วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ส.ศิวรักษ์ร่วมต้าน112 ไทยLAเดินขบวน-คุณยายเสื้อแดงแหยงดินแดนแห่งความกลัวเลื่อนเยี่ยมบ้านเกิด

ที่มา Thai E-News



ให้รัฐบาลระงับคดี112-ส.ศิวรักษ์ นักคิดปัญญาชนสยามเข้าร่วมกิจกรรมFearlessness Walk เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม โดยกล่าวว่า อยากจะเตือนความจำว่าวันนี้เป็นวันรัฐธรรมนูญ ประเทศไทยปกครองในระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไม่ใช่กษัตริย์อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ ถ้ารัฐบาลนี้ฉลาดก็ควรออกมาจัดการระงับคดีต่างๆ ทั้งหมด เพราะแม้แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯยังทรงมีรับสั่งว่าคดีหมิ่นนฯทำร้าย พระองค์ท่าน (ชมประมวลภาพ: ขบวน ‘อภยยาตรา’ Fearlessness walk)

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
11 ธันวาคม 2554


เราคืออากงลามทั่วโลก คนไทยในอเมริกาสวมหน้ากากอากงประท้วงในLA จี้ปล่อยพลเมืองอเมริกัน

มี การสวมหน้ากากอากงจัดกิจกรรมแสดงพลังเงียบFearlessness walkขึ้นหลายจุดทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยในต่างประเทศวันนี้เวลา 15.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นในLA ชาวไทยที่พำนักในมหานครลอสแอนเจลีสและปริมณฑลได้จัดกิจกรรม"เราคืออากง" โดยได้นัดหมายกันสำหรับคนที่ไม่เห็นด้วยกับคามเป็นธรรมในการใช้ ม.112 ต่อ อากง และคนอื่นๆ รวมทั้งโจ กอร์ด้อน คนไทยที่เป็นพลเมืองอเมริกัน ซึ่งเพิ่งถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปีครึ่ง

ขอเชิญชวนพี่ น้องแอลเอ ร่วมกิจกรรม เดินเพื่ออากง ผู้ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีโอกาสออกมาตายนอกคุกหรือไม่กับโทษที่ได้รับ มาร่วมเรียกร้องให้กับชายแก่ๆคนหนึ่งที่ไม่มีหนทางต่อสู้ ช่างมืดมนสำหรับอากงที่ยอมต่อสู้แม้จะอายุหกสิบกว่า เราท่านที่อยู่ในประเทศเสรีมนุษย์เกิดมาเท่าเทียมกัน อยากเห็นความยุติธรรม สองขาก้าวมาร่วมกัน วันอาทิตย์ที่ 11 ธค. เวลา บ่ายสาม จุดนัดพบ หน้าไทยแลนด์พลาซ่า มาเพื่ออากง... มาเพื่อมนุษยธรรม
กลุ่มผู้จัดงานได้เตรียมหน้ากากอากง และป้าย NO112 , CHANGE 112 , THAILAND ในการจัดการชุมนุมด้วย


โดย กิจกรรมนี้คนไทยในLAรวมพลังแสดงออกโดยสวมหน้ากากอากง และโจ กอร์ด้อน พร้อมกับชูป้ายประท้วงที่ย่านไทยทาวน์ หน้า Thailand Plaza 5311 Hollywood Blvd, LA วันอาทิตย์ที่ 11 เริ่มเวลา บ่าย 3 โมงครึ่ง เป็นต้นไป โดยนัดกัีนสวมหน้ากากอากงในการประท้วงครั้งนี้ด้วย

สอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณ รำไพ(เจหน่อย) 619-549-2515
คุณ สมบูรณ์(แป๊ง) 909-786-2506
คุณ ประเสริฐ 818-433-0091
คุณ เบญจะ 310-516-7671

คุณยายเสื้อแดงงดบินมาเยี่ยมญาติในไทยสะท้อนบรรยากาศแห่งความกลัว ยังหวังจะได้กลับก่อนอายุ90ปี


คุณ ยายศรีลัดดา ซึ่้งเป็นคุณยายเสื้อแดงวัย 88 ปีที่ไปพำนักอาศัยในคาลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกามานาน 40 ปีและมีโอกาสกลับมาเยี่ยมญาติที่เมืองไทยอยู่เนืองๆ แจ้งว่า ตอนแรกคุณยายกับลูกสาวมีแผนการจะเดินทางกลับเมืองไทยเพื่อเยี่ยมญาติในช่วง สิ้นปี แต่หลังจากได้ติดตามสถานการณ์การเมืองแล้ว พวกเราได้ตัดสินใจเลื่อนแผนการเดินทางออกไปก่อน เพราะบรรยากาศการเมืองของไทยไม่ปลอดภัียสำหรับการท่องเที่ยวไทยเลย มันน่าเศร้าเมื่อมาคิดว่าเราเป็นคนไทยแท้ๆ แต่ต้องกลัวการเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง ตอนนี้นรู้สึกสิ้นหวังยังมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เห็นแค่ยุคสมัยที่มืดมนไปในทุกหนแห่ง อย่างไรก็ตามยังตั้งความหวังไว้ว่าจะได้เดินทางไปเยี่ยมเมืองไทยก่อนจะอายุ 90 ปีในอีก 2 ปีข้างหน้า ยายจะสวดภาวนาเพื่อวันนั้น

