วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เปิดแฟ้มคนดังหนีคดี ‘ฉนวน’ ดวล ‘กษิต’

ที่มา บางกอกทูเดย์

การส่งตัว “ราเกซ สักเสนา”ผู้ต้องหา คนสำคัญคดียักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ จำกัด(มหาชน) หรือบีบีซี กลับมา“รับโทษ” ในประเทศไทยการกลับมาของ “ราเกซ”อาจเป็นการสะกิด “แผลเก่า”ของนักการเมืองที่มีคอนเน็กชั่นเชื่อมต่อกันอย่างแน่นแฟ้น ในยุคที่แบงก์บีบีซี คือ แหล่งสินเชื่อ ชั้นดีของนักธุรกิจการเมือง พร้อมกับเป็นการชี้ “ศักยภาพ” ของเจ้ากระทรวงต่างประเทศด้วยอีกนัยหนึ่งการตามล่า! พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร อดีต นายกฯ แบบยอมตายถวายหัว..สำหรับ กษิตภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ...ฉายภาพงานอื่นไม่ยุ่งมุ่งแต่ล่าทักษิณ เป็นหลัก!!ว่ากันว่านัยยะของการตามล่า..ลึกๆ นั้นมีอะไรที่มากกว่า “เพื่อชาติ” แต่เพราะแค้นฝังหุ่นเลยต้องกระหืดกระหอบ“ลิ้นห้อย” เรื่องเล่าเมาธ์แต่ที่สอดคล้องกับ พฤติกรรมไม่นับรวมครั้งกษิตปีนเวทีสีเหลืองโจมตีทักษิณและคนใกล้ชิดทักษิณแบบไม่เลือกหน้า แม้แต่ “ฮุน เซน”นายกฯกัมพูชาก็ไม่รอด!!ชั่วโมงนี้..ที่เราเห็นคือ งานหลักก็ไม่ราบรื่น งานรองก็ไม่รุ่งเรืองสรุปกำแต่ลม ดมแล้วเหม็นอย่างที่เห็นนี่ล่ะ!!!คนดังหนีคดี.. ไปลี้ภัยในต่างแดนหลายต่อหลายคน แต่“รมว.ต่างประเทศ” มิได้รู้ร้อนรู้หนาวหากเทียบกับการไล่ล่าพ.ต.ท.ทักษิณเจ้าพ่อปากนํ้า เฮียวัฒนาอัศวเหม ในคดีอภิมหาโคตรโกง“บ่อบำบัดนํ้าเสียคลองด่าน”ใช้เงินลงทุนมหาศาลถึง 23,000ล้านบาท เพื่อประกาศว่าประเทศไทยมีบ่อบำบัดนํ้าเสียที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย รองรับนํ้าเสียได้ถึงวันละ 1,785,000 ลูกบาศก์เมตร บนเนื้อที่ 1,900 ไร่ จนกลายเป็นคดีโด่งดัง แต่ “กษิต” ลืมจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าททท. 11 กันยายน คณะลูกขุนนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกาได้ตัดสินกรณี นายเจอรัลด์ และนางแพทริเซีย กรีน มีความผิดในข้อหาสมคบคิด และฟอกเงินตามคำฟ้องที่ระบุว่าสามีภรรยาคู่นี้ตั้งบริษัทขึ้นมาบังหน้า เพื่อติดสินบนนางจุฑามาศ ศิริวรรณผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในขณะนั้นรวมเป็นเงิน 18 ล้านดอลลาร์แลกกับการได้เป็นผู้จัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ระหว่างปี 2545-2550ศาลมีกำหนดตัดสินโทษในวันที่17 ธ.ค. ซึ่งทั้งคู่อาจถูกจำคุกตลอดชีวิต ขณะที่นางจุฑามาศ ยังไม่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีแต่อย่างใดสิ่งที่ได้มาจากนางจุฑามาศ คือการปฏิเสธว่า เธอไม่ได้รับสินบนเรื่องทั้งหมด เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองเท่านั้นแต่จนถึงชั่วโมงนี้ ไม่มีใครเห็นแม้เงาของอดีตผู้ว่า ททท. อีกเลย...บางคนบอกว่า เธอย้ายไปปักหลักที่ออสเตรเลียแล้วคนดังหนีคดี! มีอีกหลายกรณีที่“กษิต” ในฐานะเจ้ากระทรวงต่างประเทศ ต้องรับผิดชอบ... ด้วยอำนาจหน้าที่อย่างชอบธรรมมารับโทษเพียงแค่ “คนผิด” ที่เสวยสุขอยู่ในประเทศ และกำลังเตรียมตัวลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยหน้าหวังเข้าใช้สิทธิผ่านสภาหินอ่อน...เพราะรัฐบาล “มอง” ว่าการกระทำที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนจากคนกลุ่มนี้คือ “สิทธิโดยชอบตามกฎหมาย”ก็หนักแผ่นดินและเป็นบทเรียนที่นำไปสู่การเลียนแบบอันนำมาสู่การเป็น“ประชาธิปไตยบิดเบี้ยว” เกินพอแล้ว..

