วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2552

คนเคยทำธุรกิจอย่างทักษิณมีกึ๋นมากกว่าคุณหนูทำงานไม่เป็นอย่างกรณ์อภิสิทธิชัดเจน

ที่มา thaifreenews

บทความ โดย Bugbunny

ผมฟังสิ่งที่คุณทักษิณโฟนอินเรื่องเศรษฐกิจครับ และในฐานะที่เข้าใจมาร์เกตติ้งในระดับหนึ่ง อยากบอกว่า การหาตลาดใหม่อย่างอัฟริกา และการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ไปสร้างงานโดยไม่กู้แบ๊งค์ถ้าทำได้นั้น เป็นหลักการที่ถูกต้องในความเห็นของนักการตลาดทั่วไปแน่นอน

เพราะเมื่อตลาดที่มีอยู่เกิดการหดตัว กำลังซื้อลดลง ก็ต้องหาตลาดใหม่มาแทนที่ กำลังซื้ออาจไม่มากเท่าที่เคยมีในตลาดเดิม แต่ถ้าพัฒนาต่อไปก็จะเติบโตขึ้น ส่วนตลาดเดิมต้องรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้เพราะเป็น Bread and Butter แม้ตลาดใหม่จะสามารถเป็น Bread and Butter ใหม่ได้แล้ว ตลาดเก่าก็ไม่ควรละทิ้ง ยกเว้น Expense ในการรักษาตลาดจะสูงเกินไปจนไม่คุ้ม อย่างกรณีศักยภาพของ GDP ในภาคใต้รวมกันไม่ถึงแสนล้าน แต่ทะลึ่งทุ่มการลงทุนลงงบประมาณไปแสนล้าน เป็นการใช้จ่ายแบบศักดินาอำมาตย์ คือเอาหน้าไว้ก่อน ขอให้พวกเราได้ครองการเมืองภาคใต้ก็แล้วกัน ฉิบหายเท่าไหร่ช่างมันอย่างชัดเจน เจ๊งก็ไม่เป็นไรเราไปรีดที่อื่นมาโปะต่อ ขอให้ฐานเสียงแน่นก็แล้วกัน ยกเว้นว่าจะมี Potential มากพอที่จะเติบโตในสามหรือห้าปีข้างหน้าก็คุ้มลงทุนเพราะเฉลี่ยแล้วจะใช้เงินปีละสองหมื่นล้านเท่านั้น

เรื่องการเอาเงินคงคลังแสนกว่าล้านเหรียญมาให้รัฐบาลกู้เองแทนการกู้แบ๊งก์นั้น ถ้ารัฐบาลมั่นใจในฝีมือการทำงาน ย่อมดีกว่ากู้เงินนอกแน่ เพราะคิดง่าย ๆ ครับ ถ้าคุณกู้แบ๊งค์คุณเสียดอกเบี้ยอย่างเดียว แต่ถ้าเอาเงินของคุณเองที่เก็บฝากแบงก์ได้ดอกเบี้ยนิดหน่อยมาให้บริษัท ฯ กู้ขยายงานเพราะมั่นใจว่าโปรเจคของคุณกำไรชัดเจนแน่ ดอกเบี้ยที่คุณได้จะมากขึ้นกว่าที่คุณฝากแบ้งก์ แต่ดอกเบี้ยเงินกู้ที่คุณจะเสียให้ตัวคุณเองจะน้อยลงเพราะมันต้องหักดอกเบี้ยที่คุณเคยได้จากฟิกซ์เดโพสิทที่อยู่ในแบงก์ออกด้วย จริง ๆ คุณอาจจะกู้แบ๊งก์นั้นเองก็ได้ เพราะเงินฝากของคุณมันค้ำประกันเงินกู้ที่คุณจะเอาออกจากแบ๊งก์ได้อยู่แล้ว พวกแบงก์เรียกว่ากู้เงินตัวเอง และแบงก์มันไม่ยอมให้กู้หมดหรอกครับ หินจะตาย ที่คุณทักษิณว่าคือกู้ครึ่งนึงของที่อภิสิทธิมันจะไปกู้จากเมืองนอกเท่านั้น รัฐบาลนี้มันเลี่ยนจริง ๆ ครับ เพราะทั้งนายกและ รมต.คลัง มันไม่เคยทำงานอะไรมาก่อนสักอย่าง ก็คิดโง่ ๆ สั้น ๆ แบบคนเพิ่งเริ่มทำธุรกิจ กระดี๊กระด๊าว่ามีคนเขาเชื่อมั่นให้กู้แล้ว ก็แหงล่ะ ไอ้คนให้กู้มันดูแล้วว่าฐานะการเงินของไทยมันเชื่อถือได้ มีเงินสำรองเป็นแสนล้านเหรียญมันก็ให้กู้น่ะสิ เจ๊งมันก็ถือเอาเงินทุนสำรองที่ทักษิณทำไว้เป็นหลักประกันเพือเรียกร้องและยึดคืนเวลาไม่มีปัญญาใช้หนี้ กรณ์กับอภิสิทธินี่มันห่วยแตกจริง ๆ ครับ เสือกมาเป็นคนดูแลเศรษฐกิจของชาติทั้ง ๆ ที่ค้าขายไม่เป็น รู้จักแต่จะกู้ ๆๆๆๆๆ ขอมีเงินไว้ใช้ก่อนตามแบบคุณหนูผู้ไม่เคยรู้จักความทุกข์ยากทั้งหลายในสังคมไทย

ปัญหาของนายกรณ์และนายอภิสิทธิก็คือ การมีโคตรเง่าศักราชเป็นข้าราชการศักดินาและเป็นเจ้าของแบงก์ แน่นอนที่คุณย่อมคิดแบบข้าราชการที่ทำตามคำแนะนำอันคุ้นเคยของนายแบงก์ที่เชิดคุณไว้เป็นไม้กันหมา นั่นคือเอาเงินคนอื่นมาลงทุน เก็บเงินตัวเองไว้กินดอกเบี้ยดีกว่า ทั้ง ๆ ที่เงินกู้นั้นคุณต้องเสียดอกเบี้ยให้แบงก์ เงินฝากคือเงินคนอื่นที่แบงก์เป็นตัวกลางไปปล่อยกู้หารายได้ให้ตัวเองแบบเสือนอนกินนั่นเอง นี่คือเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นของนายแบงก์ ส่วนเบื้องรองคือค่าปากถุงนั้นเป็นสิ่งที่เป็นผลพลอยได้ที่อาจจะสำคัญกว่าเสียด้วยซ้ำในทัศนะของผู้ประสานงานทั้งหลายที่ไปสร้างการกู้เงินขึ้น เพราะคอมมิสชั่นจากการเอาสินทรัพย์ของชาติไปคำประกันเงินกู้เจ็ดหมื่นล้านแค่ไม่ถึงเปอร์เซ็นต์ก็แบ่งกันเละแล้ว