รัฐวิสาหกิจ โดยจุดมุ่งหมายหรือปรัชญาแล้ว ก็คือ รัฐต้องจัดหากิจการที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตขั้นพื้นฐานเพื่อยกระดับมาตรฐานการดำรงชีวิตของคนไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนยากจนที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศให้อยู่ในระดับที่ไม่ทุเรศน่าสังเวชใจจนเกินไปโดยคิดราคาที่พอสมควรหรือในบางกรณีอาจจะให้ใช้ฟรีเลยทีเดียว เช่นกิจการไฟฟ้า นํ้าประปา รถไฟ รถเมล์ ฯลฯอันที่จริงกิจการ รัฐวิสาหกิจ ของไทยเรา...ล้นเกล้าล้นกระหม่อม รัชกาลที่ 5ภายหลังจากที่พระองค์ทรงเสด็จประพาสยุโรปสองครั้งพระองค์ก็ได้เริ่มต้นหลายกิจการด้วยพระราชหฤทัยที่ประสงค์จะพระราชทานการบริการที่จำเป็นสำหรับชีวิตให้แก่พสกนิกรของพระองค์เพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ศิวิไลซ์ดุจทางต่างประเทศเขาในนั้นก็มีกิจการ “การรถไฟไทย” ด้วย!พระองค์ทรงพระราชทานที่ดินทั่วประเทศจำนวนนับ หลายแสนไร่ ให้แก่กิจการรถไฟหากคิดคำนวณข้อมูลตาม“ความเป็นจริง” น่าจะมีที่ดินประมาณสามแสนไร่ เป็นอย่างน้อยแต่ต่อมาภายหลังกลายเป็นว่าเส้นทางที่รถไฟผ่านได้กลายเป็นตลาดเป็นชุมชน เป็นเมือง สำคัญขึ้นมา...ทำให้ราคาที่ดินของการรถไฟทั่วประเทศแพงขึ้นอย่างมากมายที่สำคัญในกรุงเทพฯ...ที่ดินบริเวณห้าแยกลาดพร้าว ที่ดินตลาดนัดสวนจตุจักร ที่ดินสองข้างทางถนนรัชดาภิเษก มีราคาแพงยิ่งกว่าทองคำเสียแต่สหภาพไม่เห็นสนใจที่จะช่วยฝ่ายบริหารดูแลให้ทำกำไรเพื่อไปชดเชยการขาดทุนกว่าเจ็ดหมื่นล้านที่เป็นอยู่ใู่นปัจจุบันไม่ทราบว่า...มีส่วนร่วมในผลประโยชน์กับฝ่ายบริหารหรืออย่างไร?จึงเป็น
เช่นนี้มานานหลายสิบปีซึ่งแสดงให้เห็นพระมหาเมตตากรุณาธิคุณของพระองค์เป็นล้นพ้นรวมไปถึงพระราชวิสัยทัศน์อันยาวไกลของพระองค์ดังนั้น พนักงานรัฐวิสาหกิจจึงมีหน้าที่เป็นเพียง องคาพยพที่สำคัญของรัฐในการที่จะให้บริการกิจการต่างๆดังกล่าวให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ไม่ใช่เช่นที่เป็นอยู่และเป็นมาอย่างยาวนาน กล่าวคือ...สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจหลายแห่งในหลายยุคที่ผ่านมา โดยผู้นำบางคนมักจะนำเอากิจการรัฐวิสาหกิจมาใช้เป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมืองของตนในการบีบบังคับให้รัฐบาลต้องยอมอ่อนข้อต่อข้อเรียกร้องที่สนองตอบต่อผลประโยชนข์ องกลมุ่พวกบางสว่ นของตนแน่นอนครับ! ผู้เขียนยอมรับว่า...พนักงานรัฐวิสาหกิจที่ดีก็มีไม่น้อย และผู้นำสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจที่ดีก็ย่อมมีอยู่เช่นกันแตย่ งัมีผนู้ าํสหภาพรฐั วสิ าหกจิ บางคนที่นำเอากิจการรัฐวิสาหกิจมาเป็นเครื่องมือในการต่อสู้ทางการเมืองเพื่อบรรลุจุดประสงค์ของตนเองเท่านั้นโดยที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนทั่วไปอย่างแสนสาหัส...