วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ถึงพวกอนุรักษ์นิยมและพรรคแพ้ซ้ำซากที่อยากล้มรัฐบาล

ที่มา thaifreenews

โดย Bugbunny

มี พรรคพวกเปรยกันมากมาย เกี่ยวกับความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดยกลุ่มอนุรักษ์นิยมขวาจัดเผด็จการ ที่เชิดพรรคประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทยอยู่ จึงอยากนำเสนอความเห็นถึงโอกาสของคนพวกนี้ที่จะล้มรัฐบาล ในแง่มุมต่าง ๆ เพื่อการเสวนากันดังนี้

เปลี่ยนแปลงโดยรัฐสภา


ยาก เพราะความพ่ายแพ้ย่อยยับของภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์ ทั้งที่มีตัวช่วยมากมาย เป็นผู้กุมอำนาจรัฐ แต้มต่อจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง การหนุนช่วยอื่น ฯลฯ แต่ปราฏว่าวันนี้พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลพรรคเดียวก็ได้ ภูมิใจไทยนั้น ประชาชนได้ให้บทเรียนที่เจ็บแสบมาก การลงทุนทุ่มเทในสนามของพรรคนี้ว่ากันว่าเทหน้าตักเล่นกันเลย แต่ก็ได้ สส.ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของเป้าหมาย อาการไข้ “รับเงินหมา กาเบอร์หนึ่ง” นั้นระบาดไปทั่ว จนผู้สมัครบางคน “จน” ไปเลย ดังนั้น โอกาสที่จะเกิด “เนรคุณ 2” จึงยาก สำหรับนักเลือกตั้งที่สังกัดพรรครัฐบาล แต่ลง สส.เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว เพราะโอกาสสอบตกและหมดตัวสูง ถ้าทำ “เนรคุณ 2” กันอีก ไม่ว่าจะหาสาเหตุอะไรมาทำก็ตาม

เปลี่ยนแปลงโดยการรัฐประหารของทหารเผด็จการและพวกอนุรักษ์นิยม


ลำบาก มาก ยิ่งถ้าผลักดันข้อเรียกร้องของคณะนิติราษฎร์กันทุกฝ่าย พวกนักรัฐประหารก็จะสยอง เพราะปัดสวะไม่พ้นตัวแน่หลังหมดอำนาจ แล้วยังมีผู้ต่อต้านการรัฐประหารทั้งในองคาพยพของชนชั้นปกครอง กองทัพ ภาคประชาชน แม้แต่พวกขวาจัดอนุรักษ์นิยมรุ่นใหม่เองก็ไม่สนับสนุน เพราะมีผลประโยชน์ระดับโลกเช่นกัน พวกเขาจึงต้องการรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น พวกนี้เจอบทเรียนอันหนักหน่วงหลัง 19 กันยา 49 ว่า ไม่สามารถพิทักษ์อำนาจในการรัฐประหารได้เลย เพราะต้องผจญการต่อต้านในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะภาคประชาชนวันนี้ที่เข้มแข็งกว่าตอนนั้นมาก ถ้าจะเสี่ยงก็ต้องพร้อมที่จะ “ชน”กับ ฝ่ายตรงข้ามทุกภาคส่วน ไม่ใช่เฉพาะประชาชน และจะสู้ได้จริงหรือ เพราะแม่ทัพนายกองเองนั้น ทุกคนมีบทเรียนกันทั้งนั้นที่จะเข้าด้วยเฉพาะกลุ่มที่ชนะ ประสบการณ์การรัฐประหารที่ผ่านมา พวก “บ้าเลือด” นั้นมีไม่มากคนอย่างที่พยายามสร้างภาพกันหรอก

เปลี่ยนแปลงโดยพวกแก๊งค์หน้าเก่า ๆ รวมทั้งองค์กรอิสระและตุลาการวิบัติ

มี โอกาสแต่ลำบากมาก เพราะแม้คนพวกนี้จะสร้างสถานการณ์และส่งสัญญานมาให้เห็นเป็นระลอก ๆ ผ่านขบวนการอยุติธรรม กกต. กลุ่ม สว.ลากตั้ง กลุ่มเฒ่าสารพัดพิษ กลุ่มสื่อชั่ว พวกนักปลุกระดม ฯลฯ เพื่อก่อมติมหาชนต่อต้านรัฐบาล ก็ยังไม่อาจก่อกระแสได้เลย แม้แต่เรื่องที่รัฐบาลน่าจะเพลี่ยงพล้ำมากอย่างเรื่องน้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา ก็ยังแป้ก แม้จะระดมกันทุกแนวทาง อย่าง TPBS โหมแสดงภาพความลำบากของประชาชน กลุ่ม สว.สวะ ก็ใช้อาจารย์ในเครือข่ายของออกมาจะฟ้องศาลปกครองล้มรัฐบาลก็ไม่มีใครเอาด้วย อภิปรายไม่ไว้วางใจก็หน้าแตกกันทั้งพรรคแพ้ซ้ำซาก แถมยังโดนกระแทกกลับหมดสภาพไปหลายคน ฯลฯ อันที่จริงแล้วถึงแม้จะเล่นงานนายกด้วยกฎหมายและตุลาการวิบัติได้ ก็ตั้งรัฐบาลที่ตัวเองชอบไม่ได้ เพราะนายก ฯ อาจยุบสภาเลือกตั้งใหม่แทนการลาออก หรือไม่ก็มีคนอื่นพร้อมที่จะเป็นนายก ฯ อีกมากมาย เอากันถึงขั้นยุบพรรคไปเลย ก็รู้ดีว่าพรรคสำรองนั้นมีพร้อมอยู่มากมายแล้ว หรือให้นายกมาจากพรรคร่วมก็ได้ เพราะรัฐธรรมนูญบอกว่านายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง ฯลฯ

