วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

"แม้ว"เดินเครื่องดึงบิ๊ก ทรท.ร่วมทำทีวี100ช่อง ทาบพนง.ไอทีวี คุมข่าว-หัวกะทิ"ชินคอร์ป"เป็นช่างเทคนิค

ที่มา มติชนออนไลน์

คนสนิท"แม้ว"ตบเท้าร่วมปั้น"ทีวี100ช่อง" "อ๋อย"ยังลังเลยื่นเงื่อนไขต้องไม่เหมือนช่องเสื้อแดง ชวนอดีตพนง."ไอทีวี"ร่วมวง คาด"ประทีป"นั่งบก.ข่าว "ตวงพร"ขออยู่เบื้องหลัง คัดมือโปรจากชินคอร์ปเป็นมือเทคนิค หวังสร้างคะแนนนิยมทันเลือกตั้งใหม่


รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งถึงการเปิดทีวี 100 ช่อง ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อทำเรียลริตี้แก้จน ขายสินค้าโอท็อป และเป็นติวเตอร์เผยแพร่ในหลายประเทศ ว่า ขณะนี้ทีวีช่องดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการทดลองออกอากาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์ดีทีวี (จานเหลือง) มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วภายใต้ชื่อสถานี "Voice TV" ในช่วงเวลา 20.00-22.00 น โดยมีห้องส่งสัญญาณทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งในประเทศไทยอยู่ที่อาคารโกดักเก่า ริม ถ.วิภาวดี-รังสิต ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ได้ชักชวนอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน หลายคนเข้ามาร่วมงาน โดยเฉพาะการระดมสมองในเรื่องรูปแบบและเนื้อหา อาทิ นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช นายภูมิธรรม เวชยชัย นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายอดิศร เพียงเกษ นายสุธรรม แสงประทุม นายจำลอง ครุฑขุนทด นายยงยุทธ ติยะไพรัช และนายจักรภพ เพ็ญแข เป็นต้น ซึ่งบางคนยังลังเล เช่น นายจาตุรนต์มีเงื่อนไขว่าหากรูปแบบเน้นไปที่การเมืองเหมือนกับสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่น ก็คงจะไม่เข้าร่วม แต่อาจจะช่วยบ้างบางครั้งคราว เพราะแนวทางต้องการเน้นไปที่การทำงานด้านวิชาการเป็นหลักเพื่อเตรียมสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง


ข่าวแจ้งว่านอกจากนี้ยังมีการทาบทามอดีตพนักงานไอทีวี หลายคนเข้าร่วมทำงานในครั้งนี้ด้วย โดยคาดว่านายประทีป คงสิบ จะมาทำหน้าที่บรรณาธิการข่าว ส่วนน.ส.ตวงพร อัศววิไล นั้นจะทำงานอยู่เบื้องหลัง นอกจากนี้ยังมีมือโปรด้านเทคนิคที่คัดตัวมาจาก "ชินคอร์ป" มาช่วยงานอีกด้วย


สำหรับรูปแบบของทีวี 100 ช่องนั้น สถานีจะดำเนินการผลิตเองเพียงไม่กี่ช่อง ส่วนที่เหลือจะเป็นการเชื่อมสัญญาณมาจากเคเบิ้ลทีวีอื่น ซึ่งกำหนดไว้ว่าทีวี 100 ช่องจะต้องมีเนื้อหาครอบคลุมทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจ สังคม การเกษตร เทคโนโลยี วัฒนธรรม กีฬา และบันเทิง คาดว่าจะออกอากาศได้ต้นเดือน สิงหาคมนี้


ข่าวแจ้งว่า การวางยุทธศาสตร์ในระยะแรกจะเน้นไปที่การเผยแพร่เนื้อหาที่สามารถเห็นประโยชน์ได้ทันที ซึ่งก็คือ การศึกษา และการขายสินค้าโอท็อป เพื่อให้เห็นผลในระยะสั้น ก่อนที่จะสอดแทรกเนื้อหาทางการเมือง รวมถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทยลงไป โดยคาดว่าภายใน 1 ปีนี้หรือก่อนที่จะมีการหาเสียงเลือกตั้งครั้งใหม่ จะสามารถสร้างคะแนนนิยมให้กับพรรคเพื่อไทยได้