ชายหน้าดำใจดำ-สุเทพ เทือกสุบรรณ ถูกตำรวจนครบาลเค้นสอบ 4 ชั่วโมง อ้างกระต่ายขาเดียวไม่เคยทำให้ผู้ชุมนุมตาย ชายชุดดำทำทั้งหมด ตำรวจเรียกเค้นเพิ่ม14ธ.ค. พรุ่งนี้คิวอภิสิทธิ์ ซึี่งสุเทพออกตัวให้ว่าบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่มีเอี่ยวเลยแม้แต่น้อย
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
8 ธันวาคม 2554
ในช่วงวันที่ 8-9 ธันวาคมนี้อภิสิทธิ์กับสุเทพจะเข้าให้การต่อตำรวจนครบาลคดี 16 ศพวีรชนเสื้อแดงที่มีหลักฐานชัดเจนว่า ตายเพราะเจ้าหน้าที่ทหาร โดยที่ทั้งสองยังไม่มีทีท่าจะสำนึกผิด นอกจากการปัดไปว่า"เป็นเรื่องการเมืองที่รัฐบาลปัจจุบันตามเช็กบิล
สุเทพยันทำตามกม.สลายชุมนุม-มอบภาพถ่ายชายชุดดำ
วันที่ 8 ธ.ค. เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคลี่คลายคดีชันสูตรพลิกศพ 13 ศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดงในพื้นที่ กทม.ปี 2553 ได้สอบปากคำนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และ อดีต ผอ.ศอฉ. ที่ออกคำสั่งให้มีการสลายการชุมนุม
โดยนายสุเทพได้นำหลักฐานเอกสารประกอบการชี้แจงข้อเท็จจริงของการออกคำสั่ง ให้มีการสลายการชุมนุมว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายและนำพยานหลักฐาน ที่สามารถตรวจพิสูจน์ได้มายืนยันระหว่างที่มีการสอบปากคำซึ่งใช้เวลานาน เกือบ 4 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จเมื่อเวลา 17.40 น.
อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวนนัดนายสุเทพอีกครั้งในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ เวลา 14.00 น. โดยจะสอบปากคำในจุดอื่นๆที่มีการขอคืนพื้นที่จากเหตุการณ์สลายการชุมนุม
นายสุเทพ กล่าว่า "เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตามคำสั่งนั้น ได้ปฏิบัติตามกรอบของกฎหมายอย่างถูกต้องทุกอย่าง แต่มีคนไปอ้างว่าการปฏิบัติการดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งไม่เป็นความจริง ตนได้ยื่นหลักฐานต่างๆ ให้กับทางตำรวจแล้วและขอยืนยันว่า การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งของตนนั้น ได้ทำงานอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย และพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ปีพ.ศ.2548 ซึ่งขอยืนยันว่า เหตุการณ์ต่างๆ ที่เป็นคำสั่งของตนในฐานะผอ.ศอฉ.นั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด " นายสุเทพกล่าว และว่า
เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติตามคำสั่งของผมทำงานอย่างถูกกฎหมายทุกอย่าง ไม่มีเหตุรุนแรงที่เกิดจากเจ้าหน้าที่ แต่วันนี้ผมได้ให้ภาพถ่ายกับตำรวจ ที่เป็นชายชุดดำซึ่งเป็นผู้ก่อการร้ายเข้ามาก่อการ เป็นเหตุให้ประชาชนต้องบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม วันนี้ตนมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตามเหตุการณ์ที่เกิดในวันที่ 10 เม.ย.53 เท่านั้น
