วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

"สภาทนาย"ออกแถลงการณ์ อัด "นิติราษฎร์" ยับ

ที่มา thaifreenews

โดย bozo

"สภาทนาย" ออกแถลงการณ์ อัด "นิติราษฎร์" ยับ
ชี้เอื้อประโยชน์อดีตพวกพ้องนักการเมือง ทำสังคมแตกแยก


เมื่อวันที่ 27 กันยายน ทางเว็บไซต์สภาทนายความได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 2/2554
เรื่อง "คำแถลงการณ์ของกลุ่มนิติราษฎร์" โดยภายในแถลงการณ์ระบุว่า
ตามที่กลุ่มนิติราษฎร์ประกอบด้วยอาจารย์สาขากฎหมายมหาชน 7 คน
จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกแถลงการณ์
เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ในหัวข้อ "การลบล้างผลพวงของรัฐประหาร 19 กันยายน 2549"
และการชี้แจงเพิ่มเติมของกลุ่มดังกล่าวสรุปได้ว่า
กลุ่มนิติราษฎร์ได้เสนอให้ลบล้างผลพวงของรัฐประหาร 19 กันยายน 2549,
การแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112,
กระบวนการยุติธรรมกับผู้ต้องหาหรือจำเลย
และการเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายภายหลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549,
การยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
และการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
โดยชี้แจงเพิ่มเติมว่ามีตัวอย่างในต่างประเทศที่เคยเกิดขึ้นในอดีตแล้ว นั้น


ทางสภาทนายความเห็นว่า ประเด็นการนำเสนอของกลุ่มนิติราษฎร์
อาจทำให้ประชาชนที่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงในระบบประชาธิปไตยภาคปฏิบัติของประเทศอย่างถ่องแท้
ที่แตกต่างกับนักวิชาการและโดยที่เป็นส่วนหนึ่งของวัตถุประสงค์ของสภาทนายความ
ในการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายให้รู้เท่าทันกลไกการเมืองและนักวิชาการบางท่าน


สภาทนายความจึงขอให้ความเห็นทางกฎหมายอันอาจเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั่วไปดังนี้



1.สภาทนายความไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารที่ล้มล้างรัฐบาลที่ใช้อำนาจบริหารโดยชอบธรรม
เนื่องจากเป็นการทำให้ระบบการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต้องสะดุดและต้องเริ่มต้นใหม่ตลอดมาถึง 17 ครั้ง
สำหรับการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ก็มีเหตุผลเช่นเดียวกัน
สภาทนายความไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลที่ใช้อำนาจบริหารในขณะนั้น
ได้ใช้อำนาจเงินครอบงำพรรคการเมืองอื่น จนสามารถรวบรวมเป็นพรรคการเมือง
ที่มีอำนาจเด็ดขาดในรัฐสภา ใช้อำนาจบริหารและอำนาจเงินครอบงำสื่อสารมวลชน
และองค์กรอิสระ จนทำให้การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐไม่บรรลุผล
ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย และมีการทุจริต ประพฤติมิชอบ
เพื่อหาประโยชน์แก่ตนเอง และพวกพ้อง จนกระทั่งเป็นเหตุให้มีการรัฐประหาร
รัฐบาลผู้ใช้อำนาจบริหารก็ดี สภานิติบัญญัติ สภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกวุฒิสภา
ผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติ และศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ
ซึ่งใช้อำนาจตุลาการที่มีการดำเนินการหลังการรัฐประหาร
มีส่วนที่สร้างสรรค์ประโยชน์สุขให้แก่ประชาชน
มีการตรากฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
และมีส่วนในการสร้างความสงบสุขให้เกิดแก่สังคม
ซึ่งไม่ควรให้ตกเป็นเสียเปล่า หรือไม่มีผลทางกฎหมาย
ซึ่งรวมถึงรัฐบาล และรัฐสภาในปัจจุบันต่างก็มีที่มาจากกระบวนการที่ต่อเนื่อง
จากการรัฐประหารทั้งสิ้น อันไม่สมควรให้สิ้นผลตามข้อเสนอของกลุ่มนิติราษฎร์



2.การแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบ
การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ เป็นการช่วยให้การสอบสวนในคดี
ที่มีความสับสนและการฉ้อราษฎร์บังหลวง ที่มีกลไกสนับสนุนจากนักการเมือง
เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ ต้องส่งแก่อัยการสูงสุด และนำไปฟ้องยังศาลยุติธรรม
ซึ่งเป็นกระบวนการยุติธรรมตามปกติ
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
และวิธีพิจารณาในศาลฎีกาดังกล่าว เป็นศาล
และวิธีพิจารณาที่อาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540
ซึ่งใช้บังคับก่อนที่จะมีการรัฐประหาร จำเลยมีโอกาสต่อสู้คดีอย่างเต็มที่
และมีบางคดีที่ศาลดังกล่าวมีคำพิพากษายกฟ้อง
ซึ่งเป็นหลักประกันความยุติธรรมให้แก่จาเลยได้เป็นอย่างดี



3.ความผิดทางอาญาตามมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญานั้น
อยู่ในหมวดของความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงในราชอาณาจักร เป็นตัวบทกฎหมาย
ซึ่งมีที่มาจากประวัติศาสตร์ของชาติไทยอันมีความผูกพันกับพระมหากษัตริย์อยู่ในทุกรัฐธรรมนูญ
เมื่อพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้กฎหมาย ทรงไม่อาจดำเนินการใดๆ โดยลำพัง
การดำเนินการใดๆ ของพระมหากษัตริย์ต้องมีผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
รัฐธรรมนูญทุกฉบับที่ผ่านมา จะมีบทบัญญัติให้องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่
ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ดังนั้น มาตรา 112 ดังกล่าว
จึงมุ่งที่จะคุ้มครองพระมหากษัตริย์มิให้มีผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย
และให้ความสำคัญเป็นความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ซึ่งมีโทษรุนแรง
สภาทนายความไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของกลุ่มนิติราษฎร์ดังกล่าว

