วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ประเทศจะไปรอดได้อย่างไร ? ถ้าอำนาจอยู่เหนือความยุติธรรม..

ที่มา thaifreenews

เขียนโดย เจ้าพ่อ USA (REDTHAI.org)
วันศุกร์ที่ 03 กรกฏาคม 2009 เวลา 19:11 น.

alt

สัปดาห์ นี้กลุ่มคนเสื้อแดงกำลังเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้มีการล่ารายชื่อขอพระ ราชทานอภัยโทษให้กับอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผมในฐานะที่เป็นคนที่ได้ร่วมต่อสู้มากับกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อเรียกร้องระบอบประชาธิปไตย และเรียกร้องให้ มีกระบวนการความยุติธรรมที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่สามารถเป็นที่ยึดเหนี่ยวและสร้างความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติได้ มากกว่า อำนาจใดอำนาจหนึ่ง ให้กับประเทศไทยนั้น หลังจากที่ นายวีระ มุสิกพงษ์ แกนนำ นปช. ได้ออกมาเคลื่อนไหว รณรงค์เรียกร้องให้มีการร่วมสนับสนุนเซ็นชื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้กับอดีต นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณฯ นั้น มีทั้งนักวิชาการ สื่อสารมวลชนได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และไม่เคยมีปรากฏการณ์มาก่อน

อ่านเพิ่มเติมและแสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

ส่วนความพยายามในการล่ารายชื่อของแกนนำกลุ่มนปช.นั้น ก็ยังคงดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับว่าเป็นความพยายามที่ทำให้มีการดำเนินการเกิดขึ้นอย่างจริงจัง เพื่อให้พระมหากษัตริย์ได้ทรงพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ผมเองในฐานะที่มีความห่วงใย กระบวนการระบบความยุติธรรมในประเทศไทย ตลอดจนถึงระบบการบริหารบ้านเมือง ที่ทุกคนมักอ้างว่า เป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ใคร่ขออนุญาติ กลุ่มคนเสื้อแดงทุกคนได้วิจารณ์และได้วิเคราะห์การเคลื่อนไหวของแกนนำที่ กำลังได้ล่ารายชื่อถวายฎีกาเพื่อให้มีการพระราชทานอภัยโทษให้กับคุณทักษิณ ชินวัตร ผมเองไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่แกนนำได้ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เพราะสิ่งที่แกนนำของกลุ่มคนเสื้อแดงกำลังเคลื่อนไหวนั้น แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่ต้องการให้คุณทักษิณนั้น หลุดพ้นจากข้อครหา หลุดพ้นจากการใส่ร้าย หลุดพ้นจากคำว่า เป็นผู้ต้องหา โดยใช้พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์มาเป็นเครื่องมือในการลบมลทินให้กับตัว ของ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ทั้งนี้ทั้งนั้น พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์อาจสามารถให้ความช่วยเหลือโดยการพระราชทาน โอกาสเพื่อยกโทษให้กับคุณทักษิณ ชินวัตร ทั้งที่ในทางความเป็นจริงแล้ว ถ้าเรานำเรื่องนี้มาพูดในมุมของความยุติธรรมมาพูดและด้านกฎหมาย ซึ่งเป็นกติกาสูงสุดของการอยู่ร่วมกันของคนในโลกนี้ และเป็นกติกาสากลของคนทั่วโลก เขาจะไม่ยอมรับความคิดในการขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งเป็นเพียงความคิดของคนที่ยังยึดติดอยู่กับความจำเจเก่า ๆ ที่ไม่รู้จะหาทางออกแบบไหน เหมือนในอดีตที่เคยมีการพระราชทานอภัยโทษให้กับนักการเมืองหลายคน อาทิเช่น จอมพล ถนอม จอมพล ประภาส เป็นต้น

