วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ที่นี่ความจริงจาก3อาจารย์สาว:สู้เผด็จการปิดสื่อ

ที่มา Thai E-News

ที่นี่ความจริงจาก3อาจารย์สาว:วิธีสู้เผด็จการปิดสื่อ

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา Asia Update TV


รายการที่นี่ความจริง ตอนล่าสุด ทางโทรทัศน์ Asia Update-DNN ดำเนินรายการโดย 3 นักวิชาการสาวหัวใจประชาธิปไตย ผศ.ดร.สุดา รังกุพันธ์ อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อาจารย์หวาน) ,รศ.สุดสงวน สุธีสร อาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อาจารย์ตุ้ม) และ ผศ.ดร.จารุพรรณ กุลดิลก อาจารย์พิเศษคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (อาจารย์จา)

รายการที่นี่ความจริง วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม 2554:การปิดสื่อ








การปิดสื่อ: การปิดวิทยุชุมชนรักประชาธิปไตย 13 สถานี และเตรียมปิดเพิ่มอีกเป็นจำนวนกว่า 800 สถานี อาจารย์ตุ้มได้เตือนให้ประชาชนคนเสื้อแดงระวังในเรื่องของหมายค้น ที่ตำรวจอาจนำมาขอค้นสถานีหรือบ้านเรือนประชาชนธรรมดา และได้ให้วิธีการปฏิบัติดังนี้

ถ้าตำรวจนำหมายมาขอค้น ให้ตรวจสอบหมายค้นให้ถูกต้อง ต้องมีเพื่อนอยู่ด้วย ต้องถ่ายรูปกระบวนการตรวจค้นและถ่ายเอกสารหมายค้นเก็บไว้ ที่สำคัญคือต้องไม่ตื่นตระหนก หากตำรวจกระทำผิดหมายค้นก็สามารถฟ้องเอาผิดได้

ในการปิดสื่อนี้ แม้ว่าจะมีกฎหมายการส่งสัญญาณวิทยุโดยไม่ได้รับอนุญาตจริง แต่เมื่อไม่มีกสทช.ก็ไม่มีวิทยุไหนสามารถขออนุญาตได้ สำหรับการอ้างว่าถ่ายทอดการปราศรัยของคุณจตุพร พรหมพันธุ์ การปราศรัยนี้ก็ยังไม่ได้ถูกตัดสินว่าผิดหรือถูก จึงไม่ควรเอาผิดสถานีวิทยุเพราะถ่ายทอดคำปราศรัยหมิ่นสถาบัน

นอกจากนี้ ตำรวจและกอ.รมน. ยังได้บุกยึดแต่สถานีของคนเสื้อแดงเท่านั้น ไม่ได้จับสถานี ASTV เลยทั้งที่ก็ไม่ได้ขออนุญาตกสทช.เหมือนกัน อาจารย์ตุ้มจึงคิดว่าเป็นความต้องการที่จะปิดสื่อคนเสื้อแดงก่อนเลือกตั้ง หรือรัฐประหาร เหมือนที่เคยปิดพีเพิลแชนแนลก่อนขอคืนพื้นที่ในวันที่ 10 เมษายน

ขณะที่สื่อฝ่ายประชาธิปไตยได้ถูกเล่นง่ายไล่ตามปิด สื่อเผด็จการกลับนำรายการของนายกรัฐมนตรีมาไล่เปิดเต็มไปหมด ทั้ง ๆ ที่ในการจัดรายการก็แสดงให้เห็นถึงความไม่รับผิดชอบและสันดานถากถางของนายอภิสิทธิ์ได้ดีเกินพอ

ขณะที่โพล์รับใช้อำมาตย์อย่างเอแบ็คโพลล์ก็ออกมาทำโพลล์ว่า นายกอภิสิทธิ์เหนือกว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรในทุก ๆ ด้าน ทั้ง ๆ ที่นายอภิสิทธิ์กับนางสาวยิ่งลักษณ์แตกต่างกันเกินกว่าจะมาเปรียบกันได้ และนางสาวยิ่งลักษณ์นั้นเป็นที่รู้จักน้อยมาก เนื่องจากนางสาวยิ่งลักษณ์เป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่นักการเมือง

ผลโพลล์นี้จึงเป็นเพียงความพยายามในการทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมือง