โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
13 ธันวาคม 2554
เมื่อ เฉลิมลั่นปราบเวบหมิ่นฯ และของบจัดซื้ออุปกรณ์ตัดสัญญาณเวบไซด์จากเมืองนอกราคา 400 ล้านบาท ที่ได้ผลเกือบ 100% ในขณะที่ทางกระทรวง MICT ของไทยก็เปิดเผยด้วยความภาคภูมิใจว่า ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผู้ให้บริการอินเตอร์เนตยักษ์ใหญ่ในโลก ทั้ง Google,Facebok และ Youtube ในการลบคลิป และปิดผู้ใช้ที่ทางการไทยถือว่าพาดพิงสถาบันฯ
ความ โกลาหล อลม่าน และความกลัวที่จะถูกรังควาญและจับเข้าคุก ภายใต้ มาตรา 112 และ พรบ.คอมพิวเตอร์ ก็สั่นสะเทือนไม่ใช่เฉพาะแต่เมืองไทย แต่ลามไปยังประเทศโลกเสรีอย่างรวดเร็ว
ดวงจำปา แปลคำเตือนของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับผู้ต้องการเดินทางมาที่ราชอาณาจักรไทย และหลายประเทศก็เริ่มประกาศเตือนประชาชนของตัวเองแล้วให้ระวังมาตรา 112 และพรบ. คอมพิวเตอร์ของไทย
ทั้งนี้เธอยังได้ระบุถึงความห่วงใย ต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อรายได้จากการท่องเที่ยว
0 0 0 0 0
วันที่ 12 ธันวาคม 2554 เดลินิวส์ พาดหัวข่าว
"เฉลิม"ลั่นเตรียมปิด 200เว็บไทยเข้าข่ายหมิ่นสถาบัน ส่วนเว็บนอก ชง ครม.ซื้อเครื่องมือมูลค่า 400 ล้านป้องกัน"
" . . . ในประเด็นนี้หลายรัฐบาลได้ทำมา แต่ไม่สามารถจัดการอะไรได้ เนื่องจากมีการอ้างว่าเว็บไซต์เหล่านั้นมีการเปิดมาจากเมือนอก ซึ่งการดำเนินคดีเป็นไปได้ยาก และมีเว็บไซต์ที่เข้าข่ายหมิ่นสถาบันภายในประเทศไทยบ้าง แต่ไม่สามารถจับกุมได้ ฉะนั้นบุคคลใดพูดอย่างนี้ถือว่าโกหก ส่วนเว็บไซต์ในต่างประเทศนั้นห้ามไม่ได้จริง แต่ถ้ารู้ว่าไม่เหมาะสมสามารถบล็อกและตัดสัญญาณออกได้ ครั้งนี้รัฐบาลได้มอบหมายให้ตนและ ผบ.ตร.ดูแลเรื่องเกี่ยวกับการจัดการเว็บไซต์หมิ่นต่างๆ งานนี้จะไม่มีประชุมแต่เน้นจัดการทันที" . . .
"ทั้งนี้ในที่ ประชุมได้รายงานว่า กระทรวงไอซีที มีรายชื่อเว็บไซด์ ในไทย 200 แห่งที่เข้าข่ายหมิ่นสถาบันและสามารถสั่งปิดได้ในทันที โดยเตรียมพร้อมประสานงานกับตำรวจเพื่อดำเนินการแล้ว" . . .
อ่านรายละเอียดข่าวที่ เดลินิวส์
"คำเตือน ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางมาที่ราชอาณาจักรไทย"
บทความแปลโดย: ดวงจำปา
12 ธันวาคม 2554
ใน ขณะที่คุณอยู่ในราชอาณาจักรไทย คุณอยู่ภายใต้กฎหมายและการลงโทษของประเทศไทย ถึงแม้ว่า คุณจะเป็นพลเมืองสัญชาติสหรัฐอเมริกาก็ตาม ถ้าคุณฝ่าฝืนกฎหมายของประเทศไทย ถึงแม้ว่าจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ตาม คุณอาจจะถูกปรับ ถูกจับกุม ถูกจำคุก หรือ อาจจะถูกไล่ออกไปจากประเทศได้ กฎหมายต่างประเทศและระบบการยุติธรรมสามารถมีความแตกต่างกันมากกว่ากฎหมายของ ประเทศเราเอง ตัวอย่างเช่น ประชาชนไทยยกย่องให้ความนับถืออย่างสูงสุดต่อพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุ วงศ์ และมันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอาญาที่ร้ายแรงในประเทศไทย ต่อการวิจารณ์หรือทำการแสดงความเห็นหมิ่นกระมาทต่อบุคคลเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมเรื่องนี้ ที่เรียกกันว่า “การหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” ซึ่งมีบทลงโทษด้วยการถูกจำคุกตั้งแต่สามถึงสิบห้าปี การกระทำผิดกฎหมายในเรื่องนี้ รวมไปถึงลักษณะการกระทำที่ในประเทศสหรัฐอเมริกาอาจจะอนุญาติให้ในเรื่องของ การใช้เสรีภาพทางการพูด ถ้าคุณใช้อินเตอร์เนทต่ออาชญากรรมประเภทนี้ คุณอาจจะถูกลงโทษในทางอาชญากรรมเพิ่มมากกว่าเก่าอีกถึงเจ็ดปีในเรือนจำ ทางการของประเทศไทยได้มีความกระตือรือร้นต่อการตรวจและสืบสวนการโพสต์ในทาง อินเตอร์เนท รวมไปถึงการเขียนบล๊อกและส่งลิ้งค์ต่างๆ ไปยังเวปไซค์อื่นๆ ที่มีเนื้อหาในเรื่องของการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอยู่ด้วย ทางประเทศไทยได้กระทำการจับกุมและตั้งข้อหากับประชาชนที่มีสัญชาติ สหรัฐอเมริกาและสัญชาติอื่นๆ หลายคนด้วยข้อหาการกระทำผิดในเรื่องการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ถึงแม้ว่าการกระทำนั้นๆ จะเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรไทยก็ตาม คุณสามารถถูกตั้งข้อกล่าวหาได้ ถ้าคุณไม่นำเอาเรื่องที่คุณโพสต์ที่อาจจะเป็นการผิดกฎหมายออกไปจากรวดเร็วพอ สมควรจากเวปไซค์ทางอินเตอร์เนท ซึ่งคุณได้ใช้อยู่ การฉีกหรือทำลายธนบัตรไทยอย่างมีเจตนา ซึ่งมีรูปภาพของพระมหากษัตริย์อยู่ อาจจะถูกพิจารณาว่า เป็นการกระทำผิดกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ รวมไปถึงการถ่มน้ำลายหรือทำให้เครื่องแบบที่สวมเป็นทางการซึ่งมีเครื่องราช อิสริยาภรณ์ประดับอยู่เกิดความสกปรกด่างพร้อยหรือเปื้อนเปรอะด้วย
ความเห็นของผู้แปล:
เรื่อง นี้ ทางการของประเทศสหรัฐอเมริกาก็เตือนเรียบร้อยแล้ว รวมไปทั้งเวปไซค์อีกหลายๆ ประเทศ ก็มีการเตือนในเรื่องนี้เหมือนกัน กลุ่มที่น่าห่วงที่สุดคือ เจ้าของกิจการและธุรกิจการท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวเขาใช้คอมพิวเตอร์ในการสื่้อสาร โดยเฉพาะเวปของ social network ซึ่งสามารถแสดงรายละเอียดให้เห็นอย่างมากมายทีเดียว
ถึง แม้ว่า การเตือนเป็นเรื่องเกี่ยวกับ การเข้าไปในเวปไซค์ต่างๆ ก็ตาม (ไม่ต้องห่วงเรื่องอื่นๆ ที่ไม่เป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ) ก็เริ่มมีการประโคมข่าวกันทางต่างประเทศ เป็นทำนองที่ ต้องการให้เปลี่ยนการเดินทางออกไปที่ประเทศอื่นๆ แทน เพราะนึกว่า ทางประเทศไทย มีข้อมูลว่า บุคคลผู้นั้น เคยไปกดอะไรมาบ้าง ประเภทว่า มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้วจะถูกจับทันที อะไรทำนองนั้น
อย่า ลืมว่า ภาพพจน์นักท่องเที่ยวเขาทราบดีต่อการปฎิบัติและข่าวลือ ประเภทโหดๆ อย่างเช่น ทางประเทศจีน, ตะวันออกกลาง และรวมไปถึงเกาหลีเหนือด้วย
แต่ เพราะการเตือนของแต่ละประเทศ มีความแตกต่างกัน ความหวั่นต่อสถานการณ์ ทำให้การท่องเที่ยวอาจจะต้องถูกชะลอลงไป ประเทศเพื่อนบ้านก็ต้องได้รับ "ส้มหล่น" จากสถานการณ์แบบนี้ คือ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปประเทศอื่นๆ แทนได้ เช่น พม่า, กัมพูชา, ลาว หรือ เวียดนาม
มี อีกหลายๆ เวปที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเดินทาง ซึ่งเป็นของเอกชน ก็ลงบทความเตือนผู้เดินทางที่จะมาเยือนประเทศไทยด้วย ยิ่งการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทย ไม่ได้มีออกมาให้ชมมากนัก ก็ทำให้เกิดความสงสัยว่า นี่อาจจะเป็นแผนการของการเตรียมตัวปิดประเทศ ปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามา เป็นการทำลายเศรษฐกิจในทางอ้อม และ รัฐบาลก็คงจะหมดปัญญาแก้ไขทีหลังหรืออย่างไร?
ถาม ตรงๆ ว่า ทำไม กระทรวงการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ถึงเงียบเป็นเป่าสากอย่างนี้? คุณสามารถทำอะไรมาลบล้างหรือโปรโมทให้คนต่างชาติเขาเข้าใจ และคลายเคลียดในเรื่องเหล่านี้ได้หรือไม่?
ความ เสียหายที่เกิดจากการ สูญเสียรายได้การท่องเที่ยวนั้น มันอาจจะดูไม่มากในตอนแรกๆ แต่ถ้ามีการสะสมนานขึ้น ผลการเสียหายอาจจะเทียบเท่ากับการปิดสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ และ สนามบินนานาชาติดอนเมืองได้ทีเดียว
0 0 0 0 0