทรงศักดิ์ เปรมสุข โคตรเซียนการตลาดที่ปลุกปั้น ไอทีวี จนโด่งดัง ทรงศักดิ์ได้ชื่อว่าเป็นขุนพลมือฉมังที่ทักษิณเชื่อมั่นอย่างมาก

ทรงศักดิ์เก่งแค่ไหน นักสื่อสารมวลชนอย่าง”กาแฟดำ” สุทธิชัย หยุ่น น่าจะรู้ดี!

นั่นเป็นเรื่องของขุนพลที่จะแบกรับภารกิจสำคัญ คราวนี้กลับมามองดูช่องทางของทีวีดาวเทียมนี้อย่าง ช่องที่จะใช้โปรโมทขายสินค้า Otop ที่คอลัมน์นิสต์อย่าง “กาแฟดำ” วิจารณ์ว่า จะทำแข่งกับทีวีไดเร็กอย่างนั้นหรือ ?

ถ้ามุมมองของนักสื่อสารมวลชนใหญ่มองได้แค่นี้ เห็นทีต้องเก็บก้อนขื่นขมไว้ในใจ!

เชื่อว่าหลายคนนึกไม่ถึงหรอกว่า ห้วงเวลาสองสามปีมานี้ นายกทักษิณและทีมงานได้เร่งสร้างช่องทางจำหน่ายสินค้า Otop ในต่างประเทศเอาไว้มากมายเพียงไร เช่น ในสมัยที่ สันติ พร้อมพัฒน์ เป็นรัฐมนตรีคมนาคม ก็ได้เจรจากับสนามบินฮาห์น ประเทศเยอรมนี ซึ่งสนามบินแห่งนี้เป็นศูนย์กลางโลว์คอสต์ แอร์ไลน์ ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป

ผู้บริหารของฮาห์นตอบรับที่จะให้ใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งของสนามบินจัดทำเป็นศูนย์กลางจำหน่ายสินค้า Otop ของไทย คิดดูว่าวันหนึ่งๆ ปริมาณผู้โดยสารใช้บริการสนามบินแห่งนี้มีหลายแสนคน นั่นคือลูกค้ารายใหญ่ของ Otop

ความสำเร็จของการวางรากฐานอย่างนี้เป็นเพราะได้มือดีอย่างอดีตผู้บริหารคาร์โก้ของการบินไทยคนหนึ่งมาช่วยตั้งแต่ยังอยู่ในตำแหน่งเลยทีเดียว ขอให้จับตากันไม่กะพริบถึงการมใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ประสานรับกันอย่างกลมกลืนระหว่าง..

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ + การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทีวีดาวเทียม + ช่องทางโลจิสติกส์ใหม่ๆ จากท้องถิ่นไทยถึงต่างแดน

ทีวีช่อง Otop จะทำหน้าที่เป็นกลไกการโฆษณาประชาสัมพันธ์เพื่อให้สอดรับกับช่องทางจำหน่ายสินค้าที่วางไว้เกลื่อนโลก !

นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงเรื่องทีวี100ช่องว่า ตนได้ไปดูมาแล้ว ที่ดูไบโดยจะใช้เครื่องส่งสัญญาณ ราคา 3 ล้านบาท ซึ่งได้เตรียมไว้แล้ว เพื่อใช้สำหรับยิงสัญญาณขึ้นไปดาวเทียม แล้วส่งสัญญาณกระจายครอบคลุมทั่วโลก และยังมีห้องสตูดิโอขนาดประมาณ 10 คูณ 8 เมตร เพื่อใช้ในการถ่ายทำรายการ และมีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลเรื่องเทคโนโลยีให้

อุปกรณ์พวกนี้ จะเริ่มทำงานได้เลย โดยเทคโนโลยี ใกล้เคียง เอเอสทีวี ระบบป้องกันการตัดสัญาณได้ 100 % ซึ่งเราสามารถที่จะนำสินค้าของเมืองไทย สินค้าพื้นบ้าน สินค้าโอท็อป ไปขาย นำเสนอผ่านช่องทีวีช่องนี้ ให้กระจายไปได้ทั่วโลก

คนที่ดูรายการช่องนี้ ก็จะสามารถสั่งซื้อได้ ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้วางตัวแทนจำหน่ายสินค้าไทย เอาไว้ทั่วโลก เพื่อทำหน้าที่ตัวแทนจำหน่าย