วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2552

ข่าวมอนิเตอร์ประจำวันที่ 27 เมษายน 2552

ที่มา ประชาไท

การเมือง สังคม

แม่ทัพภาคที่ 1 ยัน ยินดีให้ชันสูตรศพ "พลทหารอภินพ" อีกครั้ง
เว็บไซต์แนวหน้า - พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวถึงกรณี พลทหารอภินพ เครือสุข เสียชีวิตภายในบ้านพัก กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็ก รักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) ของตน โดยระบุว่า ยินดีที่จะให้มีการชันสูตรพลิกศพ พลทหารอภินพ อีกครั้ง ตามที่ นางศิริมล มาเพชร มารดาพลทหารอภินพ ต้องการ โดยจะต้องเป็นไปตามระบบ และถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อจะได้หายสงสัย พร้อมทั้งยืนยันว่า ไม่มีใครไปทำร้ายเขาให้เสียชีวิต ผมก็เพิ่งเสียลูกชายไปจากอุบัติเหตุ เมื่อ 3 เดือนก่อน การสูญเสียลูกเป็นสิ่งที่ลำบาก ผมก็เสียใจและยินดีให้ความร่วมมือกับญาติของผู้เสียชีวิตทุกอย่าง เขาต้องการอะไร ก็พร้อมที่จะทำให้ตามใจทุกอย่าง เพื่อให้คลี่คลายความสงสัย

ทั้งนี้ พล.ท.คณิต ระบุว่า ในวันเกิดเหตุ มีทหารที่ดูแลบ้านอยู่ 3 คน จากการสอบถาม ทุกคนก็ยืนยันว่า พลทหารอภินพ ลื่นหกล้ม เมื่อเพื่อนถามว่าจะไปหาหมอหรือไม่ พลทหารอภินพ บอกว่าไม่เป็นอะไร แค่ปวดหัว จึงไม่ได้นำส่งโรงพยาบาล แล้วพลทหารอภินพก็เสียชีวิต ในเช้าวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา หากเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการทราบข้อเท็จจริง ก็สอบถามเพื่อนของผู้ตาย ที่อยู่ในบ้านพักด้วยกันได้

สันติบาลถกแม้วหมิ่นสถาบัน
เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - ตำรวจสันติบาลตื่น!แม้วหมิ่นสถาบันนัดถกคณะกรรมการชุดใหญ่พรุ่งนี้ พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล เรียกประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ ในการตรวจสอบคำสัมภาษณ์ ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งพาดพิงสถาบันในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้(27เม.ย.) เพื่อประมวล พยานหลักฐานต่างๆ ให้ชัดเจนหลังคณะทำงานชุดเล็ก ตรวจสอบแล้ว เห็นว่าคำสัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณกับสื่อต่างประเทศเป็นเรื่องมิบังควร ทั้งนี้ เอกสาร รวมทั้งบทคำสัมภาษณ์ ผู้แปร ผู้สัมภาษณ์ ผู้เผยแพร่ ต้องลงนามรับรองว่ามีการให้สัมภาษณ์จริง แต่ปัญหาติดที่ว่าสื่อนั้นๆ จะยินยอมลงนามรับรองหรือไม่ เนื่องจากสื่อต่างประเทศส่วนมาก อาจมองว่า การสัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น ขณะที่ สังคมไทย มองว่า เป็นเรื่องที่มิบังควร ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ยังกล่าวด้วยว่า ในที่ประชุมวันพรุ่งนี้ ยังจะมีการหยิบยกหารือ กรณีที่ นายจักรภพ เพ็ญแข แกนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวพาดพิงสถาบันด้วย

ม็อบเสื้อแดงยโสธรต้านรมว.พัฒนาสังคมหวิดปะทะเสื้อน้ำเงิน
เว็บไซต์สยามรัฐ - เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2552 กลุ่มเสื้อแดงยโสธร ได้ปิดถนนเส้นทางที่นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะใช้เดินทางหลังเสร็จสิ้นจากเป็นประธานเปิดโครงการบ้านมั่นคง ตำรวจต้องขอกำลังเสริมจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษ และกองบังคับการตำรวจภูธรยโสธร 1 กองร้อย มาสกัดพร้อมกั้นแผงเหล็กปิดเส้นทาง

