วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2554

"ปู"ลุ้นทดสอบ วิกฤตน้ำท่วม

ที่มา ข่าวสด




ปัญหาน้ำท่วมใหญ่กินพื้นที่ไปกว่าครึ่งค่อนประเทศ

ประชาชนสังเวยไปแล้วเกือบ 200 ชีวิต พืชผลการเกษตร การปศุสัตว์ บ้านเรือนเสียหายคิดเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้าน

ไม่นับรวมความเสียหายด้านสุข ภาพร่างกายและจิตใจของผู้ประสบเคราะห์กรรมนับแสนคน ที่ไม่สามารถประเมินค่าเป็นตัวเลขได้

ขณะที่วิกฤตภัยธรรมชาติยังไม่มีวี่แววจะยุติ

เพราะ มีข่าวพายุจ่อคิวถล่มไทยไม่หยุดหย่อน จากไห่ถาง มาเนสาต เขื่อนใหญ่ทั่วประเทศปริมาณน้ำไหลเข้าจนเกินลิมิตที่จะรับไว้ได้ ต้องรีบเร่งระบายออก

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณ ภัยเตือนวิกฤต 42 จังหวัดทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน ให้ระวังน้ำป่าดินโคลนถล่มอีกหลายระลอก

พื้นที่ ราบลุ่มภาคกลางไล่มาตั้งแต่ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยาแปรสภาพเป็นเมืองบาดาล ลามถึงจังหวัดปริมณฑล ปทุมธานี นนทบุรี

เป็นสัญญาณว่าแม้แต่กรุงเทพ มหานครพื้นที่ไข่แดงของประเทศ ก็อาจจะป้องกันตัวเองจากภัยพิบัติครั้งนี้ไว้ไม่อยู่ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงความเสียหายด้านเศรษฐกิจจะยิ่งเพิ่มพูนกว่านี้หลายเท่า ตัว

ดูจากเชียงใหม่เมืองหลวงภาคเหนือเป็นตัวอย่าง น้ำปิงทะลักล้นเข้าท่วมตัวเมืองแค่ 2 วัน เศรษฐกิจเจ๊งพินาศไปแล้วกว่า 5 พันล้าน

บาง จังหวัดคนเฒ่าคนแก่บอกว่าตั้งแต่เกิดมามีครั้งนี้ที่เดือดร้อนหนักที่สุด พื้นที่ไหนไม่เคยท่วมก็ท่วม พื้นที่ไหนเป็นจุดท่วมซ้ำซากครั้งนี้ยิ่งเสียหายหนักเป็นทวีคูณ

การระบายน้ำที่ไปกระทบกับจังหวัดอื่นที่อยู่ติดกันทำให้ความขัดแย้งระหว่างประชาชนมีให้เห็นมากขึ้น

จากวิกฤตอุทกภัยรุนแรงยาวนานและยังไม่ถึงจุดสิ้นสุด

ซ้ำเติมประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า กลายเป็นคิวแทรกด่วนทดสอบฝีมือรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แบบเต็มๆ

ซึ่ง ยังเป็นอะไรที่วางใจไม่ได้กับผลสำรวจ สวนดุสิตโพลเมื่อปลายเดือนก.ย.ที่ผ่านมา พบประชาชน พึงพอใจสื่อมวลชนในการช่วยเหลือน้ำท่วมมากที่สุด รองลงมาเป็นรัฐบาล น้อยที่สุดคือฝ่ายค้าน

จุดเด่นที่ประชาชนพอใจมากสุด คือภาครัฐและเอกชนต่างให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยได้รวดเร็วมากขึ้น รองลงมาคือการช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ อาทิ การบริจาคเงิน อาหาร เสื้อผ้า ของใช้จำเป็น

ความมีน้ำใจของคนไทย การได้รับความช่วยเหลือจากคนไทยด้วยกัน สื่อมวลชนเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือมาก ทั้งการนำเสนอข่าวสาร การตรวจสอบและพยายามเข้าถึงพื้นที่ถูกตัดขาด

ส่วนคำถามว่าแก้ไขน้ำ ท่วมอย่างไรจึงถูกใจประชาชน ส่วนใหญ่ต้องการให้ชดเชย เยียวยาและฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ประสบภัยไม่ให้เกิดความ เครียดหรือซึมเศร้า

ที่ ยังวางใจไม่ได้ก็เพราะถึงแม้ประชาชนจะค่อนข้างพอใจรัฐบาลในการแก้ปัญหาน้ำ ท่วม แต่ก็เป็นการสำรวจเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ขณะที่สถานการณ์แปรเปลี่ยนรุนแรงขึ้นทุกวัน