ถนนคนของ (ต้อง) หนีไม่ใช่เรื่องยากในการ “ล่องหน” ออกนอกประเทศข้อมูลเหล่านี้มีผู้รู้ตามตะเข็บชายแดนเล่าสู่กันฟัง แต่ผู้เขียนแอบ “บันทึก” ไว้.. เขาเล่าว่าตะเข็บชายแดนแถบภาคเหนือแถบรอยต่อแถวเชียงราย แม่ฮ่องสอน สามารถเดินทางต่อไปจนถึงคุนหมิงได้สะดวกโยธินสำหรับทางภาคอีสานผ่านทางด่านตรวจคนเข้าเมือง หนองคาย-ลาว ก็ง่ายแสนง่าย ไม่ต่างอะไรกับ เซเว่น-อีเลฟเว่นเพราะถ้ารู้จักคนก็สามารถเข้าออกได้ 24 ชั่วโมง แบบไม่ต้องผ่านตม. ซึ่งจากเมืองปากเซก็สามารถทะลไุปถึงเมืองดานังประเทศเวียดนามหากลงใต้ก็ไม่อับจนหนทาง ชายหาดโดยทั่วไป ภูเก็ต กระบี่ ระนอง จ้างเรือล่องปรื๋อ แป๊บเดียวก็รอดแล้ว หรือถ้าไม่ต้องการออกนอกประเทศก็จ้างเรือไปลง “อาศัย” อยู่ตามเกาะแก่งที่มีเพียบ! ให้เลือกสรร... “หลบซ่อน” ตัว แบบไม่ต้องลำบากลำบนทั้งนี้มีอีก 1 ถนน ที่สะดวก รวดเร็วคือ จ.ชลบุรีเพราะใกล้จาก กทม.แค่ 2 ชั่วโมงก็ถึงแถบฝั่งทะเลตะวันออก ตรงนี้เป็นจุดต่อเรือเข้า-ออกได้สะดวก... (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน บางกอกทูเดย์นำเสนอเพื่อเป็นวิทยาทาน มิใช่เจตนาเพื่อชี้โพรงให้

ตรงนี้ที่รอดคุกออกนอกประเทศเป็นของง่าย แต่ออกไปแล้วนี่ซิ“เรื่องไม่ง่าย” ฉะนั้นต้องวางแผนให้ “ดี” ไม่เช่นนั้นมีอดตาย มิวายจะกลับมาติดซังเต..“บ่อน” คือ ทางเลือกที่ง่ายที่สุด เน้นเฉพาะนักเสี่ยงโชค เพราะบ่อนบริเวณชายแดนหาง่าย ขอแค่เป็นนักเล่นตัวจริง เงินมีจริงทางบ่อนจะบริการให้อย่าง“เลิศหรู” หนีไปอยู่ที่กาสิโนรับประกันได้ว่า ไม่มีใครจับเพราะอิทธิพลบ่อนมันใหญ่คับฟ้า“เกาะ” เหมาะสมสำหรับ“คนรักสงบ” แต่ต้องอยู่ได้อย่างวางใจ ต้องมีคนเป็นหูเป็นตาให้ หากกลัว นํ้า ป่าเขาอุทยานต่างๆ ก็มีประโยชน์เพราะไกลหูไกลตาคน(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน บางกอกทูเดย์นำเสนอเพื่อเป็นวิทยาทาน มิใช่เจตนาเพื่อชี้โพรงให้กระรอก)