ก่อนที่จะไปถึงยังจุดที่รัฐมนตรีเปิดงาน ทั้งยังเกือบมีเรื่องปะทะกับกลุ่มคนเสื้อน้ำเงินที่มารอรับอยู่บริเวณโดยรอบ ขณะที่ตำรวจติดตามและตำรวจพื้นที่ ซึ่งชำนาญเส้นทางได้นำขบวนคณะรัฐมนตรีหนีไปตามถนนเลียบทุ่งนาแทน ก่อนวกเข้าถนนแจ้งสนิทเพื่อไปยังจังหวัดอุบลราชธานี ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อรู้ข่าวจึงได้สลายตัวกลับ

'อัศวิน' มั่นใจคดีลอบยิง 'สนธิ' เดินมาถูกทาง
เว็บไซต์ไทยรัฐ - พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะชุดสืบสวนสอบสวนคลี่ คลายคดียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าววันนี้ (26 เม.ย.) ถึงความคืบหน้าการคลี่คลายคดี ว่า มั่นใจแนวทางการสืบสวนมาถูกทาง ซึ่งขณะนี้ ทุกอย่างดีหมด

ด้าน พล.ต.ท.ดนัยธร วงศ์ไทย ผู้บัญชาการสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจ (ผบช.สนว.ตร.) กล่าวว่า วันที่ 27 เม.ย.นี้ จะประชุมสรุปผลการตรวจสอบหลักฐานในคดีลอบยิงนายสนธิทุกอย่าง โดยเฉพาะวิถีกระสุนซึ่งพบ ว่า ถูกยิงมาจากจุดเดียวกันทั้งหมด

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึงกรณีพล.ต.ท.อัศวิน กล่าวภายหลังประชุมฝ่ายสืบสวน โดยระบุภายใน 7 วัน จะสามารถจับตัวคนร้ายยิงนายสนธิ ว่า เป็นความมั่นใจของผู้บังคับบัญชา ที่มั่นใจในการทำงานของลูกน้อง โดยส่วนตัวจะไม่กำหนดระยะเวลาให้กับคนทำงาน เพราะจะไปกดดันมากกว่า

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวต่อว่า ขณะนี้ คดียิงนายสนธิยังรวบรวมหลักฐาน คงต้องปล่อยให้หลักฐานเป็นตัวกำหนดเองที่จะสาวไปถึงตัวคนร้าย ยอมรับมีพยานหลักฐานเพียงพอในระดับหนึ่งแล้ว ทางฝ่ายสืบสวนต้องรวบรวมพยานหลักฐานกันทุกวัน ประชุมทุกวัน การจะบอกว่าใครเป็นคนทำต้องมีหลักฐานเพียงพอ ส่วนในราย ละเอียดยังบอกไม่ได้ แต่คดีความคืบหน้ามากแล้ว

วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯอภิสิทธิ์" ว่ายังไม่ได้คุยในรายละเอียดถึงความคืบหน้าของคดียิงนายสนธิ แต่ให้ความเห็นเรื่องการที่ตำรวจสามารถตรวจยึดอาวุธสงครามได้ ที่จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ควรมองข้าม และต้องมีการจัดระเบียบอาวุธสงครามด้วย

อดีต คมช.เตือนอย่าไว้ใจ "แม้ว"
ASTV ผู้จัดการรายวัน - พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) กล่าวว่าสถานการณ์ทางการเมืองขณะรัฐบาลต้องระมัดระวัง เพราะจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ผ่านมา ยังไม่บรรลุเป้าหมายที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องการ คือการนิรโทษกรรม และเอาเงิน 7.8 หมื่นล้านบาทคืน ดังนั้นเขายังต้องดำเนินการทุกอย่าง ซึ่งคงเห็นแล้วว่าเขาทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าชาติบ้านเมืองจะเสียหายอย่างไร เพียงเพื่อให้เขาบรรลุเป้าหมาย

พล.อ.สมเจตน์ กล่าวด้วยว่า การยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คงไม่มีผลในทางการเมืองมากนัก แต่มีผลเพียงเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยว เรื่องเศรษฐกิจ แต่ปัญหาทุกอย่างยังอยู่ รัฐบาลต้องระมัดระวัง เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ และบริวาร พร้อมทำทุกอย่างโดยไม่คำนึงความเสียหายของชาติ

"รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับการชุมนุม และจัดระเบียบการชุมนุมใหม่ เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่เกิดขึ้นเช่นอดีต คือ 1.กำหนดพื้นที่การชุมนุมโดยให้มีการชุมนุมทางการเมืองได้เฉพาะในบริเวณท้องสนามหลวง 2.จำกัดพื้นที่ด้วยการห้ามเคลื่อนย้ายกลุ่มผู้ชุมนุม และ 3.เจ้าหน้าที่ต้องตรวจอาวุธผู้ชุมนมเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้นำอาวุธไปใช้ก่อเหตุร้ายขึ้น การเกิดเหตุร้ายขึ้นกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล สังคมคงต้องมาคิดกันว่า ขณะนี้บ้านเมืองเราไม่มีความปลอดภัย เป็นสังคมที่ไม่น่าอยู่ ดังนั้น เจ้าหน้าที่ต้องเร่งดำเนินคดีและหาผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดกับสังคมไทย" พล.อ.สมเจตน์กล่าว

แย้มสิ้น พ.ค.นี้ ปิดคดี พธม.ยึดสนามบิน
เว็บไซต์ไทยรัฐ
- พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะผู้รับผิดชอบคดีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ปิดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง ว่า ขณะนี้ ได้ประชุมร่วมกันของพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) ทั้งคดีปิดสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง คิดว่า จะเร่งสรุปคดีว่าจะต้องมีการแจ้งข้อกล่าว และข้อหาใดกับใครบ้าง เพื่อนำสำนวนคดีเสนอให้พนักงานอัยการให้ทันสิ้นเดือน พ.ค.นี้

ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า คิดว่าไม่ช้าต้องรีบทำ ในส่วนรายละเอียดคดีได้ตรวจรายละเอียดและที่น่าเป็นได้ จะให้มีคนกลางและผู้เชี่ยวชาญเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นทางคดี ไม่ได้เอาความคิดของตำรวจอย่างเดียว ต้อง?? ฟังวิญญูชนด้วยว่า สิ่งที่ตำรวจคิด และคนอื่นคิดตรงกันหรือไม่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขณะนี้ไม่ได้มีการะบุข้อหาที่แจ้งกับผู้ที่กระทำผิดต้องดูรายละเอียดให้ครบถ้วน จึงเรียกพนักงานสอบสวนทั้งหมดเข้ามาร่วมประชุมเพื่อแสดงความคิดเห็นทั้งที่มีต่อส่วนรวมและความคิดเห็นส่วนตัว พนักงานสอบสวนทุกคนมีอิสระเท่าเทียมกัน การแสดงความคิดเห็นของพนักงานสอบสวนจะทำลักษณะเดียวกับการสรุปคดีของศาลปกครอง

พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวต่อว่า การทำสำนวนคดีปิดสนามบินไม่ยากคนทั่วไป และพนักงานสอบสวนได้ทราบจากคำอภิปราย และทำความเข้าใจของทุกฝ่าย แต่สิ่งที่ยากพนักงานสอบสวนต้องทำให้เห็นว่าเรื่องนี้มีเหตุการณ์เกิด? ขึ้นจริง มีการกระทำความผิด มีผู้ที่ตั้งใจทำให้เกิดการเคลื่อนไหวจนทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งจะมีใครบ้าง ทั้งแกนนำ ประชาชนที่สมัครใจเข้ามาชุมนุม กลุ่มการ์ดที่ดูแลการชุมนุม และกลุ่มที่มาแสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งจะมีใครบ้างเป็นผู้ทำให้เกิดความเสียหาย ต้องแจ้งข้อหาดำเนินคดี พนักงานสอบสวนต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนา

ปชป.ขอบคุณเสื้อแดงชุมนุมอย่างสงบ
เว็บไซต์เดลินิวส์ - 26 เม.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) วานนี้(25 เม.ย.) ว่า ต้องขอบคุณผู้ชุมนุมที่ชุมนุมโดยสงบ ซึ่งถือว่าเป็นสิทธิตามชอบธรรมภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อหาในการชุมนุม 2 ข้อ ที่ถือว่า เป็นจุดร่วมที่สำคัญ ที่ตรงตามข้อเรียกร้องของนายกรัฐมนตรี คือ 1.ไม่ใช้ความรุนแรง และ 2. กลุ่มผู้ชุมนุมแสดงออกถึงการเคารพ ปกป้อง และเทิดทูนสถาบันไว้อยู่เหนือความขัดแย้งทุกประการ

นายสาธิต กล่าวต่อว่า แต่จากการติดตามพบการกระทำบางอย่างที่ไม่เหมาะสม คือ การพยายามที่จะโยนความผิดไปที่รัฐบาล และตอกย้ำว่ามีผู้เสียชีวิตและสูญหายจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลหลักฐานหรือเหตุผลที่เพียงพอว่ามีผู้เสียชีวิตและสูญหายจริง จึงขอเรียกร้องไปยัง ส.ส.พรรคเพื่อไทยให้หันกลับมาตรวจสอบในระบบ ทำงานของรัฐบาลในการทุจริตคอรัปชั่น และการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนเป็นอย่างมาก

ศาลสั่งระงับแพร่การ์ตูนลามกนารุโตะ 54 เว็บ
เว็บไซต์เดลินิวส์ - 26 เม.ย. นางสาวลัดดา ตั้งสุภาชัย ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า จากการร้องเรียนเรื่องภาพการ์ตูนลามกนารุโตะทางเว็บไซต์ ล่าสุด นางระวิวรรณ พงษ์พานิช นิติกร ปฏิบัติการพนักงานเจ้าหน้าที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) แจ้งว่า ได้ส่งเรื่องการเผยแพร่ภาพการ์ตูนลามกดังกล่าวต่อศาลอาญา เพื่อให้มีการไต่สวนคำร้องขอให้ระงับการแพร่ ทั้งนี้ ศาลได้พิจารณาหลักฐานแล้วเห็นว่า ข้อมูลที่ปรากฎอยู่ในเว็บเพจ อาจทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้ จึงถือว่าการนำเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(4) โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ศาลจึงมีคำสั่งให้ระงับการเผยแพร่ภาพการ์ตูนลามกดังกล่าว จำนวน 54 เว็บเพจด้วย

เศรษฐกิจ

คลังเผย ปชช.นำเช็คช่วยชาติขึ้นเงินแล้วกว่าหมื่นล้านบาท
เว็บไซต์เดลินิวส์ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 เม.ย.) ความคืบหน้าการจ่ายเช็คช่วยชาติให้กับผู้ประกันตน และมีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาท หลังจากที่กระทรวงการคลังได้จัดพิมพ์เช็คงวดแรกไปแล้ว 8.094 ล้านฉบับ ขณะนี้ได้มีการจ่ายเช็คและประชาชนนำเช็คไปขึ้นเงินกับธนาคารแล้ว 5.81 ล้านฉบับ คิดเป็นร้อยละ 71.82 หรือเป็นเงินประมาณ 11,627 ล้านบาท ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ นับเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่ง

นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า หากผู้รับบำนาญ ผู้ประกันตนยังไม่ไปรับเช็ค ให้ไปรับได้ที่กรมบัญชีกลาง หรือสำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศ จนถึงวันที่ 23 มิ.ย.นี้ หรือติดต่อที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-2706400

จี้กรณ์เดินหน้าหวยออนไลน์ เก็บภาษีเพิ่มรายได้เข้าคลัง
ASTV ผู้จัดการรายวัน - คลังหาเงินโปะงบขาดดุล สบโอกาสหาเงินจากภาษีหวยออนไลน์ เผยช่วยเพิ่มรายได้เข้ารัฐได้อีกหลายหมื่นล้านบาทต่อปี ชี้ กรณ์ต้องกล้าตัดสินใจออกหวยและดำเนินนโยบายดึงรายได้เข้ารัฐจริงจังหลังดึงภาษีป้ายออกจาก ครม.โดยอ้างจะกระทบผู้ประกอบการทั้งที่บางป้ายจัดเก็บเพียง 20 บาทต่อปีเท่านั้น

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2553 ตามกรอบรายได้ที่ปรับลดลงจำนวน 2.5 แสนล้านบาทนั้น สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) จึงได้รับมอบหมายให้ศึกษาโครงสร้างการจัดเก็บภาษีเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่รัฐ โดยมีการเตรียมเสนอให้รัฐบาลจัดเก็บภาษีหวยออนไลน์จากการออกสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว ซึ่งจะสามารถเพิ่มรายได้เข้ารัฐหลายหมื่นล้านบาทต่อปีชดเชยรายได้ของรัฐบาลที่สูญเสียไปจากผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจ

นอกจากนี้เพื่อเป็นการเพิ่มเม็ดเงินลงในระบบให้หมุนเวียนมากขึ้นและเป็นมาตรการที่รัฐบาลจะต้องเร่งทำเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจ จึงเตรียมเสนอให้สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์เช่น บริษัทเงินทุน(บง.)เข้ามาปล่อยกู้เพิ่มเติมให้กับประชาชนและธุรกิจขนาดกลางและขยาดย่อมให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินได้มากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนนอกจากธนาคารพาณิชย์ที่ขณะนี้เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมาก

ขณะเดียวกันสศค.ยังได้ศึกษาการปรับปรุงโครงสร้างรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) เป็นพิเศษเพื่อในระยะยาวจะสามารถบริหารจัดการงบประมาณภายในได้เอง ไม่ต้องพึ่งพางบประมาณส่วนกลางและลดภาระของภาครัฐโดยรวมลง ซึ่งที่ผ่านมาสศค.ได้เคยเสนอแนวทางดังกล่าวต่อนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ให้พิจารณาโดยการปรับเพิ่มภาษีป้ายซึ่งเป็นภาษีที่ อปท.ต้องจัดเก็บโดยตรง ขึ้นเท่าตัว

ซึ่งในปัจจุบันอัตราการจัดเก็บภาษีป้ายไม่ว่าจะเป็นบิลบอร์ดข้างทางด่วน บนอาคาร ป้ายข้างทาง หน้าราน ตลอดจนป้ายรถเมล์ ของอปท.อยู่ในระดับตำมาก แต่เมื่อเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.)พบว่านายกรณ์ได้ถอนออกกลางคัน โดยอ้างว่าจะกระทบกบกลุ่มผู้ประกอบการุรกิจซึ่งกำลังได้รบผลกระทบจากภาวะเศรฐกิจชะลออยู่ตัวอยูแล้ว

"การจัดเก็บภาษีป้ายของไทยในปัจจุบันอยู่ในอัตราที่ต่ำมาก บางป้ายเก็บภาษีเพียงปีละ 20 บาทต่อป้ายเท่านั้น ฉะนั้นหากจะต้องจัดเก็บเพิ่มก็ไม่กระทบกับผู้ประกอบการมากนัก ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มรายได้ให้ท้องถิ่นที่จะสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาวและลดภาระการพึ่งพางบประมาณจากภาครัฐในอนาคตลดลงแล้วแล้ว ยังะช่วยจัดระเบียบป้ายที่ปัจจุบันระเกะระกะทำให้บ้านเมืองไม่สวยงามได้อีกด้วย" แหล่งข่าวระบุ

ทั้งนี้ยังมีการเตรียมเสนอให้ รมว.คลังพจารณาพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งจะมาทดแทนพ.ร.บ.ภาษีโรงเรือน และพ.ร.บ.ภาษีบำรุงท้องที่ เพื่อเพิ่มรายได้ให้อปท.อีกทางหนึ่ง แต่หลังจากภาษีป้ายตกไปจึงสร้างความไม่มั่นใจแก่สศค.ว่าพ.ร.บ.ใหม่นี้จะผ่านหรือไม่ เนื่องจากรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นจะกระทบกับคนอีกพอมควร แต่เรื่องเหล่านี้ต้องการให้นักการเมืองมองอนาคตของประเทศในระยะยาวด้วย อย่ามองเพียงแต่จะหาเสียงในระยะสั้นเท่านัน

ต่างประเทศ

รมต.พลังงานเอเชียเสนอคุมการเก็งกำไรน้ำมัน
ASTV ผู้จัดการรายวัน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ประเทศผู้ผลิตและบริโภคน้ำมันรายใหญ่ในแถบตะวันออกกลางและเอเชีย เรียกร้องให้มีการควบคุมการเก็งกำไรในอุตสาหกรรมน้ำมัน ภายหลังสิ้นสุดการประชุมรัฐมนตรีพลังงานระดับภูมิภาค ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 1 วันที่นครโตเกียวของญี่ปุ่นเมื่อวานนี้ (26) สื่อท้องถิ่นรายงาน รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่จาก 21 ประเทศ ซึ่งมีทั้งญี่ปุ่น, จีน, อินเดีย, อิรักและซาอุดีอาระเบีย ได้เรียกร้องให้มีการควบคุมการเก็งกำไรเพื่อหลีกเลี่ยงการทะยานขึ้นอย่างบ้าเลือดของราคาน้ำมัน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

