โดย ice angel
และแล้วก็กลายเป็นเรื่องการฟ้องร้องระหว่างรัฐต่อรัฐสถาน ทูต เยอรมนีประจำประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ โดยระบุว่า รัฐบาลเยอรมันคาดหวังว่ารัฐบาลไทยจะปฏิบัติตามคำตัดสินขอคณะอนุญาโตตุลาการ ระหว่างประเทศเมื่อกลางปี 2552 ที่ให้รัฐบาลไทยต้องจ่ายค่าเสียหายชดเชยจำนวน 36 ล้านยูโรให้บริษัท วอลเตอร์ บาว ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนเยอรมันและจากประเทศอื่นๆ และจะส่งสัญญาณทางบวกกับความสัมพันธ์ระหว่างเยอรมันและไทยต่อไป
แถลงการณ์ ดังกล่าวระบุว่าคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศนั้น ถือเป็นที่สิ้นสุดแล้ว และการอายัดเครื่องบินโบอิ้ง 737 ที่สนามบินมิวนิคได้เกิดขึ้นหลังจากที่คณะอนุญาโตตุลาการฯตัดสินแล้ว
"รายงาน ข่าวต่างๆของสื่อไทยเกี่ยวกับกระบวนการของศาลในกรุงนิวยอร์กนั้น ทำให้ผู้อ่านเจ้าใจคลาดเคลื่อน กระบวนการพิจารณาคำตัดสินของคณะอนุญาโตตุลาการฯที่กรุงนิวยอร์กเพื่อขอคำ ตัดสินว่า การบังคับคดีในเรื่องนี้สามารถกระทำในสหรัฐอเมริกาได้หรือไม่เท่านั้น ซึ่งจะไม่มีการสืบพยานใดที่จะทำให้ไทยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามคำ ตัดสิน"แถลงการณ์ระบุ
แถลงการณ์ระบุด้วยว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ศาลเมืองลานด์ชูต ใกล้เมืองมิวนิก ได้มีคำตัดสินให้ถอนอายัดเครื่องบินโบอิ้ง 737 โดยมีเงื่อนไขคือ ทางการไทยต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกันธนาคารมูลค่า 20 ล้านยูโร แต่รัฐบาลไทยได้ประกาศว่าจะไม่นำเงินประกันไปแลกกับการนำเครื่องบินออกมาจาก สภาพการถูกอายัด การสืบพยานที่ศาลประจำรัฐเมืองลานด์ชูตจะมีขึ้นอีกครั้งประมาณสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนสิงหาคม และยังคาดการณ์ไม่ได้ว่ากระบวนการพิจารณาทั้งหลายจะสิ้นสุดเมื่อใด
มีการเขียนรายงานเป็นภาษาไทยเป็นลายลักษณ์อักษร
Re:
ทั้ง นี้ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลลานด์ชูตใกล้เมืองมิวนิค ได้มีคำตัดสินให้ถอนอายัดเครื่องบินพระราชพาหนะโบอิ้ง 737 โดยมีเงื่อนไขคือ ทางการไทยต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกันธนาคารมูลค่า 20 ล้านยูโร อย่างไรก็ตาม กษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประกาศว่าจะไม่นำเงินประกันไปแลกกับการนำเครื่องบินลำดังกล่าวออกมา
ล่า สุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์บิลด์ อัม ซอนทากของเยอรมนีรายงานคำพูดของแวร์เนอร์ ชไนเดอร์ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทวอลเตอร์ บาว ซึ่งเป็นคู่พิพาทกับรัฐบาลไทย ว่า
“เรากำลังพิจารณาขั้นตอนต่อไปกับกรณีที่เกิดขึ้น รวมถึงการอายัดเครื่องบินลำที่ 2 ของไทยด้วย”
จาก ข่าวดังกล่าวทำให้รัฐบาลไทย นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมาปฏิเสธการดำเนินการดังกล่าวจากทางเยอรมัน และกล่าวว่า และไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะอายัดเครื่องบินลำดังกล่าว เพราะเป็นเครื่องบินส่วนพระองค์ ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล และคดีทั้งหมดเป็นเรื่องของบริษัท วอลเตอร์ บาว กับรัฐบาลไทย ซึ่งอัยการสูงสุด (อสส.) กำลังเตรียมยื่นอุทธรณ์ อีกทั้งมีข้อมูลที่จะใช้ดำเนินการทางกฎหมายกับบริษัทนี้ต่อไปด้วย
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1311657673&grpid=01&catid=&subcatid=
Re:
"ปณิธาน" มึนสถานทูตเยอรมันในไทยแถลงการณ์ไม่ไว้หน้ารัฐบาลอภิสิทธิ์
วันนี้ (26 ก.ค.) นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีรักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการออกแถลงการณ์ของสถานทูตเยอรมันให้ไทยทำตามคำสั่งศาลในการจ่ายค่า ชดเชยจำนวน 36ล้านยูโร ว่า ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศกำลังตรวจสอบข้อมูล และจะทำเรื่องชี้แจงไปยังกระทรวงการต่างประเทศเยอรมัน ซึ่งคาดว่าขณะนี้กำลังประชุมเพื่อสรุปแนวทาง แต่เราได้ยืนยันข้อมูลพื้นฐานทั้งหมดแล้ว และคิดว่าเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทย-เยอรมัน กระทรวงการต่างประเทศเยอรมันควรได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เข้าใจว่าข้อมูลบางอย่างปรากฎแล้วว่ากระทรวงการต่างประเทศเยอรมันอาจได้ ข้อมูลไม่ครบถ้วน ซึ่งมีการอายัดเครื่องบินโบอิ้ง 737 ไปแล้วหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลอะไรในเรื่องนี้ อัยการสูงสุด และกระทรวงการต่างประเทศยังไม่แจ้งมายังรัฐบาล
เมื่อถามว่าใน แถลงการณ์สถานทูตระบุชัดว่าอนุญาโตตุลาการได้ตัดสินถือเป็นที่สิ้นสุดแล้ว แต่รัฐบาลไทยไม่ยอมชดเชยใช้บริษัทให้วอลเตอร์ บาว นายปณิธาน กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศก็เคยพูดว่าเรื่องกระบวนการยุติธรรมกำลังดำเนินการอยู่ อยู่ในชั้นอุทธรณ์ และยังมีข้อสังเกตุทางกฎหมายหลายเรื่อง เข้าใจว่ากระทรวงการต่างประเทศเยอรมันตระหนักดีว่ากระบวนการยุติธรรมใน เยอรมันเอง ก็แยกแยะจากฝ่ายบริหาร ซึ่งเราแปลกใจว่าที่กระทรวงการต่างประเทศเยอรมันให้ความเห็นเกี่ยวข้องกับ กระบวนการยุติธรรมซึ่งน่าจะเป็นอิสระต่อกัน
