ที่มา ประชาไท
Tue, 2012-09-25 03:01
ปมปัญหา
ปัญหาสำคัญในการแก้ไขเพื่อให้เกิดการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องไม่จำกัดขอบ
เขตเอาไว้เฉพาะเพียงความขัดแย้ง “ทางการเมือง/เฉพาะหน้า/ระหว่างสี”
เท่านั้น
เพราะจะทำให้การพิจารณาถึงรัฐธรรมนูญวางอยู่บนปมขัดแย้งทางการเมืองแต่เพียง
อย่างเดียวและนำไปสู่ความไม่ไว้วางใจ>>การคัดค้าน>>การต่อต้าน
และถึงแม้จะสามารถแก้ไขหรือร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้บังเกิดขึ้นแต่ก็พร้อม
ที่จะถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงในภายหลังได้โดยไม่ยากลำบาก
ในด้านหนึ่ง
รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีปัญหาอย่างสำคัญทั้งในแง่ของความชอบธรรมของการ
กำเนิดขึ้น และทั้งในด้านโครงสร้างขององค์กรและสถาบันต่างๆ
ที่ไม่สอดคล้องกับหลักการในระบอบประชาธิปไตยที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข
ปรับปรุง
แต่สังคมไทยมีปัญหาที่นำมาซึ่งความขัดแย้งอีกหลายประการ
ไม่ว่าจะเป็นความเหลื่อมล้ำระหว่างบุคคล การรวมศูนย์อำนาจรัฐ ดังนั้น
รัฐธรรมนูญจึงควรเป็นกรอบกติกาในการต่อรองระหว่างกลุ่มต่างๆ
ที่ไม่จำกัดเฉพาะปัญหาของโครงสร้างสถาบันการเมืองเท่านั้น
อันอาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างกลุ่มหรือสีบังเกิดขึ้นอีกครั้ง
จึงควรต้องพิจารณารัฐธรรมนูญในฐานะของเครื่องมือในการวางกฎเกณฑ์ที่จะให้แต่
ละกลุ่มแต่ละฝ่ายสามารถเข้ามาต่อรองและแข่งขันให้อย่างกว้างขวางและเป็นธรรม
มากที่สุดในประเด็นต่างๆ ที่กว้างขวางมากขึ้น
และกลายเป็นกติกาในการวางขอบเขตสิทธิเสรีภาพของแต่ละฝ่าย
อันจะทำให้รัฐธรรมนูญมีความหมายและมีชีวิตมากขึ้นกว่าเพียงบทบัญญัติที่ไม่
มีความสำคัญแต่อย่างใด
ประเด็นที่ควรพิจารณา
ประเด็นแรก
โครงสร้างสถาบันทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ
จะต้องถูกปรับให้สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย
โดยทั้งนี้มีสาระสำคัญคือต้องยอมรับอำนาจนำของสถาบันการเมืองจากระบบเลือก
ตั้ง แต่ต้องมีกระบวนการตรวจสอบและควบคุมการใช้อำนาจในทางการเมืองด้วย
สำหรับองค์กรอิสระจะต้องปรับโครงสร้างให้มีความสัมพันธ์และความรับผิดต่อ
ประชาชนได้ในการปฏิบัติหน้าที่ของตน
เพื่อไม่ให้เกิดการใช้อำนาจไปในทางที่ไม่เป็นธรรมและเอื้อประโยชน์ให้กับ
เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ประเด็นที่สอง การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นและชุมชน
ต้องยอมรับสิทธิในการปกครองของท้องถิ่นและชุมชนในรูปแบบต่างๆ
เพื่อให้เกิดการตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายในแต่ละพื้นที่
โดยต้องยอมรับสิทธิของชุมชนและอำนาจในการจัดการท้องถิ่นของตนเอง
อำนาจในการจัดการทรัพยากร และเลือกตั้งผู้นำของตนเองในทุกระดับ
ด้วยการยกเลิกการบริหารราชการส่วนภูมิภาคเหลือเพียงราชการส่วนกลางและส่วน
ท้องถิ่นเต็มพื้นที่ดังเช่นนานาอารยประเทศทั้งหลาย
ประเด็นที่สาม สร้างความเท่าเทียมและลดความเลื่อมล้ำในสังคม
ความแตกต่างระหว่างบุคคลและกลุ่มต่างๆ
เป็นปัญหาที่หยั่งรากลึกลงในสังคมไทยมาอย่างยาวนานโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคน
ตัวเล็กในสังคม และนับวันจะสร้างความขัดแย้งให้เกิดรุนแรงมากยิ่งขึ้น
จึงจำเป็นต้องมีการรับรองสิทธิในปัจจัยและความจำเป็นพื้นฐานของบุคคลรวมไป
ถึงการใช้มาตรการต่างๆ
เพื่อนำไปสู่การทำให้เกิดความเท่าเทียมอย่างเป็นธรรมขึ้น
ประเด็นที่สี่
สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนต้องได้รับการปกป้องโดยกระบวนการยุติธรรม
ที่มีประสิทธิภาพและเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในกระบวนการยุติธรรม
สิทธิจากการถูกละเมิดโดยอำนาจรัฐอย่างฉ้อฉล
รวมทั้งต้องสร้างกระบวนการในการควบคุมและตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐอย่างเข้ม
งวด
ทั้งนี้เสรีภาพในการแสดงความเห็นต้องได้รับการปกป้องอย่างเข้มแข็ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสรีภาพในการแสดงความเห็นของประชาชนต่อสถาบันการเมืองต้อง
ถือเป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชน
ต้องปราศจากกฎหมายเฉพาะที่ส่งผลต่อการห้ามการวิพากษ์วิจารณ์อย่างชอบธรรม
กระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นอำนาจอำนาจของรัฐสภาที่สามารถจะกระทำได้
ทั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและจารีตประเพณีที่ปฏิบัติกันสืบเนื่องต่อมา
ในการจัดทำรัฐธรรมนูญหลายฉบับแต่ทั้งนี้ควรเพิ่มหลักการมีส่วนร่วมและอำนาจ
ตัดสินใจของปวงชนเข้าไปในกระบวนการนี้
หลักการมีส่วนร่วม นำหลักการในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.
2540 คือ การทำให้เกิดการมีส่วนร่วมอย่างกว้างให้เกิดขึ้น
ทั้งนี้ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการทำให้ประชาชนจะได้เข้ามาเป็นส่วน
หนึ่งของรัฐธรรมนูญ โดยต้องเปิดให้เกิดการมีส่วนอย่างกว้างขวางจากทุกฝ่าย
นับตั้งแต่การคัดเลือกบุคคลเข้ามาทำหน้าที่
ขั้นตอนในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ การรับฟังความคิดเห็น
หลักอำนาจอธิปไตยของปวงชน
ในขั้นตอนของการจะประกาศใช้รัฐธรรมนูญต้องมีการลงประชามติจากประชาชน
โดยในขั้นตอนนี้ต้องเปิดโอกาสให้มีการเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ การโต้แย้ง
การวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างกว้างขวางก่อนที่จะมีการลงประชามติเกิดขึ้น
เพื่อให้เป็นประชามติที่ประชาชนได้ใช้ศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่