4.การประกาศใช้รัฐธรรมนูญในประเทศไทย มีมาหลายฉบับแล้ว ในฉบับหลังๆ
มักจะมีการเพิ่มเติมบทบัญญัติในส่วนที่แก้ไขปัญหาที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ก็เป็นรัฐธรรมนูญ
ที่มีการเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเช่นกัน การนำรัฐธรรมนูญฉบับเก่ามาใช้บังคับ
ย่อมทำให้ประสบการณ์ในอดีตที่ผ่านมาต้องสูญเปล่าไปอย่างน่าเสียดาย
การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนย่อมต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่
การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของกลุ่มนักการเมือง
และพวกพ้องย่อมต้องได้รับการคัดค้านอย่างเต็มที่



5.อย่างไรก็ตาม การที่กลุ่มนิติราษฎร์ได้ชี้แจงเวลาต่อมาว่า
มิได้เสนอให้ลบล้างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549
และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 เป็นการทั่วไป
แต่ที่ให้ลบล้างรัฐธรรมนูญดังกล่าว เนื่องจากมีการนิรโทษกรรมการรัฐประหาร
สภาทนายความเห็นว่า เป็นการเลือกใช้หลักการที่เป็นประโยชน์ต่อกลุ่ม
ที่ตนเองต้องการสนับสนุนเท่านั้น มิได้ยึดถือหลักการที่ต้องใช้เป็นการทั่วไป

6.ตัวอย่างที่กลุ่มนิติราษฎร์นำเสนอว่าเคยมีกรณีลบล้างคาพิพากษาและการกระทำที่เสียเปล่า
ในนานาอารยประเทศนั้น เป็นกรณีการกระทาที่เกิดขึ้นจากอำนาจเผด็จการที่ทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์
ซึ่งแตกต่างจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ที่มีการรัฐประหาร
และทำการตรวจสอบความผิดของผู้มีอำนาจบริหารประเทศ
ที่ใช้อำนาจแสวงหาประโยชน์แก่ตนเองและพวกพ้อง
อีกทั้งในประเทศไทยก็เคยมีกรณีที่ศาลยุติธรรมมีคำพิพากษาไม่ยอมรับอำนาจของคณะรัฐประหาร
ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน
การยกตัวอย่างในประเทศเยอรมัน ความเสียเปล่าของกลุ่มนาซี
กลุ่มเสียเปล่าในระบบวิซี (Vichy) ในประเทศฝรั่งเศสรวมถึงคำพิพากษาลงโทษบุคคล
ที่ให้ความช่วยเหลือผู้หลบหนีลี้ภัยนาซีจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ในประเทศกรีก
และในประเทศตุรกีนั้น สภาทนายความเห็นว่า
ระบบการเมืองและระบบกฎหมายของประเทศที่กล่าวอ้างมานั้น
แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ระบบการเมืองในประเทศไทยที่สถาบันพระมหากษัตริย์ได้ทรงพระราชทานรัฐธรรมนูญ
ให้แก่ปวงชนชาวไทยโดยมิได้มีการเสียเลือดเนื้อและไม่เคยมีการทำร้ายเข่นฆ่ากันแต่อย่างใด
เพียงแต่มีนักการเมืองบางคนที่สืบทอดเจตนารมณ์ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยนั้น
ทุจริตคิดมิชอบต่อทรัพย์สินของรัฐอย่างต่อเนื่อง
จึงเป็นเหตุให้มีการรัฐประหารช่วงชิงอำนาจกันตลอดมา
พระมหากษัตริย์ของประเทศไทยได้ต่อสู้กับอริราชศัตรูอย่างยากลำบาก
จนสามารถก่อตั้งประเทศขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้
ได้เสียดินแดนเพื่อเสริมสร้างอิสรภาพเพื่อให้ทุกคนได้อยู่อย่างร่มเย็นเช่นทุกวันนี้
ด้วยพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์ที่สืบทอดตลอดมา



7.สภาทนายความขอตั้งข้อสังเกตว่า
กลุ่มนิติราษฎร์เสนอให้ส่วนที่เป็นผลร้ายต่อนักการเมืองในอดีตเป็นอันสูญเปล่า เสียไป
แต่กลับเป็นประโยชน์ต่ออดีตนักการเมืองมากกว่าการแสวงหาความยุติธรรมให้แก่สังคม
การฉ้อราษฎร์บังหลวงเป็นอาชญากรรมระหว่างประเทศ
ซึ่งไม่มีนักการเมืองคนใดที่จะทำให้สังคมไทยรับรู้ว่าการโกงบ้านโกงเมืองนั้น
เลวร้ายยิ่งกว่าการรัฐประหารที่มุ่งทำลายความเลวของนักการเมืองบางคน
และกระทำการเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริงที่ประชาชนให้การรับรอง
ประชาชนควรต้องติดตามตรวจสอบพฤติการณ์ของกลุ่มนิติราษฎร์อย่างใกล้ชิดต่อไป



(นายสัก กอแสงเรือง)
สภาทนายความ
27 กันยายน 2554


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1317106599&grpid=00&catid=&subcatid=