ที่มา ประชาไท
Thu, 2012-07-26 16:50
26 ก.ค.55 คณะทำงานการพัฒนาคุณภาพชีวิต สาธารณสุขและคุ้มครองผู้บริโภค
สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จัดแถลงข่าวเรื่องการเสนอ (ร่าง)
ความเห็นและข้อเสนอแนะ เรื่อง “รักษามะเร็งมาตรฐานเดียว
ข้อเสนอเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในระบบหลักประกันสุขภาพของไทย” พร้อมด้วย
(ร่าง) ความเห็นและข้อเสนอแนะ เรื่อง “การสร้างความเป็นธรรมด้านสุขภาพ :
กรณีศึกษาการพิจารณาความเหมาะสมในการเรียกเก็บค่าบริการร่วม 30 บาท ณ
จุดบริการด้านสุขภาพในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” ณ ห้องแถลงข่าว ขั้น 3
สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ
ศาสตรเมธี ดร.สุปรีดิ์ วงศ์ดีพร้อม ประธานคณะทำงานการพัฒนาคุณภาพชีวิตฯ
สภาที่ปรึกษาฯ
เผยจากการทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับระบบประกันสุขภาพของไทย
โดยสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข
พบว่าคนไทยเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งและเนื้องอกเป็นอันดับหนึ่ง
แม้ประเทศไทยจะเข้าถึงระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าแล้ว
แต่ยังคงมีความเหลื่อมล้ำในการรักษาพยาบาลอันเนื่องมาจากความแตกต่างด้านการ
บริหารงาน เช่น สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ อัตราการจ่ายเงินให้หน่วยบริการ
ยาที่ได้รับ เป็นต้น สภาที่ปรึกษาฯ โดยคณะทำงานการพัฒนาคุณภาพชีวิตฯ
เล็งเห็นว่า รัฐบาลควรดำเนินการรักษาโรคมะเร็งมาตรฐานเดียว
เพื่อให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยมะเร็ง
จึงเสนอความเห็นและข้อเสนอแนะเรื่องดังกล่าว โดยมีสาระสำคัญคือ
1. ปรับสิทธิประโยชน์
และวิธีการรักษามะเร็งทุกโรคให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยเฉพาะยาราคาแพง
ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้ง 3 ระบบ (1).ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
2).ระบบประกันสังคม 3).สวัสดิการของข้าราชการ รัฐวิสาหกิจและบุคลากรของรัฐ)
โดยเป็นแบบเดียวกับระบบที่ดีที่สุด
2. ปรับวิธีจ่ายเงินให้หน่วยบริการ
โดยเฉพาะวิธีจ่ายเงินสำหรับการรับยามะเร็งแบบผู้ป่วยนอกให้เป็นลักษณะเฉพาะ
อัตราเดียวกัน แยกจากงบประมาณเหมาจ่ายรายหัว
เนื่องจากเป็นการรักษาที่มีราคาแพง สำหรับการจ่ายเงินแบบผู้ป่วยใน
ให้จ่ายอัตราต่อน้ำหนักสัมพัทธ์ที่เท่ากัน
3. ขอให้ทั้ง 3 กองทุน
จัดงบประมาณให้ความสำคัญกับการรณรงค์ให้สุขศึกษาประชาสัมพันธ์
และคัดกรองกลุ่มเสี่ยง เช่น การใช้สารเคมีในอาหาร
การตรวจอุจจาระเพื่อหาไข่พยาธิใบไม้ตับ เป็นต้น
ด้านนายอนันต์ เมืองมูลไชย สมาชิกคณะทำงานการพัฒนาคุณภาพชีวิตฯ
เตรียมยื่นความเห็นและข้อเสนอเพื่อคัดค้านนโยบาย “โครงการ 30
บาทรักษาทุกโรคด้วยการพัฒนาทั้งระบบ” ซึ่งมีการเรียกเก็บค่าบริการร่วม 30
บาท ณ จุดบริการด้านสุขภาพ
เนื่องจากการขอรับบริการด้านสุขภาพของประชาชนในแต่ละครั้งนั้นมีค่าใช้จ่าย
อื่นๆ ที่นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลด้วย เช่น ค่าเดินทาง
ค่าอาหาร เป็นต้น การเรียกเก็บค่าบริการร่วม 30 บาท
เป็นการเพิ่มภาระของประชาชนที่มีรายจ่ายน้อย
อีกทั้งข้อมูลและผลการสำรวจรายจ่ายด้านสุขภาพของครัวเรือนพบว่า
ประชาชนในกลุ่มที่ยากจนถึงยากจนที่สุดต้องแบกรับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่สูง
กว่าประชาชนที่มีฐานะดี
ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความไม่เสมอภาคด้านสุขภาพในกลุ่มที่มีฐานะแตกต่างกัน
ดังนั้น สภาที่ปรึกษาฯ โดยคณะทำงานการพัฒนาคุณภาพชีวิตฯ
จึงเสนอความเห็นและข้อเสนอแนะ เพื่อคัดค้านนโยบายดังกล่าว คือ
ให้ยกเลิกการนำนโยบายเรียกเก็บเงิน 30 บาท ณ จุดบริการสุขภาพกลับมาใช้
และเร่งรัดการพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศให้เกิดคุณภาพมาตรฐานเดียว
และลดความเหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรม
ทั้งในเรื่องสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างของแต่ละกองทุน
รวมทั้งกรณีที่ประชาชนบางกลุ่มยังต้องจ่ายเงินสมทบค่าดูแลรักษาสุขภาพของตน
เอง ในขณะที่คนส่วนใหญ่ของประเทศไม่ต้องจ่ายค่าดูแลรักษาสุขภาพ
เนื่องจากประชากรไทยทุกคนต้องแบกรับภาระในการจ่ายภาษีโดยเท่าเทียมกัน