คอลัมน์ เหล็กใน
ด้วยการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติถอดยศนายตำรวจสัญญาบัตรทุกชั้นยศ และให้สำนักนายกรัฐมนตรีทำเรื่องริบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งหมด
หลังจากคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความข้อกฎหมายกรณี พ.ต.ท.ทักษิณถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี ในคดีภริยาซื้อที่ดินรัชดาฯว่าเข้าข่ายสามารถดำเนินการตามกระบวนการดังกล่าวได้
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาตีปีกดีใจว่าจะดำเนินการไปพร้อมๆ กันทั้ง 2 ส่วน คือถอดยศและริบคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์
สำหรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับพระราช ทาน ประกอบด้วย
พ.ศ. 2517 เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย (บ.ม.)
พ.ศ. 2519 จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย (จ.ม.)
พ.ศ. 2523 จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก (จ.ช.)
พ.ศ. 2528 ตริตาภรณ์มงกุฎไทย (ต.ม.)
พ.ศ. 2537 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
พ.ศ. 2538 มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
พ.ศ. 2539 มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)
พ.ศ. 2544 ปฐมดิเรกคุณาภรณ์ (ป.ภ.)
พ.ศ. 2545 ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.)
แม้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะอ้างว่าไม่ใช่นโยบายของรัฐบาล แต่เป็นการดำเนินการตามกระบวนการปกติ
แต่ก็ไม่อาจเลี่ยงเรื่องการเมืองไปได้
เพราะก่อนหน้านี้ เมื่อครั้งตอนพ.ต.ท.ทักษิณถูกศาลพิพากษา นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนแรกที่ออกมาเรียกร้องให้ดำเนินการเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งหมด
มีเสียงโต้แย้งจากพรรคเพื่อไทยว่าการถอดยศ จะต้องดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำความผิดฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงระหว่างอยู่ในราชการเท่านั้น
แต่กรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ลาออกจากราชการไปแล้ว
ทีมทนายความของพ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี ไม่มีหน้าที่ที่จะถอดยศหรือริบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ คงมีหน้าที่เพียงถวายรายงานต่อพระมหากษัตริย์ว่ามีข้อเท็จจริงใดที่เกิดขึ้นกับ พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น
เพราะการดำเนินการดังกล่าว ต้องเป็นไปตามมาตรา 3 วรรคสองของรัฐธรรมนูญ กล่าวคือ ต้องยึดตามหลักนิติธรรม และคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิและเสรีภาพ ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 และหลักความเสมอภาค และการไม่เลือกปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 30, 31
การออกมาไล่บี้ของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ อาจได้ความสะใจในหมู่ผู้ที่ไม่ชอบพ.ต.ท.ทักษิณ
ขณะเดียวกัน ก็จะมีอีกส่วนหนึ่งรู้สึกว่าพ.ต.ท.ทักษิณถูกตามบดขยี้อย่างไม่เป็นธรรม