วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2552

ขอบคุณมูดี้ส์

ที่มา เดลินิวส์

หนูอย่างทักษิณยังมีฤทธิ์ไม่หยุด แม้เป็นสัมภเวสีเร่ร่อนไปที่นั่นที่นี่ บางประเทศอย่างอังกฤษ ก็ถอนวีซ่าไปแล้ว แต่ก็ยังเป็นหนามแหลมทิ่มรัฐบาลอยู่ ขนาดมีข่าวว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เตรียมประสานไปที่จีน

ให้จับตัวทักษิณ ส่งมาไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน

หลังมีข่าวไปพูดที่สโมสรผู้สื่อข่าวในฮ่องกงวานนี้ แต่คิดดู หากตำรวจฮ่องกงจะจับทักษิณ ก็ต้องใส่กุญแจมือ จับตัวขึ้นเครื่องบิน แล้วส่งกลับ จะดีจะชั่ว ทักษิณก็เป็นอดีตนายกฯที่ถูกปฏิวัติ คดีที่โดนอยู่ เจ้าตัวก็ยืนยันเป็นคดีการเมือง จีนคงไม่อยากให้เกิดภาพนี้ เพราะมีจุดอ่อนเรื่องสิทธิมนุษยชนอยู่แล้ว

ยิ่งตอนนี้ แม้วเป็นพลเมืองพิเศษของ “นิการากัว” และไปทำธุรกิจโทรศัพท์มือถือที่นั่นกับอีก 7 ชาติ แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่าเป็นพลเมืองพิเศษที่ว่า

อาจเกิดปัญหาระหว่างประเทศตามมา ก็ได้

สรุป ที่รัฐบาลมาร์คจะให้จีนจับตัวส่งกลับมาไม่ง่าย นี่ยังไม่นับ มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่

ทักษิณก็คงได้เป็นสัมภเวสีต่อไป และยังเป็น “หนู” ที่คอยยั่ว “แมว” ให้ประสาทรับประทานได้อีกนาน

แต่ที่ปิดฉากไปแล้ว คือการเป็นเจ้าภาพประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน โดยกลุ่มเสื้อแดง ประกาศสลายตัวตั้งแต่คืนวันพฤหัส 27 ก.พ. โน่น หลังล้อมทำเนียบ 3 วัน เพื่อร่วมเป็นเจ้าภาพด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี รัฐบาลเองก็ควรได้รับคำชม ที่หลีกเลี่ยงการปะทะ

เพราะต่างถือว่า อาเซียน ซัมมิท เป็นผลประโยชน์ชาติ เหนืออื่นใด ไทยมีคติ ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ เชื่อว่าผู้เข้าร่วมประชุมคงประทับใจกับการเป็นเจ้าบ้านที่ดีของคนไทยไปแล้ว

แต่นั่นล่ะ อย่างที่บอก คนละเรื่องกับการเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน ซึ่งมีปัจจัยอีกมาก นอกจากจัดประชุมอาเซียนซัมมิทสำเร็จ เมื่อ บริษัท มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ระบุว่า

เศรษฐกิจไทยส่อเค้าวิกฤติหนักสุดในเอเชีย !!!

มูดี้ส์ระบุว่า เหตุที่ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจไตรมาส 4 ของไทยย่ำแย่หนัก เพราะราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ส่งออกลดลง ทั้งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และยานยนต์ ยิ่งกว่านั้น คือการยึดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองในเดือนพฤศจิกายน ส่งผลกระทบสำคัญต่ออุตสาห กรรมท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งรายได้จำนวนมาก ปัจจัยเหล่านี้นำไปสู่การลดค่าใช้จ่ายของประชาชน รวมถึงลดการลงทุนของนักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ

นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมาสวนทันควัน ไม่รู้มูดี้ส์ใช้อะไรวัด เพราะตัวเลขต่าง ๆ ยังไม่เห็นจุดไหนมีปัญหาเป็นพิเศษ (ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ธาริษา วัฒนเกส ออกมายอมรับ เศรษฐกิจจะติดลบ 4 ไตรมาส และอาจจะถดถอยไปอีก 2 ปี) โดยไม่กล้าเอ่ยซักแอะว่า การปิดสนามบินส่งผลร้ายต่อชาติแค่ไหน กลับออกไปทางปกป้อง และหาทางช่วยด้วยซ้ำ เช่น จะเสนอกฎหมาย ใครปิดสนามบินปรับ 500 บาท แล้วต่างชาติจะเชื่อมั่นได้ไง

ก็ยังดี ไม่โยนบาปว่า เพราะแม้วจ้างมูดี้ส์ดิสเครดิตไทย แต่ถึงปากแข็ง ก็ขาสั่น วันรุ่งขึ้น เรียกประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ หามาตราการกอบกู้เศรษฐกิจไตรมาส 3 ไม่ให้ติดลบ และให้เป็นบวก ในไตรมาส 4 ทันที

อย่างนี้คนไทยควรขอบคุณมูดี้ส์ด้วยซ้ำ เพราะทำให้รัฐบาล ไทยก้นร้อน นั่งไม่ติด จากเดิมเฉื่อยแฉะ หลงระเริงกับการแจกเงิน หาเสียง แต่ก็น่าผิดหวัง เพราะผลประชุมคือ จะกู้เงินเพิ่มอีก 7 หมื่นล้าน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.เพื่อไทย บอก การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะเกิดขึ้นคงไม่ชนะ เพราะรัฐบาลเสียงมากกว่า แต่อีก 3 เดือนจากนี้ รัฐบาลจะไปเอง เพราะแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้

ก็ดูวิธีแก้ปัญหาของเด็ก 2 คนสิ จนป่านนี้ ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แล้วไทยจะรอดหรือเนี่ย???.

ดาวประกายพรึก