วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ศาลอุทธรณ์นัดฟังคำพิพากษาเร่งด่วน จำเลยคดีเสื้อแดงเชียงใหม่ปี 51

ที่มา ประชาไท

ศาลอุทธรณ์ภาคห้านัดจำเลยคดีอาญากรณีเสื้อแดงปะทะเสื้อเหลืองปี 51 ที่ปากทางหมู่บ้านระมิงค์นิเวศน์ด่วน จำเลยพลาดโอกาสกอดลูก

เช้าวานนี้ (26 กรกฎาคม 2554) ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 16 ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ศาลอุทธรณ์ภาคห้านัดจำเลยคดีอาญากรณีเสื้อแดงปะทะเสื้อเหลืองที่ปากทางหมู่บ้านระมิงค์นิเวศน์ ตามคดีอาญาของศาลจังหวัดเชียงใหม่หมายเลขแดงที่ อ.650, อ.651, อ.652, อ.653/2553 มาฟังคำพิพากษาโดยเร่งด่วน

จำเลย ทั้งห้าซึ่งตกเป็นผู้ต้องขังหลังจากที่ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาให้ จำคุก 20 ปีมาปรากฏตัวพร้อมญาติบางส่วนซึ่งเพิ่งจะทราบข่าวการมีคำสั่งนัดฟังคำ พิพากษาเมื่อคืนก่อนหน้าจากเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดเชียงใหม่

โดย สรุป ศาลอุทธรณ์ภาค 5 เห็นว่า แม้ไม่มีประจักษ์พยานยืนยันว่าจำเลยทั้งห้าเป็นผู้กระทำความผิด แต่อุทธรณ์ของจำเลยทั้งห้าฟังไม่ขึ้น อย่างไรก็ตาม กรณีบ่งชี้ให้เห็นว่าผู้ตายมีส่วนยั่วยุ กำหนดโทษของศาลชั้นต้นที่ให้ลงโทษจำเลยทั้งห้าคนละ 20 ปีนั้น หนักเกินไป เห็นสมควรให้จำคุกจำเลยทั้งห้าคนละ 16 ปี และมีเหตุบรรเทาโทษ จึงให้คงจำคุกคนละ 12 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาชั้นต้น

ส่วน บรรยากาศการเข้าฟังคำพิพากษานั้น เนื่องจากตัวจำเลยทั้งห้าเพิ่งทราบคำสั่งศาลในเวลาเช้าวันเดียวกัน และญาติจำเลยได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เรือนจำในเวลาประมาณ 20 นาฬิกาของวันก่อนหน้า จึงมีญาติจำเลยเพียงบางส่วนได้เข้าร่วมฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีนี้ โดยไม่มีทนายจำเลยเข้าร่วมรับฟังแต่อย่างใด

หลังจากการฟังคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ นางเล็ก เอื้องคำ ภรรยาชาวไทยใหญ่ ซึ่งมาไม่ทันการอ่านคำพิพากษานี้ ได้โผเข้าสวมกอดนายประยุทธ บุญวิจิตร จำเลยที่ 2 ด้วยเสียงสะอื้นโฮน้ำตานองหน้า ขณะที่นายพะยอม ดวงแก้ว จำเลยที่ 5 กล่าวว่า ตั้งใจว่าหากมีโอกาสได้ออกมาภายนอกเรือนจำอีกครั้งก็อยากจะกอดลูกชายอายุ 7 ขวบอีกสักครั้ง แต่เนื่องจากศาลอุทธรณ์ภาคห้านัดฟังคำพิพากษาโดยเร่งด่วน ญาติไม่มีเวลาได้เตรียมตัว จึงไม่ได้พาลูกชายมาด้วย รู้สึกเสียใจและเสียดายอย่างมาก แม้ว่าศาลอุทธรณ์จะไม่ได้พิพากษายกฟ้อง แต่ก็ยังเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตน ยืนยันว่าจะขอยื่นฎีกาต่อสู้คดีต่อไป เช่นเดียวกับนายสมศักดิ์ อ่อนไสว จำเลยที่ 4 ซึ่งนางอุดม เมฆขุนทดเพิ่งทราบข่าวการอ่านคำพิพากษนี้หลังจากที่ส่งบุตรสาวไปโรงเรียน จึงไม่สามารถไปรับลูกสาวอายุ 4 ขวบมากอดพ่อได้ทันเวลา

ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์ภาคห้ามิได้แจ้งเหตุแห่งการนัดฟังคำพิพากษาอุทธรณ์โดยเร่งด่วนแต่อย่างใด