หากรัฐบาลมัวงุ่มง่ามตามไม่ทันปัญหา ก็เป็นไปได้ว่าคะแนนนิยมอาจลอยหายไปกับสายน้ำ

ต่อ ให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สไกป์เข้ามาชี้แนะแนวทางการแก้ปัญหาให้รัฐบาลของน้องสาว แต่ก็เป็นเพียงการบังคับบัญชาจากแดนไกล ไม่ได้สัมผัสปัญหาด้วยตัวเองใกล้ชิด

จึงไม่แปลกที่ผู้ประสบภัยส่วนใหญ่ยังฝากความหวังไว้ที่แม่ทัพหญิงอย่างน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

แต่ ทั้งนี้ต้องไม่ลืมความจริงที่ว่ารัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ เพิ่งเข้ามาบริหารประเทศได้เพียงเดือนเศษ แต่ต้องมาเจอกับภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นปัญหาแก้ยากที่สุดปัญหาหนึ่ง

ความขลุกขลักจึงเป็นเรื่องปกติ

อย่างไรก็ตามในยามฉุกละหุกต้องถือว่านายกฯ ยิ่งลักษณ์ตั้งรับได้ไว

อย่าง น้อยเห็นได้จากการนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่ม หรือศอส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกวันผ่าน วิดีโอคอนเฟอเรนซ์

เร่งรัดงานช่วยเหลือตามแผน 2 พี 2 อาร์ เน้นความรวดเร็วคล่องตัวในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยทั้งในรูปของเงิน ชดเชย และสิ่งของบริจาค

ทั้งยังให้กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมอุตุฯ ร่วมกันราย งานพยากรณ์อากาศ สัญญาณเตือนภัยต่างๆ และการคำนวณปริมาณน้ำ

แจ้งเตือนประชาชนทุกพื้นที่ก่อนเกิดเหตุอย่างเข้มข้น สร้างคันกั้น น้ำป้องกันเบื้องต้น และอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย

นายกฯ ยังเปิดวอร์รูมบ้านพิษณุโลก

เรียก ประชุมรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายเป็นเจ้าภาพรับผิดชอบเกาะติดสถานการณ์ราย จังหวัด เป็นตัวแทนนายกฯ ลงไปนอนค้างคืนในพื้นที่ เพื่อทำงานร่วมกับผู้ว่าฯ และเยี่ยม เยียนให้กำลังใจประชาชน

เพราะลำพังนายกฯ ไม่สามารถลงตรวจเยี่ยมพื้นที่ได้ครอบคลุมทั้งหมด

นอกจากนี้การที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือประชาชน ผู้ประสบภัยเป็นอันดับแรก ผลพลอย ได้ก็คือทำให้เกมการเมืองต่างๆ เบาลง

การทำอะไรก็แล้วแต่ที่เป็น การมุ่งเตะตัดขานายกฯ และรัฐบาลตอนนี้ คนทำอาจโดนกระแสตีกลับเอาได้

ขณะ ที่ฝ่ายค้านพรรคประชาธิปัตย์ต้องเจอกับ "งานเข้า" เต็มไปหมด ไหนจะต้องเคลียร์ตัวเองจากกรณี "กล้องกลวง" ต่อเนื่องปม "เจรจาลับ" กับนายกฯ กัมพูชา

ทั้งยังต้องแบ่งเวลาไปเปิดศึกกับคณะนิติราษฎร์และอัยการสูงสุด ขณะที่คดี 91 ศพเริ่มขยับคืบหน้าใกล้ตัวเข้ามาทุกที

ล่า สุดการโยกย้ายบิ๊กข้าราชการเริ่มทยอยลงตัว โผกองทัพได้รับโปรดเกล้าฯ ลงมาเรียบร้อย นายถวิล เปลี่ยนศรี พ้นจากเลขาธิการสมช. ไปนั่งเก้าอี้ที่ปรึกษานายกฯ เต็มตัว

ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง

ส่ง ผลให้รัฐบาลมีสมาธิเต็มที่ในการลุยแก้น้ำท่วม ถ้ายังรักษามาตรฐานระดับนี้ไว้ได้ด้วยการเอาประชาชนและการทำงานเป็นตัวตั้ง โดยไม่สำลักเรื่องทุจริตเสียก่อน

ก็เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถแปรวิกฤตน้ำท่วม เป็นโอกาสทำคะแนนนิยมได้ไม่ยาก