Sawasdee ka, at first my daughter and I planned to come over early next year but after watching the political situation, we decided that the general atmosphere is'nt safe for traveling to Thailand, we decided to postpone our trip for the time being. It is sad to think that we Thai, are afraid to come visit our own birthplace. I myself feel so hopeless for the light at the end
of the tunnel.I could see only darkness and fear everywhere. I still hope that I would be able to come for a visit before I turn 90yrs old.I will pray for that day.

คุณยายศรีลัด ดาเพิ่มเติมว่า ยายไม่อยากเจอชะตากรรมแบบเดียวกับโจ กอร์ด้อน ชาวไทยที่เป็นพลเมืองอเมริกัน หลังจากอาศัยในโคโรลาโด้นาน 30 ปี เมื่อเดินทางกลับไทยในปีนี้ก็มาโดนจับข้อหามาตรา 112 แม้ว่ายายเขียนจดหมายลงเผยแพร่ในไทยอีนิวส์ไม่ได้แรงอะไรเท่ากับที่โจ กอร์ด้อน แปลหนังสือเผยแพร่ และยายก็ไม่เคยก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูงเลยก็ตาม แต่กรณีอากงที่ส่งSMS 4 ข้อความจริงหรือไม่ก็ไม่รู้ โดนจำคุก 2 ปีนั้น ได้สร้างบรรยากาศแห่งความน่ากลัวขึ้น ยายเลยไม่อยากเสี่ยง แม้อยากกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดขนาดไหนก็ตามที

I don't want to be another Joe Gordon though what I wrote was'nt as serious as his translation of a book..but the case of Ar Gong and others create the atmosphere of fear,none the less. I beleive in being safe and sound than taking the risk.

CNNตีข่าวชาวอเมริกันเจอคุก2ปีคดีหมิ่น ทูตสหรัฐกังวลตัดสินไม่สอดคล้องมาตรฐานเสรีภาพสากล





CNNนำ เสนอภาพข่าวโจ กอร์ด้อน ในหัวข้อข่าว American gets 2.5 years for insulting Thai monarchy(ชาวอเมริกันถูกตัดสินจำคุก2.5ปีฐานดูหมิ่นกษัตริย์ไทย) โดยรายงานว่า พลเมืองอเมริกันที่เกิดในไทยมาขึ้นศาลเมื่อวันพฤหัสฯและถูกตัดสินจำคุก 2 ปีครึ่ง ทนายความของเขา อานนท์ นำภา มีแผนจะยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งที่ผ่านมามักให้พระราชทานอภัยโทษชาวต่างประเทศที่ติดคุกคดีหมิ่นพระบรม เดชานุภาพ

ขณะที่โจบอกนักข่าวว่า"ผมเป็นพลเมืองอเมริกัน ไม่ใช่ไทย" ทั้งนี้เขาพำนักอาศัยในสหรัฐฯนาน 30 ปี ก่อนเดินทางกลับไทยและถูกจับกุมเมื่อเดือนพฤษภาคม โดยไม่เคยได้ประกันตัว

ข่าว ดังกล่้าวพุ่งขึ้นเป็นข่าวยอดนิยมของเว็บไซต์ CNN อันดับที่ 3 ประจำวันนี้ของข่าวภูมิภาคเอเชีย และมีผู้เข้ามาแสดงความเห็นท้ายข่าวอย่างล้นหลาม มากกว่า 545 ความคิดเห็นในช่วงวันเดียว

CNN รายงานว่า ข้อหาเขียนหรือเผยแพร่บทความหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในไทยนั้นอาจเจอโทษจำคุก หนักถึง 20 ปีในประเทศพุทธศาสนาแห่งนี้ และเป็นดินแดนที่เทิดทูนสักการะกษัตริย์อย่างสูง

โจ กอร์ด้อน กล่าวให้สัมภาษณ์ว่าเขาเป็นพลเมืองอเมริกัน และคนอเมริกันมีสิทธิและเสรีภาพ แต่สำหรับประเทศไทยเป็นไปอย่างจำกัดในการแสดงออกซึ่งความคิดเห็น