เมื่อพระมหากษัตริย์ทรงสามารถพระ ราชทานอภัยโทษ ย่อมหมายถึงพระองค์มีพระราชอำนาจเหนือกว่าคณะตุลาการ ที่สามารถทำให้ผู้ต้องหา หรือผู้ที่ถูกกล่าวหานั้น ได้รับอิสระ ย่อมหมายถึง ผู้ที่ถูกกล่าวหานั้น กลายเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่การเป็นผู้บริสุทธิ์จากการได้รับพระราชทานอภัยโทษนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าได้ผ่านการสืบสวน สอบสวนในระบบยุติธรรมอย่างแท้จริง เพราะฉะนั้น สิ่งที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ เป็นความคิดของคนที่คิดว่า พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ อยู่เหนือกว่ากฎหมาย และอยู่เหนือกว่า กระบวนการยุติธรรม ซึ่งมันแตกต่างจากความเป็นจริงที่คนทั่วโลกเขาไม่ได้คิดอย่างที่แกนนำคน เสื้อแดงกำลังคิด ซึ่งคนทั่วโลกนั้น เขาคิดว่า กระบวนการยุติธรรมและความถูกต้องย่อมเหนือกว่าอำนาจใดๆทั้งหลาย ทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นอำนาจของพระมหากษัตริย์ หรืออำนาจของเทวดา หรืออำนาจของผู้วิเศษก็ตาม

การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ฯ ได้ถูกคณะทหารยึดอำนาจและได้ทำการปฏิวัติ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 นั้น โดยอ้างเหตุผล 4 ประการกล่าวคือ 1. รัฐบาลคุณทักษิณ สร้างความแตกแยกให้กับคนในประเทศ 2. มีการแทรกแซงหน่วยงานของรัฐ 3.มีการกล่าวจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ 4. มีการคอรัปชั่น เกิดขึ้น อย่างไรก็ดีเหตุผลทั้ง 4 ประการนั้น คณะทหารไม่สามารถที่จะนำหลักฐานมาลงโทษคุณทักษิณได้ แต่คณะทหารก็สามารถนำประกาศคณะปฏิวัติซึ่งเป็นกฎหมายชั่วคราว ร่างโดยคณะปฏิวัติ มาใช้เป็นเครื่องมือกับประชาชนในประเทศ โดยกฎหมายที่ออกโดยคณะปฏิวัตินั้น ก็สามารถจัดการกับคุณทักษิณ ฯ ได้โดยไม่มีความเป็นธรรมเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย อาทิเช่น การยุบพรรคไทยรักไทย การตัดสินคดีที่ดินรัชดา การยึดทรัพย์ของคุณทักษิณ ซึ่งเป็นทรัพย์สินปรากฏไว้ตามหลักฐานก่อนที่คุณทักษิณจะมาเล่นการเมืองด้วย ซ้ำ ความพยายามกลั่นแกล้งคุณทักษิณฯของคณะปฏิวัตินั้น ถูกกประชาชนจับได้ว่าคณะปฏิวัติคณะนี้มีเจตนาที่อยากจะกำจัดคุณทักษิณ ฯ ให้ออกไปจากวงการการเมืองโดยไม่ต้องการให้คุณทักษิณ กลับมามีบทบาทในวงการการเมืองอีกครั้ง โดยมีการวางแผนใส่ร้ายว่าคุณทักษิณนั้น มีจุดประสงค์ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ จนมีการวางแผนฆาตกรรมคุณทักษิณ ตามหลักฐานที่ปรากฏ เช่น เรื่อง คาร์บอมป์ หรือการรอบยิงที่สนามบินดอนเมืองเป็นต้น เพราะฉะนั้น ความต้องการของคณะปฏิวัติที่มีกลุ่มคนที่มีอำนาจบงการอยู่เบื้องหลัง วางแผนเป็นผู้สั่งการจ้องกำจัดคุณทักษิณ ฯนั้น จึงเป็นเรื่องที่ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศทราบดีว่า ใคร?คือคนที่อยู่เบื้องหลัง ใคร? คือคนที่กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาขับไล่ทุกครั้งที่ออกมาชุมนุม และใคร ? คือคนที่กลุ่มคนเสื้อแดงเรียกว่า หัวหน้าอำมาตยาธิปไตย สิ่งที่ทหารคณะปฏิวัติและกลุ่มคณะอำมาตย์ ที่จ้องกำจัดและจองล้าง จองผลาญ คุณทักษิณฯ นั้น มันเป็นเรื่องที่ขัดต่อกฎหมาย มันเป็นเรื่องที่ขัดต่อความเป็นจริง มันเป็นเรื่องที่ขัดต่อศีลธรรม มันเป็นเรื่องที่ประชาชนที่มีความคิดนั้น รับไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องที่สกปรกที่สุด เพราะมันเป็นเรื่องที่ป่าเถื่อนที่สุด การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงจึงรวมตัวกันอย่างมากมาย อย่างต่อเนื่องนับเป็นกลุ่มคนที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีความใกล้ ชิดและมีความผูกพันกันอย่างยาวนาน และพร้อมที่จะต่อสู้ร่วมกับคุณทักษิณฯ โดยไม่เห็นแก่บุคคลใด บุคคลหนึ่งที่ประชาชนเคยหลงคิดว่า เขาคนนั้นเป็นบุคคลที่เป็นเทวดาของประชาชนเพราะฉะนั้น การที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้ร่วมกันต่อสู้เพื่อเรียกร้องความถูกต้องในระบอบ ประชาธิปไตย ในกลไกของกระบวนการยุติธรรมนั้น จึงเป็นสิ่งที่กลุ่มคนชาวเสื้อแดงได้มุ่งมั่น เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า กฎหมายย่อมเป็นกฎหมาย คนที่มีอำนาจไม่สามารถที่จะกลั่นแกล้ง หรือใส่ร้ายคนบริสุทธิ์ เพื่อให้เกิดความเสียหายได้

