วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ปิดบัญชีแบงก์บัวหลวง ยุทธการเผาคลังเสบียงอำมาตย์

ที่มา thaifreenews

เขียนโดย ลูกชาวนาไทย
วันอังคารที่ 23 มิถุนายน 2009 เวลา 01:36 น.

alt
การต่อสู้ของคนเสื้อแดงที่ดำเนินการมาอย่างยาวนาน และขึ้นถึงช่วงสูงสุดในช่วงสงกรานต์เลือดที่ผ่านมา คนเสื้อแดงสามารถระดมพลมาชุมนุมหน้าทำเนียบได้ถึง 400,000 คน นับว่าเป็นจำนวนคนที่เข้าร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐบาลที่มากที่สุดอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าเราจะไม่สามารถขับไล่รัฐบาลเผด็จการของอำมาตยาธิปไตยไปได้ และต้องถูกบีบให้สลายการชุมนุมโดยกองทัพที่ถืออาวุธสงครามไล่ฆ่าประชาชน แต่ว่าคนเสื้อแดงก็ยังไม่ได้แพ้ โดยหลังจากที่รัฐบาลได้ยกเลิก พรก.ฉุกเฉินแล้วคนเสื้อแดงได้มีการชุมนุมใหญ่อีกถึง 2 ครั้งที่สนามหลวง และที่วัดไผ่เขียวที่มีคนเข้าร่วมเกิน 50,000 คน

อ่านเพิ่มเติมและแสดงความคิดเห็นได้ที่นี่



แต่การชุมนุมประท้วงรัฐบาลที่มีอำนาจดั้งเดิมที่ทรงพลังที่สุดของบ้านเมืองให้การสนับสนุน ทั้งกองทัพ ศาล และสื่อมวลชนสายอำมาตย์นั้นยากที่จะเอาชนะได้ เพราะหากรัฐบาลไม่ยอมลาออก แม้จะมีม็อบเข้ามาร่วมชุมนุมขับไล่นับล้านคน ก็ไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ กรณีการชุมนุมยึดสนามบินของ พธม. เป็นตัวอย่างได้อย่างดี เพราะเมื่อรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ไม่ลาออกม็อบก็ทำอะไรไม่ได้ ที่รัฐบาลล้มไปเป็นเพราะอำนาจของศาล

ที่ผ่านมานอกจากอำนาจกองทัพ และอื่นๆสนับสนุนแล้ว พวกทุนเก่า เช่น เจ้าของธนาคารต่างๆ เช่น ธนาคารกรุงเทพฯ (บัวหลวง) หรือธุรกิจอื่นๆ เช่นสหพัฒนพิบูลเป็นต้น ก็เป็นแหล่งเงินทุนให้กับพวกอำมาตย์ และ พธม. ต่อต้านรัฐบาลประชาธิปไตย

ดังนั้น การที่จะจัดการกับพวกอำมาตย์แล้ว ประชาชนที่ไม่มีเส้นใหญ่หนุนหลังอย่างพวกเราจำเป็นที่จะต้องมีอาวุธที่ดี และรุนแรงกว่าการชุมนุมประท้วง ปิดถนน สำหรับจัดการอำนาจพวกอำมาตย์เหล่านี้

การ Boycott หรือคว่ำบาตรกิจบริษัทหรือธุรกิจที่ให้การสนับสนุนอำมาตย์จึงเป็นมาตรการที่รุนแรงและได้ผลกว่าการชุมนุมประท้วง การบอยคอตถือเป็น "ยุทธวิธีชนะสงครามได้โดยไม่เสียเลือดเนื้อ” เป็นอำนาจของประชาชนโดยแท้ที่จะต้อสู้กับอำนาจกดขี่ที่ไม่ชอบธรรม แม้พวกเขาจะมีอำนาจมากมายป่านใด หากประชาชนรวมพลังคว่ำบาตรกิจการที่เป็นแหล่งทุนให้กับคนเหล่านี้ พวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานได้ ในโลกทุนนิยม ไม่มีอำนาจใดที่จะต้านทาน “อำนาจของผู้บริโภค” ที่ร่วมแรงร่วมใจกันบอยคอตกิจการที่อยู่ตรงข้ามกับผู้บริโภคได้

