คอลัมน์ เหล็กใน
ไม่ใช่ชื่อหนังไทยสมัยเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่เป็นข้อกล่าวหาระดับอภิมหาอมตะนิรันดร์กาล ที่คู่กรณี ทางการเมืองในรูปแบบต่างๆ จะกล่าวหากันไปมา
แพ้เลือกตั้ง ก็เพราะเงินสู้ไม่ได้
การโหวตในสภาฯ ก็ว่าทุ่มเงินซื้อตัวส.ส.
และล่าสุดคือหว่านเงินให้ม็อบแดง เข้ามาป่วนกรุง
ทั้งหลายทั้งปวงที่ว่ามาใช้เงินหรือไม่...ใช้แน่นอน
การจำกัดงบประมาณให้นักการเมืองหาเสียง เป็นกฎหมายที่สวนทางกับข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง
เปรียบไปเหมือนกฎหมายจราจรบังคับรถห้ามวิ่งเกิน 80 ก.ม./ชั่วโมง ถือว่าปัญญาอ่อนอย่างยิ่ง
การโหวตในสภาฯ แม้ไม่ได้มีตัวเงินอย่างจริงจังทุกครั้ง แต่ก็มีข้อแลกเปลี่ยนอื่นๆ นำไปสู่การได้เงินทองนั่นเอง
เช่นเดียวกับม็อบ เชื่อว่ามีบางส่วนที่ถูกจ้าง หรือรับเงิน แต่เป็นทั้งหมดหรือไม่
ตอบได้เลยว่าไม่ เพราะน่าจะมีคนเสื้อแดงอีกไม่น้อย ที่ชื่นชมพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ชื่นชมแต่ก็ไม่ชอบรัฐบาลชุดปัจจุบัน
ที่แม้จะอ้างว่ามาจากระบอบประชาธิปไตย แต่จริงๆ ก็รับรู้กันว่าเป็นรัฐบาล"สีเขียว"
เรียกว่าเขียวอื๋อมาก่อนเป็นรัฐบาลด้วยซ้ำ เพราะในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งล่าสุด ในสมัยรัฐบาล คมช. ทุกสรรพกำลังเทข้างประชาธิปัตย์เต็มเหนี่ยว
แต่ก็แพ้พรรคพลังประชาชน หรือพูดให้ตรงคือแพ้ พ.ต.ท.ทักษิณ
จนสุดท้ายต้องใช้ทุกวิถีทางนำมาสู่การเปลี่ยนอำนาจมาอยู่ในมือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ว่ากันว่าเลือกตั้งใหญ่ครั้งที่แล้ว นอกจากการใช้อำนาจทุกส่วนเพื่อช่วยเหลือ กำลังเงิน ที่เทลงไปจากหลายๆ ส่วนก็ไม่น้อยไปกว่าคู่แข่ง
ไม่เพียงม็อบแดงที่เชื่อว่ามีเงินมาหล่อเลี้ยงในรูปแบบต่างๆ
ม็อบเหลืองก็ไม่น้อยไปกว่ากัน แต่อาจจะไม่ได้แจกให้ผู้ชุมนุมสะพัดมากนัก แต่ก็มี"ท่อน้ำเลี้ยง"จากกลุ่มที่ต้องการโค่นรัฐบาลทักษิณ รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
จึงเมื่อม็อบพันธมิตรฯ บุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ บรรดาท่อน้ำเลี้ยงถึงกับหงายเก๋ง ตัวเองพลอยเดือดร้อนไปด้วย เพราะทำให้ภาคเศรษฐกิจพังพาบในทันทีทันใด
รายได้หลายแสนล้านบาทหายวับไปกับตา ไม่นับชื่อเสียงของประเทศที่ย่อยยับไม่มีชิ้นดี
ทั้งอดีต ปัจจุบัน และในอนาคตอันใกล้ เชื่อว่าไม่มี ม็อบไหนอีกแล้ว จะสร้างความเสียหายทั้งรายได้และชื่อเสียงให้เมืองไทยได้มากเท่าม็อบสีเหลือง
จะว่าไปการกล่าวหาเรื่องใช้เงิน ก็ไม่ต่างจาก"โจร" ร้องจับ"ขโมย"นั่นแหละ
พอกันทั้งคู่
![]() |
แพ้เลือกตั้ง ก็เพราะเงินสู้ไม่ได้
การโหวตในสภาฯ ก็ว่าทุ่มเงินซื้อตัวส.ส.
