วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553

ระยะสุดท้าย

ที่มา ไทยรัฐ

ที่ประชุม พรรคประชาธิปัตย์ มีมติคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ ตามที่พรรคร่วมรัฐบาลเสนอเรียบร้อยโรงเรียน นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะไปแล้ว ด้วยการผนึกกำลังของแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ คุณบัญญัติ บรรทัดฐาน คุณชวน หลีกภัย หัก คุณสุเทพ เทือกสุบรรณด้วยเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขแบ่งเขตการเลือกตั้งเป็นเขตเล็ก อ้างว่าเป็นจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์

งานนี้ รองนายกฯสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะผู้จัดการรัฐบาล คงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถูกมองว่าตีสองหน้า ในสายตาของพรรคร่วมรัฐบาล และการทำหน้าที่ผู้จัดการของคุณสุเทพ น่าจะลำบากมากขึ้น

ลำพัง ความสัมพันธ์ส่วนตัว ระหว่างคุณสุเทพกับแกนนำ พรรคร่วมคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกับนายกฯอภิสิทธิ์กับพรรคประชาธิปัตย์

เปลี่ยนแปลงแน่นอน


รวมทั้งความรู้สึกระหว่างคุณอภิสิทธิ์กับคุณสุเทพ ที่มีความเปลี่ยนแปลงมากขึ้น อนาคตของรัฐนาวาจะเป็นอย่างไร ห้ามกะพริบตา โอกาสจะยุบสภาหรือวิกฤติการเมืองเข้าสู่กับดักวงจรอุบาทว์

หนีไม่พ้น


ในขณะที่ ภาพพจน์ของพรรคประชาธิปัตย์มีแต่ทรงกับทรุด ในแง่ของวิสัยทัศน์การบริหารงาน ความขัดแย้ง และที่หนักที่สุดก็คือเรื่องของการทุจริตคอรัปชัน

โครงการไทยเข้มแข็ง ที่ระบาดไปเกือบทุกกระทรวง โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการหนักที่สุด ในกรมอาชีวศึกษาแทบจะระบุความไม่ชอบมาพากลได้อย่างชัดเจน

ถามว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์ที่การันตีเรื่องของ ความซื่อสัตย์ สุจริตทำอะไรได้บ้าง ปล่อยให้การทุจริตคอรัปชัน โจ๋งครึ่มมากกว่าทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา

คนทุจริตยังลอยนวล

สำนักโพลระบุความเห็นของประชาชน อยากให้ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล จากสาเหตุการทุจริตคอรัปชันมากที่สุด

ความเชื่อมั่นของรัฐบาลลดฮวบฮาบ


จึงเป็นเหตุและเป็นผลว่า รัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์ คงจะเข้าสู่ ระยะสุดท้ายของการบริหารประเทศ วัดใจรัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์ ว่าจะยอมให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิดขึ้นหรือไม่ จะยอมให้มีการพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสภาหรือไม่

หรือตัดสินใจคว่ำกระดานก่อน

ในยามที่ประชาธิปัตย์เสียเปรียบ มีสองทางเลือก ยื่นผลประโยชน์ต่อรองเพื่อซื้อเวลายืดอายุรัฐบาล หรือจุดชนวนปล้นอำนาจประชาธิปไตยอีกกระทอก.

หมัดเหล็ก