นโยบายใต้ร่มเย็นในสมัยที่ “พล.ท.หาญ ลีนานนท์”เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 โดยมี “พ.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูรณ อยุธยา” เป็นผู้อำนวยการกองข่าว เป็นสมองอันสำคัญมีฝ่ายเสนาธิการอย่าง “พ.ต.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์” และมีฝ่ายปฏิบัติการอย่าง “พ.อ.สาโรช รบบำรุง” และนายทหารสำคัญอีกหลายท่านเกินจะกล่าวในที่นี้ด้วยนโยบายการเมืองนำการทหาร โดยเอาตัวอย่างการทำงานจาก “พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์” ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2ผลงานของกองทัพภาค 4 ในสมัยแม่ทัพหาญจึงประสบความสำเร็จ!หัวใจของการทำงานในสมัยนั้นที่ทำให้ใต้ร่มเย็น ก็คือ“เอกภาพการบังคับบัญชา” ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญประการหนึ่งในหลักการทางการบริหารไม่ว่าจะเป็นปรมาจารย์ทางด้านรัฐประศาสนศาสตร์คนใดก็ตาม จะต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ลูกน้องต้องมีนายคนเดียว” เพื่อป้องกันความสับสนในการปฏิบัติงานในสมัยนั้นบรรดาผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งหลาย ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผอ.ปค.จังหวัด ซึ่งขึ้นตรงต่อแม่ทัพภาคมีตำแหน่งเป็นผอ.ปค.ภาค (ผู้อำนวยการป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์)ภาคที่ 1 ก็คือ กองทัพภาคที่ 1 ไล่ไปจนถึง ผอ.ปค.ภาค 4คือ แม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งควบคุมบังคับบัญชา 14 จังหวัดในภาคใต้ ในสาย กอ.รมน.นั่นเองบรรดาความดีความชอบของผู้ว่าราชการจังหวัด ไล่ลงไปจนถึงนายอำเภอ แม่ทัพภาคจึงมีอำนาจเต็มที่มี“เอกภาพการบังคับบัญชา”แต่ในปัจจุบันนี้ “พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร” แม่ทัพภาคที่ 4มีเอกภาพการบังคับบัญชาหรือเปล่าผู้ว่าราชการจังหวัดทำความเคารพหรือกลัวแม่ทัพเลยต้องทำความเคารพก่อนผมเชื่อแน่ว่า...ความศักดิ์สิทธิ์ในตัวของแม่ทัพคนปัจจุบันเมื่อเทียบกับ แม่ทัพหาญ ลีนานนท์ ย่อมห่างไกลกันราวทะเลอันดามันกับทะเลสาบสงขลาทั้งๆ ที่สองท่านต่างก็เป็นลูกศิษย์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ซึ่ง “ป๋า” เองก็ยอมรับว่า ปัญหาของภาคใต้แก้ยากกว่าภาคอีสาน เพราะปัญหาที่นี่มีความสลับซับซ้อนกว่าภาคอีสานหลายเท่านักคำว่า “การเมืองนำการทหาร” ผมต้องขออธิบายความหมายให้ท่านผู้อ่าน และนักวิชาการที่แสดงความคิดเห็นทางโทรทัศน์ วิทยุ และสื่อต่างๆ ดังนี้“การปฏิบัติการอะไรก็ตามที่ไม่ใช่การทหาร” เราถือว่าคือการเมืองทั้งสิ้น...ที่ออกมาพูดว่า ต้องใช้มิติสังคมนำหรือเศรษฐกิจนำ แสดงว่าไม่เข้าใจความหมาย “การเมืองนำการทหาร”เพราะนาทีที่ “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” ผู้บัญชาการทหารบก ยึดนโยบายนี้จึงน่าถูกต้อง แต่พื้นที่สีแดง ท่านต้องใช้การทหารเป็นตัวนำ เขาใช้ปืนยิงมาเรามัวใช้แต่ปากก็ไม่ถูกเรื่องที่พูดมาทั้งหมด...ผมผิดหวัง “พรรคประชาธิปัตย์” ครับหวังว่ามาเป็นรัฐบาลแล้ว “ใต้น่าจะร่มเย็น” ด้วยเหตุผลเป็นคนใต้เป็นส่วนใหญ่...รู้ข้อมูลเวลาเป็นฝ่ายค้าน...เสนอโน่นนี่ให้รัฐบาลทำ วิพากษ์วิจารณ์พรรคตรงกันข้ามแหลกลาญพอ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี(ฝ่ายความมั่นคง) นึกว่าจะมีแนวทางของพรรคในการแก้ปัญหา 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไหนได้...เห็นเที่ยวขอเอกสารจาก “คลังสมอง” วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรกับสถาบันพระปกเกล้า เพื่อจะแก้ปัญหาอุตลุดไปหมดขืนปล่อยให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลไปนานๆ“พวกเราคงได้แก้ปัญหา 14 จังหวัดภาคใต้เป็นแน่” ■