พร้อมกันนี้ที่ประชุมยังยืนยันด้วยว่า ความต้องการพลังงานจะเติบโตขึ้นในระยะกลางและระยะยาว อีกทั้งการลงทุนเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นในการถ่วงดุลระหว่างดีมานด์และซัปพลาย การหารือร่วมกันในครั้งนี้เป็นการประชุมโต๊ะกลมของรัฐมนตรีพลังงานเอเชีย ซึ่งจัดขึ้นประจำทุกปี โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างเสถียรภาพให้ตลาดน้ำมัน

เอเชียวางมาตรการเข้ม ป้องกันไข้หวัดหมูระบาด
เว็บไซต์แนวหน้า - หลังจากไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่ระบาดอย่างหนักในประเทศเม็กซิโก และสหรัฐฯ จนคร่าชีวิตประชาชนไปเกือบ 100 คนแล้วนั้น ประเทศในแถบเอเชียต่างคุมเข้มสถานการณ์อย่างเข้มข้น โดยญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ได้มีมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ อาทิ ตรวจเข้มผู้โดยสารที่ทุกรายที่จะเดินทางมาจากสหรัฐและเม็กซิโก ผ่านจุดตรวจและรับการตรวจร่างกายที่สนามบิน ขณะที่ ออสเตรเลียได้เรียกร้องให้ประชาชนที่เดินทางกลับจากสหรัฐและเม็กซิโก รับการแนะนำด้านการแพทย์ด้วย ส่วนอินโดนีเซียได้ดำเนินการเช็คท่าเรือและสนามบินทุกแห่งว่าปลอดจากเชื้อไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่

คะแนนความนิยมโอบามาพุ่งสุดในรอบ 20 ปี ขณะใกล้ครบการปฏิบัติหน้าที่หนึ่งร้อยวันแรก
ASTV ผู้จัดการรายวัน - เอเอฟพี บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจะทำหน้าที่ผู้นำประเทศครบรอบ 100 วันแรกในวันพุธที่จะถึงนี้ (29) ได้โอกาสปลื้มกับคะแนนความนิยมอันยอดเยี่ยม โดยอยู่ในระดับสูงสุดเมื่อเปรียบเทียบกับประธานาธิบดีทุกๆ คนในรอบเวลา 20 ปีที่ผ่านมาเมื่อถึงช่วงใกล้ครบ 100 วันเช่นนี้ ทั้งนี้จากผลสำรวจความเห็นล่าสุด ซึ่งจัดทำโดยเอบีซีนิวส์/ เดอะวอชิงตันโพสต์

ผลสำรวจความเห็นคราวนี้เผยว่า 69 เปอร์เซ็นต์ของชาวอเมริกาพึงพอใจกับการปฏิบัติหน้าที่ของโอบามา ซึ่งถือเป็นคะแนนความนิยมสูงสุดในรอบระยะเวลาราว 2 ทศวรรษ อย่างไรก็ตาม โพลคราวนี้ก็ชี้ด้วยว่า ประธานาธิบดีผิวสีผู้นี้ต้องเผชิญกับความแตกแยกในการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายทางการเมือง โดยขณะที่ร้อยละ 93 ของพวกผู้สนับสนุนเดโมแครตพอใจกับการปฏิบัติหน้าที่ของโอบามา แต่มีชาวรีพับลิกันเพียง 36 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เห็นด้วย

เมื่อเปรียบเทียบกับประธานาธิบดีคนอื่นๆ 54 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามครั้งนี้บอกว่า โอบามาปฏิบัติหน้าที่ดีเกินกว่าที่คาด โดยนำห่างคะแนนความนิยมของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชและอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ในขณะที่อดีตผู้นำทั้งสองปฏิบัติหน้าที่ครบ 100 วันแรก สำหรับโพลครั้งนี้ ซึ่งสุ่มสำรวจความเห็นของผู้ใหญ่จำนวน 1,072 คน ระหว่างวันที่ 21 - 24 เมษายนที่ผ่านมาความผิดพลาดบวกลบไม่เกิน 3 เปอร์เซ็นต์