ถึงตอน นี้การที่คนพวกนี้จะทำให้พวกตัวเองมาเป็นรัฐบาลได้นั้นคงมีวิธีเดียว คืออ้างข้อมูลและแหล่งที่มาที่คิดกันเองว่าประชาชนคงปฏิเสธไม่ได้ มาอ้างว่ามีความต้องการให้รัฐบาลนี้ออกไป แต่คำถามก็คือ ข้อมูลนั้นปฏิเสธไม่ได้จริงหรือ และมีพลังเพียงพอหรือ สำหรับวันนี้ในหมู่ประชาชน ด้านนานาชาติก็ยืนยันสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ดูกระแสโลกต่อรัฐบาลนี้กันได้ ถ้าจะทำกันจริง ก็เชื่อได้ว่าโลกได้รู้จัก “รัฐบาลไทยพลัดถิ่น”แน่นอนคราวนี้ มีคนพร้อมตั้งขึ้นมาสู้จากหลายแหล่งทั่วโลกแล้ว

ก็ ไม่รู้ว่าจะตื๊อหน้าด้านกันไปทำไม รออีกสี่ปีสิ แค่นี้พวกคุณยัง “ฉิบหาย” กันไม่พอกันอีกหรือ ถ้าต้องการจะไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดไปตลอดกาลนานก็เชิญ เราเตือนคุณแล้ว


Re:

โดย ลูกชาวนาไทย

"ข้อมูลทีปฎิเสธ" ไม่ได้ วันนี้หมดสภาพแล้วครับ
แม้จะยังมีพลังหลงเหลืออยู่ แต่ถามจริงๆ ว่า "เหลืออยู่เท่าใด" เหลือพอที่จะเปลี่ยนแปลงอะไร หรือทำให้ใคร "ปฎิเสธไม่ได้" หรือไม่

วันนี้ผมว่า "ประชาชนเขาปฎิเสธ" ข้อมูลนั้นไปเรียบร้อยแล้ว เรียกว่า สภาพการชี้นำนั้นหมดลงไปอย่างสิ้นเชิง

ผมฟันธงเลยว่า "อำนาจนั้น" หมดพลังการชี้นำมวลชน่แล้ว
เพียงแต่เรา ชนชั้นนำของไทย รวมทั้งทักษิณและคนจำนวนมาก ยังไม่ได้สรุป "บทเรียน" ว่าอะไรคืออะไรให้ชัดเจนเท่านั้น

ผมคิดว่า วันนี้คุณทักษิณควรสรุปประเด็นต่างๆ ให้ชัดเจน เช่น อำนาจของ พล.อ.เปรมนั้น "ยังมีอยุ่จริงๆ แค่ไหน"
ลองวิเคราะห์ให้ชัดเจนกันไปเลย

คือ สรุปต้องใช้มาตราการ "ชั่ง ตวง วัด" อำนาจแฝงเหล่านี้ให้ชัดเจน ว่ามีเหลืออยู่เท่าใด แล้วการเคลื่อนไหวจะได้กำหนดยุทธศาสตร์ได้ถูกต้อง

ไม่ ใช่ประเมินด้วยภาพลวงตา หรือประเมินแบบ Halo Effect คือประเมินมากเกินจริง คิดว่าฝ่ายตรงข้ามใหญ่โตเกินความเป็นจริง เหมือนนกยูงรำแพน ที่ดูเหมือนตัวใหญ่มาก แต่จริงๆ แล้ว ตัวแค่เท่ากำปั้น

วันนี้พวกเขาทำรัฐประหารไม่ได้ ตุลาการวิบัติก็ไม่สะเด็ดน้ำ

อิทธิพลต่อ ประชาชนในระดับที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือ "ยับยั้งการเปลี่ยนแปลง" ก็ไม่มีถึงระดับนั้นเหมือนในอดีต

วันนี้ต้องประเมิน สภาพจริงๆ ของฝ่ายตรงข้ามเสียที

ส่วน ตัวผมเอง ฟันธงว่า พวกเขาแพ้หมดรูปแล้ว แนวรบพังทะลายหมดสิ้นแล้ว หากอิทธิพลต่อมหาชนในระดับที่ทำให้เกิดหรือไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงหายไป ในสงครามทางการเมืองคือแพ้แล้ว

ปัญหาคือ แนวรบทางอำนาจบารมีของพวกเขาพังทะลายรวดเร็วเกิน จนฝ่ายทักษิณ ประเมินไม่ทัน รุกไม่ทัน ที่จริง ลุยแก้
กฎหมายหรือ รธน. จริงๆ จังๆ อีกอีกยกหนึ่ง แนวรบของฝ่ายตรงข้ามจะ "ล่มสลายทันที"