กฎหมาย หมิ่นพระบรมเดชานุภาพของไทยจัดว่ารุนแรงเข้มงวดที่สุดในโลก พร้อมจะลงโทษแก่ผู้ละเมิดผู้ที่ดูหมิ่นหรือเป็นภัยคุกคามต่อพระราชวงศ์ไทย อย่างไรก็ดีกษัตริย์ไทยเคยพระราชทานอภัยโทษแก่ชาวต่างชาติในกรณีคล้ายๆกัน กับโจ กอร์ด้อนมาแล้ว

ในวันต่อมานางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ได้ทวิสเตอร์ ผ่าน @KristyKenny ชี้แจงท่าทีของทางการสหรัฐฯ ต่อการให้ความช่วยเหลือผู้ต้องโทษคดีดังกล่าวว่า สหรัฐฯ มีความกังวลใจ เนื่องจากการตัดสินไม่สอดคล้องกับมาตรฐานเสรีภาพพื้นฐานสากล ว่าด้วยสิทธิในการแสดงออก และขอยืนยันว่า ทางการสหรัฐฯ มีความเคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยอย่างหาที่สุดมิได้ แต่สหรัฐฯ จะยังสนับสนุนการมีสิทธิทางความคิด และเสรีภาพในการแสดงออกทั่วโลก

ทั้ง นี้ ทางสถานทูตสหรัฐฯ เตรียมให้ความช่วยเหลือนายกอร์ดอน โดยจะเดินทางเข้าเยี่ยมที่เรือนจำ และนำเรื่องนี้เข้าหารือกับทางการไทย พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ให้ชาวสหรัฐฯ ทั้งที่จะเดินทางมาและกำลังพำนักอยู่ในไทย ได้อ่านศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูล และกฎหมายเบื้องต้นของไทยทางเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ด้วย

หรือ http://travel.state.gov/travel/cis_pa_tw/cis/cis_1040.html#criminal_penalties

" แม้จะเป็นคนสหรัฐฯ แต่เมื่ออยู่ในไทยก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายไทย สหรัฐฯ ขอยืนยันว่า ยังคงมีจุดยืนที่ต้องการจะส่งเสริมและเพิ่มพูนความสัมพันธ์ ความร่วมมือและการค้ากับประเทศในภูมิภาคนี้ รวมทั้ง จะให้ความช่วยเหลือประเทศไทย ในการบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยอุทกภัยครั้งใหญ่ และจะให้การสนับสนุนกำลังทหาร ตำรวจ และพลเรือน ในการร่วมมือกันฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบภัยหลังน้ำลดแล้วอีกด้วย โดยระบุว่า เรือพิฆาต USS Lassen และ USS Mustang ยังเทียบท่าอยู่ที่ไทย เพื่อเตรียมให้การสนับสนุนดังกล่าว

เว็บไซต์แนะนำท่องเที่ยวดังตื่นเตือนฝรั่งแค่กดlikeเฟซบุ๊คหมิ่นฯก็ติดคุกหากเดินทางมาเที่ยวไทย


Richard Barrow เขียนรายงานข่าวในเว็บไซต์ Thai Travel News เว็บไซต์ แนะนำการท่องเที่ยวในประเทศไทยสำหรับชาวต่างประเทศว่า ชาวต่างชา่ติได้รับคำเตือนว่าพวกเขาอาจถูกจับกุมด้วยข้่อหาหมิื่นพระบรมเด ชานุภาพ

ทั้งนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊คที่กดshare หรือ likeข้อความที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพราชวงศ์ไทยจะถูกพิจารณาว่าเป็นการประกอบ อาชญากรรม จากการเปิดเผยของรัฐมนตรีกระทรวงICT อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้รวมทั้งการคัดลอกข้อความดังกล่าวเผยแพร่ด้วย หลังจากเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างเฟซบุ๊คถูกมองจากทางการไทยว่าเป็น สื่อกลางในการเผยแพร่ข้อความหรือรูปภาพหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่ีงขัดต่อกฎหมายอาญา และกฎหมายเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์แพร่ระบาดทั้งทางตรงและทางอ้อม

ใน วันที่ 8 ธันวาคมนี้ ศาลอาญาจะพิจารณาตัดสินคดีที่นายโจ กอร์ด้อน ชาวอเมริกันที่เกิดในประเทศไทย หลังจากมีการจับกุมคุมขังเขาไว้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โทษฐานแปลหนังสือที่ทางการไทยสั่งไม่ให้นำ้เข้าไปเผยแำพร่ในราชอาณาจักร โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯภูมิ พลอดุลยเดช และได้เผยแพร่ยข้อความแปลทางออนไลน์ ต่อมานายกอร์ด้อนได้สารภาพต่อข้อกล่าวหา ทั้งนี้กอร์ด้อนไปใช้ชีวิตเป็นพลเมืองอเมริกันนานหลายปีที่โคโลราโด้ ทำให้เพิ่มความกังวลว่าจะมีการนำกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมาบังคับใช้ต่อ ทั้งบุคคลสัญชาติไทยและชาวต่างชาติ

