ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เศรษฐกิจพาที
วิกฤตการเงินโลกยังไม่ถึงจุดต่ำสุดตามคำทำนายของสถาบันการเงินระหว่างประเทศหลายเจ้า ทั่วโลกจึงต้องระดมสรรพกำลังอัดฉีดเม็ดเงินก้อนโตกันอีกหลายระลอก ขณะที่ไทยเพิ่งจะเทก้อนแรกไปแสนล้านบาท
แค่ก้อนเดียวก็ทำเอากระเป๋าเงินหลวงยอบแยบไปทีเดียว โดยหลายฝ่ายเริ่มออกมาส่งเสียงเตือนให้ระวังการใช้จ่าย กลัวว่าสิ้นปีขาดดุลงบประมาณบวกกับรายได้หด อาจส่งผลให้หนี้สาธารณะทะลุเกือบชนเพดาน 50% ของจีดีพี
แต่หากผลของเม็ดเงินที่ทุ่มลงไปสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศได้จริงก็ต้องซูฮก จะเพิ่มอีกเท่าไหร่ประชาชนผู้เสียภาษีก็คงไม่ว่า
ที่อยากจะว่าคงเป็นเรื่องของเม็ดเงินจากการใช้ที่ไร้ประสิทธิภาพ ติดตามผลและประเมินไม่ได้ จากกลุ่มลิ่วล้อนักการเมือง หรือกลุ่มคนที่มากับรัฐมนตรียามนายเป็นใหญ่เป็นโต
ล่าสุดที่กระทรวงการคลัง ข้าราชการกระทรวงยังปิดบัญชีเบิกจ่ายของป "51 ไม่ได้ เพราะไม่สามารถตามเก็บเงินกับผู้ติดตามนักการเมืองที่เกาะแข้งอดีตขุนคลัง น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ช่วงเดินทางไปอเมริกาเพื่อร่วมประชุมกับธนาคารโลกเมื่อปีก่อน
ตอนนั้นอ้างว่าขอจ่ายไปก่อนจะตามชำระคืนภายหลัง แต่เมื่อเปลี่ยนรัฐมนตรีคนเหล่านี้หายเข้ากลีบเมฆ ตามตัวไม่ได้
นั่นคืออดีตที่ย้อนไปแก้ไขไม่ได้
แต่ปัจจุบันกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมเหล่านี้ มีมากจะทะลักกระทรวง