แต่การบอยคอตจะได้ผลก็ต่อเมื่อ มีคนจำนวนมากสนับสนุนเท่านั้น

ทำไมเราต้องเลือกที่จะบอยคอตแบงก์บัวหลวง ทำไมไม่บอยคอตกิจการอื่นๆ ที่สนับสนุนอำมาตย์และพวกพันธมิตรด้วย สาเหตุที่เราต้องเลือกคว่ำบาตรแบงก์บัวหลวงนั้น เพราะมีความเหมาะสมหลายอย่างในเชิงสัญลักษณ์ เช่น แบงก์นี้มี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีเป็นที่ปรึกษาให้ความอุปถัมภ์มายาวนาน แอบอิงกับอำนาจอำมาตย์มายาวนาน การตีจุดนี้ จึงเป็นการตีไปที่ "ระบอบอุปถัมภ์ของ พล.อ.เปรม โดยตรง" ดังนั้น แบงก์บัวหลวงจึงเป็น "เป้าหมายทางยุทธศาสตร์อันดับแรก" ที่จะต้องดำเนินการก่อนเป้าหมายอื่น

การใช้วิธีการบอยคอตนี้ คนเสื้อแดงไม่ควรทำอย่างสะเปะสะปะ คว่ำบาตรธุรกิจหลายอันเกินไป จนขาดการรวมศูนย์พลัง ทำให้ไม่มีพลังมากพอ ควรมุ่งโจมตีไปที่เป้าหมายเดียว ให้บรรลุผล หากพวกอำมาตย์ยังไม่คายอำนาจให้ประชาชน คนเสื้อแดงจึงจะโจมตีเป้าหมายต่อไปในภายหลัง หลังจากที่ได้ดำเนินการกับแบงก์บัวหลวงจนได้ผลแล้ว

นอกจากนี้ การดำเนินการนี้ จะเป็นการ "กระตุ้นการร่วมแรงร่วมใจ และความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนเสื้อแดงในการต่อต้านอำนาจของอำมาตย์" หากคนเสื้อแดงทั่วประเทศ "เข้าใจภารกิจพร้อมกัน" และร่วมกระทำอย่างพร้อมเพรียงกันจนเกิดผลแล้ว การโจมตีเป้าหมายต่อไป ย่อมเป็นไปโดยง่าย แค่มีการ "โบกธง" ระดับประเทศเท่านั้น คนเสื้อแดงทั่วประเทศก็พร้อมกันที่จะ บอยคอตธุรกิจอื่นๆ ที่สนับสนุนอำมาตย์อย่างได้ผลในทันที ในเวลาไม่ถึงอาทิตย์ด้วยซ้ำ หากทำพร้อมกัน ธุรกิจนั้นก็อยู่ไม่ได้ หากไม่ต้องการล้ม ก็ต้องออกมาแถลงการณ์ตัดขาดจากพวกอำมาตย์ในทันที

คนเสื้อแดงทุกกลุ่ม ควรร่วมใจกันเคลื่อนไหวในภารกิจนี้ และควรมี "จุดมุ่งหมายและกิจกรรมที่มีเป้าหมายเดียวกัน" ที่จะร่วมกันเพื่อให้บังเกิดผลที่ใหญ่หลวง

ถึงอย่างไร รัฐบาลก็ไม่มีทางยอมให้ธนาคารล้มลงไปได้ ก็ต้องหาทางช่วยเหลือ สุดท้ายก็ต้องมีการเจรจาคืนอำนาจให้ประชาชน เพราะหากยังเป็นเผด็จการอยู่ ประชาชนเรียนรู้ที่จะ "คว่ำบาตร" ทางเศรษฐกิจต่ออำมาตย์แล้ว พวกเขาย่อมไปไม่รอดอย่างแน่นอน

