วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2552

ธิติ มีแต้ม: ขบวนการใต้ดินของจริง!

ที่มา ประชาไท

โดย ธิติ มีแต้ม

1.

และแล้วก็ค่อยๆ ปรากฏให้เห็นเด่นชัดขึ้น เมื่อสังคมทุกภาคส่วนเห็นพ้องต้องกันว่า แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พ่ายแพ้ในการชุมนุมครั้งล่าสุด โดยมีปัจจัยที่ละเอียดอ่อนที่สุด นั่นคือ "ความรุนแรง" ไม่ว่าจะถูกสร้างมาจากฝ่ายนปช. เอง หรือจากรัฐบาล องค์กรเอกชน นักวิชาการ หรือสื่อสารมวลชนก็ตาม

เพราะต่างฝ่ายต่างมีเครื่องมือเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นมีด ไม้ ระเบิดขวด ปืน รถถัง และโทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งตัวหนังสือก็ถือว่าเป็นเครื่องมือได้เหมือนกัน ถึงแม้ต่างฝ่ายจะปฎิเสธว่าสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้เป็นความรุนแรง แต่อย่างไรก็ไม่สามารถหลอกเด็กได้

ส่วนที่ว่าค่อยๆ ปรากฏให้เห็นเด่นชัดขึ้น ก็คือ หลังจากการยุติการชุมนุมของนปช. ด้วยการกดดันจากรัฐบาล-ทหารไปแล้ว เราจะได้ยินนักวิเคราะห์ในนามนักวิชาการและสื่อบางส่วนที่ได้วิเคราะห์ไว้ว่า "หลังจากนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงจะกลายเป็นขบวนการใต้ดิน คอยก่อกวนแบบหลบๆ ซ่อนๆ" ด้วยเพราะถูกรัฐบาลจับตาอย่างใกล้ชิด และมีชาวบ้านบางส่วนที่ได้รับความเดือดร้อนในวันที่มีการจลาจลกลางเมือง คอยตรวจสอบชนิดที่เรียกได้ว่าใกล้ชิดเสียยิ่งกว่ารัฐบาลอีก หากมีใครใส่เสื้อแดงรวมตัวกัน ชาวบ้านกลุ่มนี้ก็ไม่รีรอที่จะเข้าไปจัดการทันที!

แต่แล้วถึงวันนี้ ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์ เรากลับไม่เห็นขบวนการใต้ดินของกลุ่มเสื้อแดงออกมาป่วนเมืองอย่างที่วิเคราะห์กันเลยสักนิดเดียว อย่างมากเราก็เห็นแค่การมาจับกลุ่มแลกเปลี่ยนกันที่สนามหลวง อาจเป็นเพราะลมมันเย็น อยู่บ้านอากาศมันร้อน หรือเป็นเพราะไม่มีบ้านก็ได้ แต่ถึงอย่างไรเราก็ไม่เห็นใครใส่เสื้อแดงอยู่ดี

นี่ย่อมพิสูจน์ได้ว่า พวกเขาต้องรักชีวิตเป็นอันดับแรก เขาคงคิดว่าหากใส่เสื้อแดงในวันนี้ เสียงที่เขาเรียกร้องอาจสูญเปล่า และตายไปพร้อมกับชีวิตของเขาเอง

เช่นนั้นแล้ว เขาจึงต้องเก็บรักษาชีวิตไว้ให้นานที่สุด เพราะสำหรับเขา ในเบื้องต้น ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า ศักดิ์ศรี สิทธิและเสรีภาพ (แบบกินได้ ไม่ใช่ฝันลมๆแล้งๆ สิ่งนั้นอาจเริ่มจากข้าว การศึกษา สาธารณสุข ที่อยู่อาศัย ฯลฯ)

ทั้งยังพิสูจน์ได้อีกว่า เมื่อรักชีวิตเป็นอันดับแรก เขาจะเอาต้นทุนที่ไหนมาสร้างตัวเองให้เป็นขบวนการใต้ดิน ซึ่งจำเป็นต้องมีทรัพย์และบารมีสูงมาก ไม่เช่นนั้นคงอยู่ไม่รอดอีกเหมือนกัน

หากจะหาว่าเป็นการมองอย่างโรแมนติกเกินไป ก็อาจต้องของอนุญาตหยิบยืมบทกวีของ ไม้หนึ่ง ก กุนที ที่เคยกล่าวไว้ต่อไปนี้มาเสียหน่อย

"ประชาชนของคุณคือคนไหน

คนสมบูรณ์หน้าใสใส่เสื้อเหลือง?

คนเสื้อแดงมอมแมมแสนฝืดเคือง?

คนเซื่องซึมจรจัดขาดอาภรณ์?”