"ใครก็ตามที่กระทำขัดต่อกฎหมาย แม้กระทั่งชาวต่างชาติที่ใช้อินเตอร์เน็ตอยูู่นอกประเทศไทย หากมีการกดlikeหรือshareในเรื่องที่กฎหมายไทยห้ามไว้ แม้ขอบเขตกฎหมายไทยไม่อาจลงโทษคุณได้ แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณเดินทางเข้าประเทศไทยเพื่อการพักผ่อนวันหยุดยาว คุณก็จะถูกดำเนินคดี"น.อ.อนุดิษฐ์ระบุ

ข้อพิจารณาคือผู้ใช้เว็บไซต์ โซเชียลเน็ตเวิร์คอาจไม่ทราบข้อกฎหมายนี้"คุณพึงต้องทราบว่าเมื่อใดที่คุณ กดLikeในหน้าwallมันก็จะไปโชว์ให้เพื่อนในเฟซบุ๊คคุณทราบไปด้วย ก็็จะกลายเ็ป็นการเผยแพร่ข้อความผิดกฎหมายในทางอ้อม นี่เป็นข้อพิจารณาจากทางการไทย"จีรนุช เปรมชัยพร ซึ่งถูกดำเนินคดีในกฎหมายนี้เพราะผู้อ่านข้อความในเว็บไซต์ที่เธอเป็นแอดมิ นอยู่เขียนข้อความที่ทางการเห็นว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพลงในท้ายข่าวใน เว็บไซต์ของเธอ

การจับกุมดำเนินคดีฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพพุ่งสูง ขึ้นในระยะไม่กี่ปีมานี้เป็นเหตุให้เจ้าของเว็บไซต์และผู้ใช้เฟซบุ๊คต้องปฏิ บััติการเซ็นเซอร์ตัวเองเพราะความกลัวว่าจะตกเป็นผู้ถูกดำเนินคดีฐานต่อต้าน ราชวงศ์ โดยเมื่อไวๆนี้ศาลอาญาของไทยเพิ่งตัดสินคดีนายอำพล หรือ อากง วัย 61 ปีให้จำคุก 20 ปีฐานส่งข้อความ 4 ข้อความที่ศาลตัดสินว่าเป็ฺนการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไปยังโทรศัพท์มือถือของ เลขานุการส่วนตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทยเมื่อกลางปีที่แล้วระหว่างมีการประท้วงใหญ่ รัฐบาล แต่อากงได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาว่าเขาไม่ได้กระทำผิดตามคำตัดสินของศาล

ซ้ำเติมท่องเที่ยวหลังจากน้ำท่วมฉุดวูบ

มติ ชนออนไลน์รายงานว่า นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เผยความเสียหายที่เกิดกับการบินไทยหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่หลายประเทศออก ประกาศเตือนนักท่องเที่ยว ส่งผลให้ลูกค้าหลัก ได้แก่ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 40-50

ส่งผลให้ปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวบินของ การบินไทยปรับลดลงในช่วงไตรมาส 4 จากปกติถือเป็นช่วงไฮซีซัน โดยปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวบินเดือนพฤศจิกาจน 2553 เคยมีระดับสูงถึงร้อยละ 72 ลดลงเหลือร้อยละ 61 ในเดือนพฤศจิกายน 2554 ส่งผลให้ภาพรวมไตรมาสสุดท้ายต้องสูญเสียรายได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท ทำให้ภาพรวมตลอดปี 2554 คงลำบากที่จะทำให้มีกำไรในปีนี้

โฆษกต่างประเทศสหรัฐว่ากังวลต่อคดีอากง แต่ไทยโบ้ยเป็นแค่ความเห็นส่วนตัว

APรายงานวานนี้ว่า โฆษกหญิง กระทรวงต่างประเทศ สหรัฐฯ Darragh Paradiso กล่าวว่า สหรัฐฯมีความเทิดทูนต่อสถาบันกษัตริย์ไทยอย่างสูง ทว่าก็เป็นกังวลอย่างยิ่งในการดำเนินคดีและตัดสินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพล่าสุดของไทยที่ไม่ได้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลด้านเสรีภาพในการแสดงออก

ขณะที่อธิบดีสารนิเทศ กระทรวงต่างประเทศของไทยบอกว่าเป็นเพียง"ความเห็นส่วนตัว"ของโฆษกหญิงคนนี้เท่านั้น