วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2552

"พัชรวาท"ตอกหน้า"มาร์ค"ไม่ได้ฟังแถลง ปัดยื่นหนังสือลาไปเมืองนอก ยันไม่ได้เสนอทางออกแค่หารือเฉยๆ

ที่มา มติชนออนไลน์

ผบ.ตร.ยังยิ้มร่า ปัดเสนอ2ทางออกลดอุณหภูมิคดียิง"สนธิ" ยันไม่ได้ยื่นหนังสือขอลาพักไปตปท. แค่มีทริปไปจีน10วันตามปกติ ขู่ถ้าระงับโยกย้ายอาจถูก152นายพลฟ้อง บอกตีความกันไปเองว่าเป็นอุปสรรค-การเมืองไม่กดดัน


เมื่อเวลา 20.30 น. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุพล.ต.อ.พัชรวาท เสนอทางออกให้บรรยากาศการคลี่คลายคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยดีขึ้น ด้วยการขอลาหยุด รวมทั้งไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 10 กว่าวันตั้งแต่ต้นสัปดาห์หน้า และการแต่งตั้งโยกย้ายที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างใหม่ ควรถูกระงับและทบทวนและเปิดโอกาสให้ผบ.ตร.คนใหม่ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ต่อไป ว่า การลาพักงานไม่มีอยู่แล้ว เรื่องที่นายกรัฐมนตรีออกมาพูดตนไม่ได้ฟัง และไม่ได้ทำหนังสือเสนอทางออกอะไร เป็นเพียงการหารือกัน และไม่มีการยื่นหนังสือเพื่อขอลาพักไปต่างประเทศแต่อย่างใด แต่มีทริปต้องเดินทางไปราชการที่ประเทศจีน ในฐานะ ผบ.ตร. ตามการแลกเปลี่ยนเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดย 1 ปีสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องไปจีน 3 ครั้ง ปกติครั้งละประมาณ 10 วัน ซึ่งตนต้องไป 1 ครั้ง ครั้งนี้ก็เป็นจังหวะที่ต้องไปพอดี ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าไปเมื่อไหร่ อย่างไร ปกติไป 10 วัน แต่ก็จะไม่ขอลาต่อ วันที่ 3 สิงหาคม จะมาปฏิบัติราชการปกติ


เมื่อถามว่า ช่วงที่ไปราชการที่ประเทศจีนจะให้ใครปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร.กล่าวว่า ตรงนี้ดูตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 72 วรรคแรก ให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา


เมื่อถามถึงที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าระงับการแต่งตั้งโยกย้ายทั้งหมด ผบ.ตร.กล่าวว่า ตอนนี้ร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2552 เหลือเพียงประกาศในราชกิจจาฯ ตามกำหนดการเดิมวางไว้ว่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาและให้มีผลในวันนี้ 16 สิงหาคม แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องดูอีกครั้ง


"แต่ปัญหาที่การแต่งตั้งนายพล 152 ตำแหน่งนั้นผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ไปแล้ว ซึ่งถ้ามีการปรับเปลี่ยนผู้ที่มีชื่อในการแต่งตั้งแล้วอาจมีปัญหา ฟ้องร้องกันได้ ตรงนี้ก็ต้องดูให้ดี" ผบ.ตร.กล่าว


เมื่อถามถึงระดับรอง ผบก.ลงมา จะต้องระงับการแต่งตั้งตามที่นายกรัฐมนตรีระบุหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่ได้ฟังที่นายกรัฐมนตรีพูด แต่ไม่รู้ว่าเป็นการเข้าใจผิดกันอย่างไรหรือเปล่า ต้องดูไปตามกฎหมาย


เมื่อถามว่า การทำแบบนี้การเมืองล้วงลูกเรื่องแต่งตั้งหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่ได้ฟังที่นายกรัฐมนตรีพูด อย่างไรก็ตาม ตนสบายอยู่แล้ว ก็ทำงานต่อไป เรื่องปรับเปลี่ยนตำแหน่งของตนที่เป็นกระแสในช่วงนี้ก็เป็นแค่ข่าว ไม่มีอะไร


เมื่อถามว่า การพูดของนายกรัฐมนตรีที่บอกว่า ผบ.ตร.ไม่อยู่ คดีนายสนธิจะคืบหน้าฟังดูเหมือน ผบ.ตร.เป็นอุปสรรค ผบ.ตร.กล่าวว่า "ผมไปทำอะไรในคดีนี้ เป็นอุปสรรคตรงไหน คิดกันไปเองตีความกันไปเอง ผมไม่ได้ทำอะไร"


เมื่อถามว่า การเมืองกดดันหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่มีอะไรกดดัน ก็เป็นเพียงข่าว


รายงานข่าวแจ้งว่า กระแสกดดันการปลด ผบ.ตร.นั้นเกิดจากกลุ่มนักการเมืองที่เป็นคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี พยายามแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ เนื่องจากการแต่งตั้งระดับนายพลครั้งที่ผ่านมา รายชื่อตำรวจที่คนใกล้ชิดดังกล่าวเสนอขึ้นมาไม่ได้รับการพิจารณามากนัก จนสร้างความไม่พอใจและสร้างกระแสข่าวกดดันให้นายกรัฐมนตรีปลด ผบ.ตร.พ้นตำแหน่ง โดยหยิบโยงเอาคดีของนายสนธิมาผูกเป็นประเด็นเพื่อสร้างความสับสนให้สังคมและหาความชอบธรรมเป็นข้ออ้างในการปลด


รายงานข่าวระบุว่า ขณะนี้คนใกล้ชิดของนายกรัฐมนตรีคนดังกล่าว เริ่มแสดงความวิตกกังวลและพยายามขอเอกสารบางอย่างที่ระบุถึงการวิ่งเต้นแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ คืนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากการแทรกแซงการแต่งตั้งนั้นผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา ที่ระบุว่า 266 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่งการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาเข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งหลักฐานชิ้นนี้ อาจทำให้บุคคลผู้นั้นมีความผิดได้