(อ่านฉบับเต็มได้ ในนิตยสารปาจารยสาร ฉบับกวีธิปไตย)

2.

ส่วนขบวนการใต้ดินของจริง จะเป็นใครไปได้นอกเสียจากพวกคณะรัฐประหารนั่นแหละ พวกเขาปฏิบัติการลับสุดยอด โดยมีฐานข้อมูลเป็นฝ่ายความมั่นคง ที่น่าตลกก็คือเป็นขบวนการใต้ดินที่กินภาษีประชาชน ซึ่งไม่มีต้นทุนเป็นของตัวเอง

ปฏิบัติการของพวกเริ่มจากผลิตซ้ำ้ภาพการเมืองให้เป็นเรื่องน้ำเน่าจากความเลวของนักการเมือง ราวกับว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้ คิดไม่เป็นและตรวจสอบกันเองไม่ได้

เมื่อสังคมโดยรวมเริ่มคล้อยตามกับกลเกมที่วางไว้ พวกเขาก็โผล่ออกมารัฐประหาร และอ้างว่าทำเพื่อปกป้องสถาบันฯ และเพื่อความมั่นคง ซึ่งพวกเขาไม่จำเป็นต้องแคร์ว่า หากคนทั่วโลกรู้ว่าการฉีกรัฐธรรมนูญของประชาชน เป็นการดูถูกและคร่าชีวิตประชาชนทั้งเป็นมากที่สุด ประเทศไทยจะต้องแบกภาระในการเยียวยาปัญหานี้ไปอีกหลายสิบปี

เพราะพวกเขามีความสามารถที่ทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อได้ว่า สิ่งที่พวกเขาทำนั้นชอบธรรม ด้วยแคมเปญ คุณธรรมนำหน้า เมื่อนั้น พวกเขาก็เผยรอยยิ้มที่มุมปาก เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วก็กลับลงสู่ใต้ดินไปอีกครั้ง เพื่อความมั่งคั่งและปลอดภัย ซึ่งอาศัยรัฐบาลที่เขาได้เตรียมไว้แล้ว พร้อมกับคนที่นิยมการรัฐประหารเป็นฝาท่อ คอยปกปิดไว้ไม่ให้ใครเห็น และไม่ให้ใครตั้งคำถาม

อย่างมากเขาก็ปล่อยให้สื่อหรือนักวิชาการจำนวนน้อย ที่รู้ทันและต่อต้านได้แต่คอยข่วนเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ทำให้ระแคะระคายแต่อย่างใด

การอ้างสถาบันฯ ในการรัฐประหาร สำหรับพวกเขา ก็ย่อมเป็นเกราะกำบังชั้นดี เช่นนั้นก็ไม่มีเหตุผลอื่นที่คณะรัฐประหารจะกล้าปฏิบัติในนามส่วนตัว เพราะไม่มีใครเอาผิด หรือกล้าเอาผิดได้

พูดอีกอย่างก็คือ คณะรัฐประหารเองนั่นล่ะ ที่เป็นผู้ให้คำตอบว่า ใครเป็นหัวหน้าขบวนการใต้ดิน ซึ่งมีภารกิจทำลายระบอบประชาธิไตยตัวจริง

เรื่องแบบนี้จะว่าไป แถบไม่เกี่ยวกับเหลืองหรือแดงเลย มันง่ายนิดเดียวที่คนทั้งโลกรับรู้ว่าเกี่ยวกับอะไรและเกี่ยวกับใคร?

3.

ค่ำวันหนึ่ง ในวงคนหนุ่มสาว ซึ่งคุยกันบนดินแน่ๆ เพราะไม่มีใครอุตริขุดดินลงไปคุยกันใต้ดิน มีเสียงวิเคราะห์ที่น่าฟังว่า "กระดานหมากรุกเกมนี้ รัฐบาลยอมเสียม้าตัวเดียว คือยินยอมให้กลุ่มคนเสื้อแดงล้มเวทีการประชุมอาเซียนที่พัทยา แหกแต่รัฐบาลก็รุกคาดสำเร็จด้วยการทำให้ทักษิณหมดทางสู้ และกระชากกลับมาลงโทษที่เมืองไทย ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2550 ที่ได้ออกแบบไว้ให้เรียบร้อยโรงเรียนคมช. แล้ว!

มากกว่านั้น เมื่อจบเกมนี้ไป ซึ่งรัฐบาลประชาธิปัตย์ใช้พลังงานไปมาก ก็ย่อมรู้ตัวว่า อำนาจของรัฐบาลจะเริ่มอ่อนแอลงโดยอัตโนมัติ ขณะที่อำนาจของทหารจะกลับมาเรืองรองได้อย่างไม่น่าเชื่อ!