ประชาชนเราต้องประณามอย่างรุนแรงส่วนการดำเนินการตามกฎหมายและทางกฎระเบียบปฏิบัติอะไรต่างๆ ก็เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหมาดๆ ก็คือการที่พนักงานรถไฟบางคนส่งใบลากิจใบลาป่วยด้วยจำนวนมากอย่างผิดสังเกตจนเป็นเหตุให้รถไฟที่หาดใหญ่ต้องหยุดเดินต่อมาทำให้ขบวนรถไฟใต้ต้องหยุดทั้งหมดนอกจากนั้นยังเป็นเหตุสำคัญให้ต้องเชิญ(ไล่) ผู้โดยสารลงจากรถไฟกลางทางที่ละแม...ช่างละม้ายคล้ายคลึงกับการยึดสนามบินสุวรรณภูมิของพันธมิตรฯ เสียนี่กระไรและผู้นำของสหภาพรัฐวิสาหกิจการรถไฟคนนี้ก็เป็นแกนนำรุ่นที่สองของพันธมิตรฯ ด้วยเช่นกันประเด็นหลักเป็นเพราะการหยุดงานของพนักงานรถไฟบางคนที่หาดใหญ่นั่นแหละ...ที่ทำให้รถไฟสายใต้ทั้งหมดต้องหยุดเดินและทำให้ผู้โู้ดยสารต้องถูกเชิญลงที่ละแม้สองพันคนและที่สุราษฎร์อีกห้าร้อยคนโดยทั้งหมดได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส บางคนเป็นหญิงมีครรภ์ก็ทุลักทุเล
มาก บางคนต้องกลับบ้านก่อน 18.00 น. เพราะอยู่ในสามจังหวัดภาคใต้ก็มีอันไม่สามารถทำได้พนักงานรถไฟที่หยุดงานปฏิเสธไม่ได้ดอกครับว่า...ท่านนั่นแหละทำให้ประชาชนทั่วประเทศเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสแต่ต่อมาเพื่อให้ข้ออ้างเดิมที่ถูกตั้งข้อสงสัยอย่างมากถึงความเป็นจริงแล้วมีนํ้าหนักเพิ่มขึ้นมาอีกก็กล่าวอ้างว่า...เปน็ หว่ งความปลอดภยั ของผโู้ดยสารเพราะกล่าวหาว่า...มีหัวรถจักรจำนวนไม่น้อยอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์อาจเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ แล้วก็โยงไปยังเหตุการณ์รถไฟตกรางที่เขาเต่าทั้งที่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากความผิดพลาดส่วนตัวของ พขร.ทานยาแก้แพ้ที่ทำให้ง่วงในทางสาธารณะนั้นอาจจะรับฟังได้...แต่ในทางเป็นจริงแล้วนอกจาก“เด็กอมมือ” เท่านั้นจึงจะเชื่อว่าสหภาพรถไฟ ไม่รู้เรื่องอะไรแต่จะมีส่วนเกี่ยวข้องร่วมวางแผนขนาดไหนนั้นย่อมไม่อาจจะยืนยันได้เพราะผู้นำสหภาพหลายรุ่นก็ได้กล่าวไว้ต่างกรรมต่างวาระว่า...วิธีการหยุดงานก็ทำได้ง่ายๆ โดยให้ พขร.หรือช่างเครื่องส่งใบลากิจลาป่วยกะทันหัน หรือกล่าวอ้างว่าเครื่องจักรไม่สมบูรณ์ซึ่งก็เป็นดังเช่นว่านั่นเองเหตุการณ์ดังกล่าว...เป็นเพราะประชาชนได้ออกมาประณามอย่างรุนแรง จึงทำให้ฝ่ายบริหารสามารถเข้าดำเนินการให้รถไฟกลับเดินได้อย่างปกติแต่ทั้งหมดนี้ทำให้ประชาชนเห็นชัดว่า...พนักงานรถไฟบางคน ผู้นำสหภาพรถไฟบางคนใช้กิจการรัฐวิสาหกิจเพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมือง ของตน...ในการบีบบังคับรัฐบาลสนองตอบต่อความต้องการของตนเท่านั้นน่าจะไม่ต่างอะไรกับเมื่อตอนที่ผู้นำบางคนนำเอากิจการรัฐวิสาหกิจบางแห่งไปเป็นเครื่องมือทางการเมืองของพวก พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สร้างความพินาศวอดวายใ้ห้แก่ประเทศชาติและประชาชนเมื่อปีที่ผ่านมาประชาชนควรเรียกร้องให้รัฐวิสาหกิจกลับมาเป็นของประชาชนโดยตรงได้แล้วครับ