วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552

หากโลกร้อนใบเก่าหยุดนิ่งอุณภูมิของโลกคงเย็นลง!!

ที่มา thaifreenews

โดย ป้าพลอย

วันนี้ป้าพลอยขอเขียนเกี่ยวกับเรื่องทั่วๆไป เพราะเขียนแต่เรื่องในเมืองไทย บางครั้งคนเขียนและคนอ่านก็เซ็ง มันก็เรื่องเดิมๆเหมือนกินน้ำพริกรสเดิมๆ กินทุกๆวันมันก็เบื่อ อยากจะกินแกงเขียวหวานหรือแกงเผ็ดเปลี่ยนรสชาติบ้าง ตอนนี้

อะไรๆใน โลกใบนี้ก็ยังโหดร้ายเหมือนเดิม เห็นประเทศฟิลิบปินส์โดนพายุถล่มแล้วอนาถใจ นี่หากเป็นประเทศไทยโดนบ้างคงสาหัสไม่แพ้ฟิลิบปินส์ เพราะไม่มีการเตรียมแผนรอรับในฤดูมรสุมที่อาจเกิดภัยธรรมชาติขึ้นได้ รัฐบาลฟิลิบปินส์

เองย่อมรู้แก่ใจดี เพราะเกิดพายุใต้ฝุ่นถล่มทุกๆฤดูมรสุม แต่ทำไมไม่หาช่องทางรับมือ อย่างคราวนี้น่าจะเตือนประชาชนให้เก็บข้าวของไปใว้ในที่ปลอดภัยก่อน และเตรียมเรือยางหรืออุปกรณ์การช่วยเหลือให้ครบครันใว้ล่วงหน้า พายุใต้ฝุ่นที่

เกิดแต่ละลูก มันก่อตัวในทะเลก่อน ทางกรมอุตุนิยมวิทยาของรัฐบาลฟิลิบปินส์ย่อมรู้ล่วงหน้า ไม่เหมือนอย่างในเกาหลีใต้หรือเกาะใต้หวันเขาหาวิธีป้องกันอย่างแข็งขัน และเตรียมอพยพผู้คนออกจากพื้นที่อันตรายที่ทิศทางของพายุผ่าน

ประ เทศฟิลิบปินส์ระบบการปกครองไม่ได้แตกต่างจากประเทศไทยของเรานัก คือปล่อยให้ประชาชนต่อสู้ตามยถากรรมเอง การช่วยเหลือก็กระท่อนกระแท่น ภัยธรรมชาติที่เกิดแต่ละปีคร่าชีวิตคนทั่วโลกไปหลายล้านคน ภัยธรรมชาติที่เกิด

ขึ้นที่คร่าชีวิตคนเหล่านั้น เป็นภัยธรรมชาติที่แตกต่างกัน เช่นภัยจากไฟป่า ภัยจากน้ำท่วมฝนตกหนักอย่างกระทันหัน ภัยจากพายุทอร์นาโด้ ภัยจากพายุใต่ฝุ่น ภัยจากแผ่นดินไหว ภัยจากพายุฮอร์ริกันแถบทะเลแคริเบี่ยน ล้วนแล้วแต่อันตนาย

ทั้งสิ้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือฤทธิ์เดชของโลกร้อนนั่นเอง เพราะเหตุใดจึงเกิดโลกร้อนได้ คำตอบก็คือมนุษย์เป็นผู้ทำให้มันเกิด ยุคนี้จะเห็นได้ว่าอากาศเปลี่ยนแปลงไม่เป็นอย่างธรรมชาติเหมือน 30-40ปีก่อน ในยุโรปเอง ฤดูร้อน ฤดูหนาวมั่ว

ไปหมด ปีนี้แถบจะไม่มีฤดูร้อนฝนตกเหมือนฤดูมรสุมในไทยและอากาศเย็น ผักที่ปลูกในสวนตายเกือบหมดเพราะอากาศหนาว มันไม่ตรงตามธรรมชาติที่เคยเป็น แม้แต่มนุษย์เองก็ยังเปลี่ยนแปลง ดูตัวอย่างคนไทย สมัยก่อนไม่เคยเป็น

อย่าง นี้เลย แต่มายุคนี้สมัยนี้คนไทยเปลี่ยนไปตามแรงร้อนของโลก คือไม่มีความอดทน อดกลั้น ไม่มีการยอมกันจึงกลายเป็นสัตรูกันเอง คนแพ้ก็จะเอาชนะให้ได้ เพราะความร้อนแรงขาดความอดทนไม่ยอมเป็นฝ่ายแพ้แก่ใคร จึงต้องหาหน

ทาง อันสกปรกเข้าแหลกเพื่อที่จะได้ชัยชนะเอามาเป็นของตน ฉะนั้นผู้คนสมัยนี้ไม่เกรงกลัวต่อบาปกรรม ดังที่เป็นตัวอย่างให้เห็น แม้แต่คนชราภาพแล้ว อายุล่วงเลย 80 ปีขึ้นไป ก็ยังไม่ละกิเลสของตน ทั้งที่ตัวเองสมควรที่จะเข้าวัดฟัง

ธรรมสร้างความดีให้แก่ตัวเองก่อน ที่ชีวิตจะอวสาน คนพวกนี้คิดผิดมาโดยตลอดว่า ความสุขบนกองทุกข์ของคนอื่นจะเป็นความสุขที่แท้จริงและถาวร หากชีวิตสูญสลายไปแล้วเอาสิ่งเหล่านี้ใส่โลงไปได้หรือเปล่า? หากคนที่เจ็ษหนักจวนตาย

เอาเงินของตนไปซื้อขอชีวิตให้อยู่ต่อได้ไหม? ก็ไม่อาจทำได้เช่นกัน เพราะกฏแห่งกรรมต้องเป็นไปตามธรรมชาติไม่มีใครฝืนกฏแห่งธรรมชาตินี้ไปได้ ทุกๆคนต้องมาอยู่ในที่เดียวกัน ไม่ว่าผู้นั้นจะรวยล้นฟ้าเป็นเทวดาชั้นใหน จุดจบอยู่ที่กอง

พระเพลิงเดียวกันนั่นเอง ฉะนั้นการก่อกรรมทำเวรให้คนอื่น เมื่อถึงคราวที่ตัวเองต้องรับใช้กรรมที่ก่อ ก่อนที่จะสูญสลายก็

สมควรที่จะยอมรับ โลกที่ร้อนแรงอาจจะลดอุณภูมิลงได้เมื่อโลกหยุดหมุน และได้โลกใบใหม่ที่อาจเพียบ
พร้อมทุกอย่าง ขอให้คนไทยโชคดี..