และล่าสุดคือหว่านเงินให้ม็อบแดง เข้ามาป่วนกรุง
ทั้งหลายทั้งปวงที่ว่ามาใช้เงินหรือไม่...ใช้แน่นอน
การจำกัดงบประมาณให้นักการเมืองหาเสียง เป็นกฎหมายที่สวนทางกับข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง
เปรียบไปเหมือนกฎหมายจราจรบังคับรถห้ามวิ่งเกิน 80 ก.ม./ชั่วโมง ถือว่าปัญญาอ่อนอย่างยิ่ง
การโหวตในสภาฯ แม้ไม่ได้มีตัวเงินอย่างจริงจังทุกครั้ง แต่ก็มีข้อแลกเปลี่ยนอื่นๆ นำไปสู่การได้เงินทองนั่นเอง
เช่นเดียวกับม็อบ เชื่อว่ามีบางส่วนที่ถูกจ้าง หรือรับเงิน แต่เป็นทั้งหมดหรือไม่
ตอบได้เลยว่าไม่ เพราะน่าจะมีคนเสื้อแดงอีกไม่น้อย ที่ชื่นชมพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ชื่นชมแต่ก็ไม่ชอบรัฐบาลชุดปัจจุบัน
ที่แม้จะอ้างว่ามาจากระบอบประชาธิปไตย แต่จริงๆ ก็รับรู้กันว่าเป็นรัฐบาล"สีเขียว"
เรียกว่าเขียวอื๋อมาก่อนเป็นรัฐบาลด้วยซ้ำ เพราะในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งล่าสุด ในสมัยรัฐบาล คมช. ทุกสรรพกำลังเทข้างประชาธิปัตย์เต็มเหนี่ยว
แต่ก็แพ้พรรคพลังประชาชน หรือพูดให้ตรงคือแพ้ พ.ต.ท.ทักษิณ
จนสุดท้ายต้องใช้ทุกวิถีทางนำมาสู่การเปลี่ยนอำนาจมาอยู่ในมือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ว่ากันว่าเลือกตั้งใหญ่ครั้งที่แล้ว นอกจากการใช้อำนาจทุกส่วนเพื่อช่วยเหลือ กำลังเงิน ที่เทลงไปจากหลายๆ ส่วนก็ไม่น้อยไปกว่าคู่แข่ง
ไม่เพียงม็อบแดงที่เชื่อว่ามีเงินมาหล่อเลี้ยงในรูปแบบต่างๆ
ม็อบเหลืองก็ไม่น้อยไปกว่ากัน แต่อาจจะไม่ได้แจกให้ผู้ชุมนุมสะพัดมากนัก แต่ก็มี"ท่อน้ำเลี้ยง"จากกลุ่มที่ต้องการโค่นรัฐบาลทักษิณ รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
จึงเมื่อม็อบพันธมิตรฯ บุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ บรรดาท่อน้ำเลี้ยงถึงกับหงายเก๋ง ตัวเองพลอยเดือดร้อนไปด้วย เพราะทำให้ภาคเศรษฐกิจพังพาบในทันทีทันใด
รายได้หลายแสนล้านบาทหายวับไปกับตา ไม่นับชื่อเสียงของประเทศที่ย่อยยับไม่มีชิ้นดี
ทั้งอดีต ปัจจุบัน และในอนาคตอันใกล้ เชื่อว่าไม่มี ม็อบไหนอีกแล้ว จะสร้างความเสียหายทั้งรายได้และชื่อเสียงให้เมืองไทยได้มากเท่าม็อบสีเหลือง
จะว่าไปการกล่าวหาเรื่องใช้เงิน ก็ไม่ต่างจาก"โจร" ร้องจับ"ขโมย"นั่นแหละ
พอกันทั้งคู่
