ครูกลอนแห่งแผ่นดิน พระสุนทรโวหาร (ภู่) หรือที่รู้จักกันในนาม สุนทรภู่ ได้รจนาเอาไว้อย่างไพเราะเพราะพริ้ง ว่า...“โบราณท่านสมมุติมนุษย์นี้ ชั่วแล้วดี ใหม่สำเร็จถึงเจ็ดหน”สะท้อนให้เห็นถึงความไม่เที่ยงแท้ ไม่จีรัง และขึ้นๆ ลงๆได้ตลอดเวลาของชีวิตคนเราถ้ามีแต่สุข ไม่ทุกข์ ไม่เหนื่อยเสียเลย ชีวิตจะมีรสชาติได้อย่างไร???แต่กับบางคนรสชาติของชีวิตพิสดารเกินจะพรรณนามีทั้งทุกข์ สุข สมหวัง ผิดหวัง พลาดพลั้ง มีเกียรติยศมีชื่อเสียง สารพัดสารเพจนไม่น่าเชื่อว่าชีวิตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะมีสีสันได้ขนาดนี้!!!จากเด็กนักเรียนโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยที่ใฝ่ฝันในเครื่องแบบจึงสอบเข้าเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 10 และเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 26 จนจบออกมาด้วยคะแนนที่ 1 ในรุ่นซึ่งน่าจะเพียงพอให้ชีวิตเติบโตอยู่ในเส้นทางราชการไปตลอดเหมือนชะตาฟ้าลิขิต ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับต้องมาเจริญเติบโตบนถนนธุรกิจแทน แม้ว่าในช่วงเริ่มต้นธุรกิจจะเดือดร้อนสาหัส ขาดทุนเป็นหนี้เป็นสินชนิด
ที่เป็นคนอื่นๆ อาจจะท้อไปแล้วแต่เพราะสู้ไม่ถอย ผลสุดท้ายจึงกลายเป็นความสำเร็จที่หอมหวนกับอาณาจักรหมื่นล้านแสนล้านบาท ในนาม “ชินคอร์ป”...ซึ่งกลายเป็นความสำเร็จที่นำมาทั้งความชื่นชม และความอิจฉาริษยาชีวิตพลิกอีกครั้ง เมื่อเห็นว่ารวยแล้วน่าจะทำอะไรเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองบ้าง จึงได้เดินเข้าสู่ถนนการเมือง...ที่ทำให้ชีวิตมีรสชาติพิสดารไปอีกแบบหนึ่งเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ เป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม เป็นรองนายกรัฐมนตรีจนสุดท้ายประสบความสำเร็จสูงสุด ได้เป็นนายกรัฐมนตรีถึง 2 สมัยติดต่อกันแต่แล้วความพลิกผันก็มาเยือนอีก เพื่อให้รู้รสชาติของชีวิตที่เข้มข้นให้มากขึ้น จึงต้องเจอรัฐประหาร 19 กันยา 49ที่ไม่เพียงทำให้ชีวิต พ.ต.ท.ทักษิณ เปลี่ยนไปแม้แต่การเมืองของไทยก็เปลี่ยนไปด้วยนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมายังดีว่ามีครอบครัวคอยให้กำลังใจมีมิตรแท้ที่คอยห่วงใย และมีคนมากมายที่ให้ความรักที่แท้จริงแม้ว่าชีวิต พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องระเห็จระเหเร่ร่อน หนีภัยการเมืองหนีภัยริษยา ทั้งจากคนที่เคยเป็นเพื่อน คนที่เคยเคารพยกย่องคนที่เคยรักเคยเอ็นดูให้เป็นคนข้างกาย แต่กลับกลายเป็นหอกข้างแคร่โอ้ว่านึกเสียดายตัวนักเพราะเชื่อลิ้นหลงรักจึงช้ำจิตจะออกชื่อลือชั่วไปทั่วทิศ...เมื่อพลั้งคิดผิดแล้วจะโทษใครชีวิตของ พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร จึงถือเป็นชีวิตของคนธรรมดาที่ไม่ธรรมดาจริงๆ■