ที่มา ไทยรัฐ
ไม่รู้ว่ากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีงบประมาณมากมายจนเหลือเฟือซื้อของแจกชาวบ้านไม่หมดเสียที บางรายการงานจบไปแล้วยังไม่ได้เอาของไปแจก
อย่างที่โคราชนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ที่กำลังเด่นดังจากค่ายเพื่อนเนวิน ก็ไปสร้างวีรกรรมสะท้านเมืองอีกแล้วด้วยการนำของ เงินหัวละ 500 บาท แจกชาวบ้านซึ่งเป็นเงินจากกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ไม่ใช่เงินของกระทรวงมหาดไทย ไม่ใช่เงินของนายบุญจง
แต่นายบุญจงมีทีเด็ดกว่าคือมีการแนบนามบัตรของตัวเองแจกให้ชาวบ้านด้วยอ้างว่าชาวบ้านร้องขอเพื่อจะได้ติดต่อหากมีปัญหาที่จะต้องร้องเรียนหรือได้รับความช่วยเหลือ
“นามบัตร” ก็เลยกลายเป็นปัญหา
เพราะมีข้อสงสัยว่าการกระทำของนายบุญจงนั้นอาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญแม้จะเป็นของทางการแต่การติด “นามบัตร” ไปด้วยการเท่ากับว่าเป็นการหาเสียงโดยไม่ต้องใช้เงินตัวเองทำนองว่าซื้อเสียงล่วงหน้าไม่มีผิด
ว่าที่จริงแล้วหากไม่ใช้นามบัตรติดไปด้วยก็ไม่น่ามีปัญหาเนื่องจากเป็นเงินของราชการที่ช่วยเหลือชาวบ้านและชาวบ้านก็รู้อยู่แล้วว่าใครมอบให้ก็ได้คะแนนไปแล้ว
แต่วิสัยนักการเมืองชอบตอกย้ำให้ชาวบ้านรู้สึกว่านี่เป็นบุญคุณที่ต้องไม่ลืมและเพื่อกันลืมจึงต้องแนบนามบัตรไปด้วย
เรื่องแบบนี้เคยเกิดมาแล้วมีการนำเงิน 120 บาท แนบติดกับแผ่นพับหาเสียงระหว่างเลือกตั้งปี 2538 ทำให้เกือบหมดอนาคตการเมืองมาแล้ว
ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนคนบุรีรัมย์ “ลูกพี่” รัฐมนตรีบุญจงนี่แหละ
อย่างไรก็ดี กรณีลูกน้องคงต้องรอ ป.ป.ช.ดำเนินการสอบสวนเพราะมีการร้องให้ตรวจสอบแล้วว่าพฤติกรรมที่ว่านี้ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากขัดรัฐธรรมนูญก็ต้องตกเก้าอี้รัฐมนตรีทันทีหมดอนาคตการเมืองไปอีกคน
เหนืออื่นใด ก่อนจะมาถึงเรื่องนี้ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ อีกเช่นกันมีการนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วม ปรากฏ ชาวบ้านที่พัทลุงเจอดีเพราะถุงยังชีพที่ว่านั้นเอาใส่ของไม่ดีไปแจก
“ปลากระป๋องเน่า” ก็เลยกลายเป็นเรื่องของ “นักบุญคนบาป” ไปเสียฉิบ
ข้อสำคัญก็คือว่าเมื่อเรื่องนี้ถูกชาวบ้านปูดออกมา แต่ปรากฏว่าทางกระทรวงไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าปลากระป๋องเน่ามีความเป็นมา อย่างไร เป็นการบริจาคหรือกระทรวงจัดซื้อเองและทำไมต้องเน่า
นายวิฑูรย์ นามบุตร รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง ซึ่งเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ต้องการหาเสียงสร้างผลงานก็คว้าถุงยังชีพหมกเม็ดแจกชาวบ้านทันที ผลมันก็เลยออกมาอย่างที่เห็นขณะที่เจ้าตัวก็ไม่สามารถตอบสังคมถึงที่มาของปลากระป๋องเน่านี้ได้
แรกๆบอกว่ามาจากการบริจาคและเปิดเผยชื่อคนบริจาคด้วย ปรากฏคนที่ถูกระบุชื่อโวยลั่นไม่ใช่ของเขา ขณะที่ฝ่ายค้านเชื่อว่านักการเมืองมีเอี่ยวและไม่ใช่การบริจาคแต่เป็นการจัดซื้อเพื่อบริจาคมากกว่า
มีการระบุชื่อย่อคนที่เกี่ยวข้องออกมาหลายคนทั้ง (อ.)-(ช.)-(ร.)-(จ.) ซึ่งระบุว่าใกล้ชิดกับนักการเมืองที่รับผิดชอบเรื่องนี้
ทั้ง 2 เรื่อง 2 รสนี้ดูเหมือนว่าทำให้รัฐบาล “งานเข้า” ไปตาม ระเบียบ แม้ระดับแกนนำจะพยายามไม่ปริปากหรือพูดถึงมากนัก
จากข้อเท็จจริงปรากฏด้วยนอกจากปลากระป๋องเน่าอะไรต่อมิอะไรที่กระทรวงนี้มันจะเน่าไปด้วยผลประโยชน์ทั้งนั้น
ที่นี่คงจะต้องล้างบางกันแล้วล่ะครับ...
“สายล่อฟ้า”