ต่อข้อถามว่า การที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่ามีหลักฐานชี้เอาผิดเจ้าหน้าที่ที่ทำผิดในเหตุการณ์สลายการชุมนุม จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย นายสุเทพ หยุดฟังคำถามแล้วตอบกลับเพียงสั้นๆ ว่า "ผมไม่เคยสนใจในคำพูดของนายเฉลิม"้อง
เหลิมข้องใจก็แลิ้วทำไมเทือกไม่จับชุดดำ ปูดตร.ฆ่าเสธแดง
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีนายสุเทพหาว่าเฉลิมตาบอดสีจึงไม่เห็นว่าชายชุดดำเป็นเลงมือสังหารประชาชน 91 ศพว่า ขอฝากไปบอกนายสุเทพว่าตนตาไม่บอด ตนตาดีและคม สิ่งที่ตนไม่เห็นนั้นเพราะตนไม่เคยไปชุมนุม ตนไม่เคยขึ้นเวทีนปช.และไม่เคยไปเวที แล้วตนจะเห็นสิ่งต่างๆได้อย่างไร รวมทั้งผู้ที่ไปให้การกับตำรวจนั้นเมื่อถึงขั้นตอนลงลายมือชื่อเซ็นรับว่าคนที่ลงมือคือชายชุดดำใช่หรือไม่นั้น ก็บอกกันว่าไม่เห็น และสิ่งที่อ้างว่าชายชุดดำสังหารไปกว่าหกสิบราย มีการดำเนินคดีกับชายชุดดำหรือไม่ ตนไม่เคยไปยุ่งเรื่องนี้แล้วจะเห็นชายชุดดำได้อย่างไร แต่ตนรู้ว่าพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล เสียชีวิตไม่ใช่ฝีมือทหาร แต่เป็นการยิงของตำรวจ นึกหรือว่าตนไม่ติดตามหลักฐานส่วนอื่นๆเลย การยิงในสถานที่ต่างๆก็เป็นฝีมือตำรวจ มีการนำปืนทราโวไปใส่ไว้ในรถของบางคนแล้วไปบอกว่าจับอาวุธได้ที่เวที ทั้งๆที่ไม่มีเลย
เมื่อถามว่า นายสุเทพระบุว่ารัฐบาลพยายามดึงนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพเข้าไปอยู่ในกระบวนการยุติธรรม เพื่อจะโยงไปสู่การออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คนที่ให้การพาดพิงถึงนายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ คือ ทหาร ไม่ใช่รัฐบาล เพราะทหารบอกว่าการปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามคำสั่งศอฉ. เรื่องที่เกิดขึ้นมันมีเหตุ ไม่ใช่อยู่ดี ๆ รัฐบาลหยิบเรื่องนี้ขึ้นมา แต่รัฐบาลที่ผ่านมาทำช้า รัฐบาลชุดนี้ทำเร็วและตรงไปตรงมา และไม่ใช่เรื่องการเมืองมันเป็นเหตุฆาตกรรม จะไปยกโทษให้ไม่ได้ สมมติถ้ามีการออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้กับคนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิวัติ 19 ก.ย.49 แล้วจะไปเกี่ยวอะไรกับกรณี 91 ศพ เขามาขอหีบบัตร แต่ไปให้หีบศพก็เลยเกิดปัญหา “วันนี้ทหารบอกแล้วว่าทำไปตามคำสั่งศอฉ. ผมไม่ได้ไปเร่ง ไปบีบ แต่บอกตำรวจว่าอย่าเก็บเรื่อง อย่ากลัวเขา อย่าแกล้งเขาแล้วมันก็จะเห็นเร็ว ๆ นี้ วันนี้ประชาชนเข้าใจอุตส่าห์ไปร้องไห้ที่แยกราชประสงค์ยังได้มา 100 กว่าเสียง ถ้าไม่ร้องไห้คงได้ 80 เสียง”
ธิดาหวังมาร์ค-เทือกโดนแบบเดียวกับคนเสื้อแดง
นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธาน นปช. กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะไปให้ปากคำตำรวจกรณีสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงปีที่ผ่านมาว่า ขอให้นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ พูดความจริงและเหตุการณ์นี้จะเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของเมืองไทยอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้สั่งการ ผู้คุมอำนาจรัฐได้เดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจ ขอให้ทุกคนจับตาดูคำให้การของเขาให้ดี ทั้งนี้หวังว่านายอภิสิทธิ์และนายสุเทพนี้จะถูกปฏิบัติเหมือนกับคนเสื้อแดง เมื่อตรวจพบหลักฐานว่าบุคคลเหล่านี้กระทำผิด ใช้อำนาจเกินกว่าเหตุก็ควรส่งตัวเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย อย่าละเว้น และส่งไปให้ถึงกระบวนการในชั้นศาล เพื่อที่จะพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ได้กระทำผิด
นางธิดา กล่าวต่อว่า ขณะนี้ญาติวีรชนยังรอความยุติธรรมอยู่และเชื่อว่าไม่นานก็คงจะได้รับ และขอเรียกร้องให้คนเสื้อแดง และประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมปี 53 มีมากกว่า 2,000 คน ให้รีบออกมาดำเนินการฟ้องเอาผิดกับรัฐบาลชุดที่แล้วให้หมด
10หลักฐานเอกสารมัดคอมาร์ค-เทือกแน่น แค่เป็นพยานไม่พอ
ไทยอีนิวส์ขอนำเอกสารหลักฐานมัดแน่นต่างๆมาให้พิจารณากันว่า นี่ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่คืออาชญากรรมสังหารหมู่ที่อภิสิทธิ์-สุเทพหลีกเลี่ยงไม่ได้ต่อความรับผิดชอบ
เป็นแค่พยานไม่ได้...เพราะทั้งสองคือตัวการ ผู้บงการ
1.เอกสารที่สุเทพ เทือกสุบรรณ และพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด สารภาพว่าเป็นของจริง
สาระสำคัญของเอกสารคือ:นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีขณะเกิดเหตุได้สั่งการ นายสุเทพรับมอบหมาย นายทหารตั้งแต่ผบ.ทบ.รับงานไปสังหารผู้ชุมนุม ผลคือตาย 92 ศพ เจ็บกว่า2,000 สุดท้ายจับกุมฝ่ายผู้ชุมนุมไปขังคุกไว้400คนเศษ
2.เอกสารที่ทหารยอมรับว่ามีการปฏิบัติการโฆษณาชวนเชื่อให้คนมองผู้ชุมนุมเสื้อแดงเป็นผู้ก่อการร้าย เพื่อออกใบอนุญาตฆ่า โดยคนในสังคมเห็นคล้อยตามไม่คัดค้าน
AW-SP-69-81
สาระสำคัญของเอกสารคือ:ทำไมการสลายการชุมนุมคราวนี้ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมาก และสื่อกระแสหลักนำเสนอแต่ภาพเผาบ้านเผาเมือง ไฟไหม้ห้าง เผาโรงหนังสยาม(และคำบ่นว่า พวกเสื้อแดงเลวสมควรตาย)
คำตอบก็คือเพราะการทำโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาล และทหารได้ผลมีประสิทธิภาพในการล้างสมองให้คนในสังคมคล้อยตาม
3.เอกสารแผนการรบเต็มอัตราศึกต่อผู้ชุมนุม และรายงานผลชัยชนะของฝ่ายทหาร
Lesson 7
สาระสำคัญของเอกสารคือ:ทหารยอมรับว่า นโยบายรัฐบาลชัดเจนมาตลอดที่จะใช้มาตรการทางทหารกดดันม็อบกลุ่ม นปช. ความชัดเจนก็คือนโยบายกระชับวงล้อม เพื่อการยุติ การชุมนุมไม่ใช้การกระชับวงล้อมเพื่อเปิดการเจรจา ..และนายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุม ศอฉ.ในวันที่ 12 พฤษภาคม ให้ฝ่ายทหารเริ่มต้นปฏิบัติการตามแผนยุทธการที่ได้วางไว้
ยุทธการกระชับวงล้อมเมื่อ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2553 เป็นการปฏิบัติทางทหารเต็มรูปแบบ จึงเห็นได้ว่าภารกิจชัดเจน คือการกระชับวงล้อมด้วยกระสุนจริง ที่ใช้อาวุธยุทธโธปกรณ์ทางทหารเต็มอัตราศึก ทั้งกำลัง อาวุธประจำกายที่ทันสมัย ชุดสไนปอร์
4.เอกสารระบุชื่อนายทหารระดับบังคับบัญชาต่อกรณีสังหารผู้ชุมนุม10เมษา-19พฤษภาคม53