เพราะ ฉะนั้น สิ่งที่ผมอยากเห็นก็คือ การพิสูจน์ให้เห็นว่า คุณทักษิณฯ เป็นผู้บริสุทธิ์ ที่ถูกกลุ่มอำมาตย์และคณะปฏิวัติเข้ามากลั่นแกล้ง การพิสูจน์ให้เห็นว่า กลุ่มพันธมิตร ประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น พูดจากล่าวหาใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ จนทำให้เกิดความเสียหาย และผมต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณฯ นั้น ไม่เคยมีความคิดที่จะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่มีคนในสถาบันพระมหากษัตริย์ พยายามคิดที่จะกำจัดคุณทักษิณ ฯ ตามหลักฐานที่มีบุคคลสำคัญท่านหนึ่ง เลือกข้างประชาชนโดยทำตัวเป็นคนฝ่ายเดียวกันกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เที่ยวไปแจกผ้าพันคอให้กับนายสนธิ ลิ้มทองกุล และก็ไปเป็นเจ้าภาพพิธีงานศพของกลุ่มคนกบฏที่มีพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายที่เข้า ไปยึดทำเนียบรัฐบาล เพราะฉะนั้นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของคุณทักษิณนั้น ย่อมเป็นไปตามกระบวนยุติธรรมอย่างแท้จริง ที่ไม่มีอำนาจใด อำนาจหนึ่งเป็นผู้สั่งการดั่งที่แล้วมาตามหลักฐานที่ปรากฎ อาทิเช่น คดีของคุณสมัคร สุนทรเวช ที่ถูกตัดสิทธิ์คุณสมบัติในการเป็นนายกรัฐมนตรี หรือคดีการกลั่นแกล้งที่ถูกวางแผนทำลายนายยงยุทธ์ ติยะไพรัช และอำนาจที่เหนือกว่ากระบวนการยุติธรรมนั้น ปรากฏให้ประชาชนทั้งประเทศให้เห็นด้วย โดยใช้อำนาจของคณะปฏิวัตินั้นเป็นเครื่องมือในการล้มล้างความยุติธรรม ทุกอย่างที่มีต่อประชาชนในประเทศจนทำให้ประเทศชาติเกิดความเสียหายและแตก ความสามัคคี การที่แกนนำกลุ่ม นปช.เตรียมล่ารายชื่อเพื่อขอพระราชทานไปทั่วประเทศ ให้กับคุณทักษิณนั้น ผมจึงไม่เห็นด้วย เพราะเท่ากับเป็นการยอมรับผิดและนำพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์นั้นมาชำระ ล้างมลทินให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ฯ และก็ไม่ใช่วิธีการที่คนทั่วโลกเขาปฏิบัติกัน เพราะคนทั่วโลกนั้น เขายอมรับกระบวนการยุติธรรมเหนือกว่าอำนาจ และเหนือกว่าพระราชอำนาจ เขาไม่ยอมรับคนที่มีอำนาจนั้น อยู่เหนือความยุติธรรม ความยุติธรรม ย่อมเหนือกว่าอำนาจทั้งหลายทั้งปวง การที่แกนนำ นปช. จะไปขอพระราชอำนาจ เพื่อมาลบล้างกระบวนการยุติธรรมนั้น เป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องเราควรนำความยุติธรรมนั้นไปสู่การตรวจสอบเพื่อให้ ประชาชนทั่วไปได้เห็นว่า คุณทักษิณ ฯ เป็นผู้บริสุทธิ์ หรือเป็นผู้ที่ถูกกล่าวหาตามที่กลุ่มพันธมิตรและคณะปฏิวัติได้กล่าวหา ไม่ใช่ไปใช้อำนาจพระมหากษัตริย์มาล้มล้างข้อกล่าวหา