การดำเนินการคว่ำบาตรแบงก์บัวหลวงนั้น หากทำพร้อมกันทั่วประเทศ ก็จะได้ผลดีมาก แต่ในเบื้องต้นเรายังไม่อาจส่งสัญญาณไปยังคนเสื้อแดงทั่วประเทศให้ทำอย่างพร้อมเพรียงกันได้ เราก็ต้องทำเป็นตัวอย่าง เพื่อให้มีการกระจายข่าวออกไปเรื่อยๆ จนคนเสื้อแดงทั่วประเทศรับรู้และเข้าใจจุดมุ่งหมายพร้อมกันแล้ว จึงจะกำหนดให้มีการทำพร้อมกันทั่วประเทศได้

วิธีการคว่ำบาตรแบงก์บัวหลวงก็ไม่ยากนัก แค่หาคนเสื้อแดงในกรุงเทพฯ ที่อยู่ตามเขตต่างๆ หรือกลุ่มต่างๆ ที่มีบัญชีเงินฝากกับธนาคารกรุงเทพฯ เมื่อได้จำนวนคนมากพอแล้วก็นัดกันไปปิดบัญชีพร้อมกันในสาขาที่มีคนเสื้อแดงจำนวนมากเปิดบัญชีอยู่ โดยวันที่นัดกันปิดบัญชี จะต้องใส่เสื้อแดงไป เพื่อแสดงให้เห็นพลังที่พร้อมกัน

เมื่อมีการปิดบัญชี และสามารถรวบรวมสมุดบัญชีได้มากพอแล้ว เช่นสัก 4,000-5,000 เล่ม ก็นัดกันไปเผาพร้อมกันที่สนามหลวง รณรงค์กำหนดวันให้ชัดเจน และเชิญสื่อต่างประเทศมาร่วมทำข่าว เราอาจไปเผาสมุดบัญชีแบงก์บัวหลวงที่เราปิดบัญชีแล้ว พร้อมกันที่หน้าสำนักงานใหญ่ของบัวหลวงก็ได้


คนเสื้อแดงในกรุงเทพฯ คาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 600,000 คน (วัดจากคนที่ไปลงคะแนนให้คุณแซม ยุรนันต์ตอนเลือกผู้ว่า กทม.) หากในจำนวนนี้ หนึ่งในห้าเป็นลูกค้าแบงก์บัวหลวง เราก็มีบัญชีปิดไม่ต่ำกว่า 100,000 บัญชี ย่อมกระทบกับกิจการของบัวหลวงแน่นอน และเมื่อทำสำเร็จแล้วเราก็รณรงค์ไปทั่วประเทศ ให้ดำเนินการพร้อมกันอีกที่เชียงใหม่ อุดรธานีเป็นต้น รณรงค์ให้ภาคอีสานและภาคเหนือทั้งสองภาค คว่ำบาตรกิจการบัวหลวง ไม่ให้ทำธุรกิจได้ ผมคิดว่าไม่นานแบงก์นี้ก็ไปไม่รอด

นี่เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู สำหรับธุรกิจอื่นๆ รวมทั้งสื่อที่ยังสนับสนุนพวกอำมาตย์ ซึ่งเราอาจร่วมกันบอยคอตในภายหลังได้

ผมคิดว่านี่เป็นการรวมพลังครั้งยิ่งใหญ่ของคนเสื้อแดงที่เราจะทำให้พวกอำมาตย์+ศักดินา ไม่สามารถทำอะไรกับพวกเราได้ เรามาร่วมใจกันอีกครั้งเถอะครับ คนเสื้อแดง เพื่อลูกหลานของพวกเราจะได้มีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์เสียที ไม่ต้องตกอยู่ใต้อำนาจนอกระบบของใคร ที่คอยกดหัวประชาชนที่ไม่มีเส้นอย่างพวกเราไว้