สาระสำคัญของเอกสารคือ:เป็นการเปิดเผยรายชื่อนายทหารระดับผู้บังคับบัญชาในการควบคุมการสังหาร และรายชื่อเหยื่อผู้ถูกสังหาร ซึ่งทำให้รู้ชัดเจนว่านายทหารคนใดต้องรับผิดชอบทั้งทางอาญาและทางแพ่ง
เพิ่มเติม:
-โฉมหน้าและรายชื่อทีมสังหารโหดเหยื่อวัดปทุมฯ
-เปิดโฉม2มือสไนเปอร์สังหารเสื้อแดง
5.เอกสารคอป.ชุดอภิสิทธิ์ตั้งชี้ชัดทหารฆ่าอย่างน้อย 13 ศพ ต้องเอาผู้รับผิดชอบ และเจ้าหน้าที่ทหารขึ้นศาล แต่DSIถูกแทรก ขณะที่ศาลไม่เข้าใจทำให้ไม่ให้ประกันนักโทษเสื้อแดง
รายงานความคืบหน้า คอป ครั้งที่ 1
สาระสำคัญของเอกสารคือ:พบว่าอย่างน้อยผู้เสียชีวิต ๑๓ ราย เกิดจาก การกระทำของเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐ ไม่มีตอนใดเลยกล่าวถึงชายชุดดำว่าเป็นผู้สังหารเหยื่อ10เมษายน-19พฤษภาคม 2553 แต่การทำงานของตำรวจและDSIถูกฝ่ายการเมืองแทรกแซง เพราะไม่มีการดำเนินคดีต่อทหารและฝ่ายการเมือง ขณะที่ศาลไม่เข้าใจเหตุการณ์กลับดำเนินคดีต่อนักโทษเสื้อแดงเหมือนคดีอาญาทั่วไป ไม่ยอมให้ประกันตัว แต่คอป.ไม่เห็นด้วยกับการนิรโษกรรม
6.คำให้สัมภาษณ์วงศ์ศักดิ์เรื่องสุเทพขอปืน3,000กระบอกไปปราบเสื้อแดง เมื่อไม่ร่วมมือก็ถูกเด้ง
สาระสำคัญ-นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) สั่งการด้วยวาจาทางโทรศัพท์ให้ นายวงศ์ศักดิ์ (อธิบดีกรมการปกครอง) สนับสนุนอาวุธปืนลูกซอง ๕ นัด จำนวน๓,๐๐๐ กระบอก พร้อมกระสุน ส่งมอบให้ ศอฉ. แต่นายวงศ์ศักดิ์ ชี้แจงว่า ตนไม่มีอำนาจสั่งผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีอำนาจบังคับบัญชาผู้ว่าฯ จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่นายสุเทพ ผอ.ศอฉ. ประสานงานมายังกระทรวงมหาดไทยให้มีการสั่งย้ายนายวงศ์สวัสดิ์
นายวงศ์ศีักดิ์ให้สัมภาษณ์ตีพิมพ์ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับ๑๙-๒๕ ส.ค.๒๕๕๔ ปีที่ ๓๑ ฉ.๑๖๑๘ หน้า ๔๐ ตอนหนึ่งว่า การที่จะใช้ปืนลูกซองยาวไปปราบพี่น้องคนไทยนั้น ผมไม่เห็นด้วย ไม่ว่าจะเสื้อสีใดก็แล้วแต่ ควรจะคุยกันรู้เรื่อง แก้ไขทางการเมือง ไม่ใช่มาแก้ไขด้วยอำนาจ ด้วยกระบอกปืน ทำให้ทางโน้นไม่พอใจว่า เราไม่ให้ความร่วมมือ แล้วเขาก็วางสายเลย
ฝากสื่อมวลชนไปติดตามดูหน่อยว่า ปืนที่ทางจังหวัดส่งไปให้ ศอฉ. ช่วงที่ผมถูกย้าย ยังได้คืนไม่ครบ ๓,๐๐๐ กระบอก เป็นความรับผิดชอบของใคร ปืนของหลวง เมื่อเอาไปใช้แล้วก็ต้องเอากลับมาที่เดิม
7.คอป.แฉใบสั่งDSI ตำรวจ อัยการเหวี่ยงแหยัดคุกเสื้อแดงแรงเกินเหตุ
สาระสำคัญ-นายสมชาย หอมละออ กรรมการ คอป. ในฐานะประธานอนุกรมการค้นหาข้อเท็จจริง ในงานด้านกฎหมาย เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบพบว่า ผู้ที่ถูกคุมขังนั้น ส่วนใหญ่ถูกตั้งข้อหาที่เกินเลยจากความเป็นจริง ซึ่งมีมากถึง 53 คน ที่ถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย และวางเพลิง ซึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามีโทษถึงประหารชีวิต
ทั้งนี้จากการสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการตั้งข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน คือตำรวจ-DSI และพนักงานอัยการพบว่า การตั้งข้อหาดังกล่าวนั้นเกิดจากแรงกดดันของผู้บริหารระดับนโยบาย อีกทั้งการจับกุมและตั้งข้อกล่าวหายังเป็นในลักษณะของการเหวี่ยงแห ซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่ต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ ทั้งนี้พนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการยังไม่สามารถพิสูจน์พยานหลักฐาน
8.DSIแฉนโยบายเบื้องบนหากหาหลักฐานใครลั่นกระสุนไม่ได้ให้โยนบาปคนเสื้อแดง
สาระสำคัญ- BBC เปิดเผยในสารคดี Thailand - Justice Under Fire (ประเทศไทย-ความยุติธรรมที่ปลายกระบอกปืน) โดยอ้างรายงานการสัมภาษณ์เ้จ้าหน้าที่DSIว่า
"มีนโยบายให้กล่าวโทษคนเสื้อแดงในทุกกรณีเท่าที่จะเป็นไปได้ มีความพยายามจะออกคำสั่งว่า หากไม่พบผู้กระทำผิดให้โยนข้อกล่าวหาำไปให้ฝา่ยเสื้อแดง โดยอธิบดี DSI เป็นผู้ออกคำสั่ง"
"มีคำสั่งว่า หากไม่สามารถหาบุคคลที่เหนี่ยวไกปืนได้ เราจะต้องสันนิษฐานว่า ฝ่ายเสื้อแดงและผู้สนับสนุนเป็นคนทำ" (อ่านรายละเอียดข่าว: โลกตลึงDSIแฉผ่านBBCหมดเปลือกปกปิดทหารฆ่าประชาชนปี53 ธาริตใบสั่งโยนผิดเสื้อแดงฆ่ากันเอง)
9.ไก่อูสารภาพซัดทอดมาร์ค-เทือกบงการ
สาระสำคัญ-พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกของศอฉ.เข้าให้การกับตำรวจเมื่อ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ระบุว่า "ศอฉ." ไม่ใช่องค์กรที่เกิดขึ้นเอง แต่มีขึ้นโดยคำสั่งของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ขณะนั้น และมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในขณะนั้น เป็นผอ.ศอฉ.
สรุปแบบเข้าใจง่ายๆ ก็คือ ทหารจะไม่สามารถนำกำลังเข้าสลายม็อบแดงได้เลย
หากไม่มีคำสั่งพิเศษจาก "ศอฉ." ! หากไม่เพราะอภิสิทธิ์-สุเทพสั่ง (อ่านรายงานข่าว:ทหารออกตัวล้อฟรีไก่อูเปิดปากซัดทอดมาร์ค-เทือกเต็มๆ มัดคอเป็นผู้สั่งการสังหารเมษา-พฤษภาเลือด)
10.สุเทพยอมรับกลางแยกราชประสงค์เป็นคนสั่งการเอง
สาระสำคัญ-เทือกยอมรับหน้าชื่นตาบานที่แยกราชประสงค์ก่อนการเลือกตั้ง 3 กรกฎาฯว่าเป็นคนออกคำสั่งเอง มาร์คไม่เกี่ยว
ผมเป็นผู้สั่งการทุกอย่าง แล้วผมเป็นคนรับผิดชอบ
จากหลักฐานเอกสาร การตรวจสอบ และพยานต่างๆนี้เพียงพอหรือยังที่จะหักล้างข้อกล่าวอ้างของมาร์ค-เทือกว่า พวกตนกำลังตกเป็นเหยื่อล้างแค้นทารเมือง ไม่ต้องมีส่วนรับผิดชอบใดๆ...? ประการสำคัญงานนี้ตำรวจจะแค่เรียกมาให้ปากคำในฐานะเป็นแค่พยานไม่ได้...เพราะทั้งสองคือตัวการ ผู้บงการ
และขอฝันใฝ่ในฝัันอันเหลือเชื่อ-Dream impossible dream:เมื่อคดีนี้ไปถึงชั้นการพิจารณาของศาล ศาลจะได้พิจารณาอย่างเที่ยงธรรมตามพยานหลักฐานข้างต้นโดยเห็นว่้่าผู้ต้องหามีอัตราโทษหนัก เป็นผู้บงการสังหารหมู่ประชาชน หากให้ประกันตัวเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับหลักฐานพยาน และเกรงว่าจะหลบหนี จึงไม่ให้ประกันตัวและให้ตีตรวนส่งไปเข้าเรือนจำอยู่แดนเดียวกับอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง
ขอฝันใฝ่ในฝัันอันเหลือเชื่อ-Dream impossible dream!!!