หากวันนี้การ ขอพระราชทาน อำนาจเพื่อให้ได้มาซึ่งการอภัยโทษเกิดขึ้นจริง ต่อไปกระบวนการยุติธรรมก็ไม่มีความหมาย และไม่มีความศักดิ์สิทธิ์เพียงพอ ผู้ใดถูกกล่าวหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็วิ่งไปพึ่งพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ซึ่งขัดต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่ประชาชนทั่วโลกเขายอมรับ การต่อสู้ของกลุ่ม นปช. ที่ต่อสู้เพื่อระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริงนั้น ผมคนหนึ่งที่ร่วมต่อสู้กับแนวความคิดและอุดมการณ์ของคนเสื้อแดงและต้องการ ให้มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่เป็นระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง อำนาจทั้งหลายย่อมขึ้นอยู่กับอำนาจของประชาชนที่มีหน่วยงานทั้ง 3 หน่วยงานมีอำนาจสูงสุด คือ คณะบริหาร คณะตุลาการ และคณะนิติบัญญัติ ไม่ใช่สถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีอำนาจสูงสุดกว่าอำนาจประชาชน ไม่ใช่คณะองคมนตรี ที่มีอำนาจสูงสุดกว่าประชาชน ไม่ใช่คณะทหารที่เข้ามาปฏิวัติ ที่นำอาวุธ ที่ได้มาจากการเก็บภาษีจากประชาชน เข้ามาทำลายอำนาจของประชาชน และล้มล้างกระบวนการยุติธรรมอย่างสิ้นเชิง

สรุปความว่า เราต้องการอยู่กันในระบอบประชาธิปไตย หรือระบอบราชาธิปไตยและเราต้องการให้อำนาจของพระมหากษัตริย์นั้น อยู่เหนือกว่าอำนาจของกระบวนการยุติธรรม เมื่อแกนนำกลุ่ม นปช. ต้องการให้มีการพระราชทานอภัยโทษให้กับคุณทักษิณ ผมอยากถามว่า สิ่งที่เราร่วมกันต่อสู้มานั้น เป็นระยะเวลานาน กว่า 3 ปี เรากำลังจะกลืนน้ำลายตัวเองหรือ? หรือว่าเรากำลังจะคิดไปพึ่งอำนาจของพระมหากษัตริย์เพื่อมาล้มล้างอำนาจของ ประชาชนอย่างนั้นหรือ?

เป็นที่น่าสังเกตว่า เมื่อคณะทหารเข้ามายึดอำนาจจาก คุณทักษิณ เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549นั้น คณะทหารชุดนี้ซึ่งได้รับพระราชทานอำนาจจากพระมหากษัตริย์ ให้ทำการปฏิวัติ และยึดอำนาจมาจากประชาชนทั้งประเทศ ได้ใช้อำนาจของตัวเองเพื่อร่างกฎหมายชั่วคราวมาใช้เป็นเครื่องมือในการลงโทษ คุณทักษิณ ดังที่ปรากฏให้ประชาชนได้เห็นว่า กฎหมายทีใช้ลงโทษคุณทักษิณนั้น ขัดต่อจารีตของกระบวนการยุติธรรม เพราะฉะนั้น เมื่อแกนนำกลุ่ม นปช. มีความต้องการที่จะขอพระราชทานอภัยโทษให้คุณทักษิณเพื่อลบล้างมลทินจากพระ มหากษัตริย์ เท่ากับว่าบุคคลที่ให้อำนาจทหารให้ทำการลงโทษ และกลั่นแกล้งคุณทักษิณ กับบุคคลที่แกนนำ นปช. กำลังจะขอพระราชทานอภัยโทษก็คือ บุคคล คนเดียวกัน หมายถึง ทั้งคนให้โทษ และ คนยกโทษ คือคนๆ เดียวกัน !