วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

มีดีแค่ ‘ความหล่อ’

ที่มา บางกอกทูเดย์

หวิดตายน้ำตื้น...จึงต้องรีบนำ “งาช้าง” มาคืนท่าทีของนายกรัฐมนตรี “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”กรณีรับมอบงาช้างจาก “โสภณ ซารัมย์” ซึ่งราคาตามท้องตลาดในมูลค่าของ “งาช้าง” เชื่อได้ว่าย่อมต้องสูงเกินกว่า 3,000 บาทหากท่านนายกฯ รับไว้...โดยไม่นำไปคืนแน่นอนต้องเข้าข่าย “การกระทำผิด” ตามประกาศของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่ได้โดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ศ.2543เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า ท่านรัฐมนตรีรวมถึงทีมที่ปรึกษา “คนใกล้ชิด” ขาดความรอบคอบ...ซึ่งเป็น“คมหอกดาบ” ที่กลับมาทิ่มแทงตัวท่านเองเรื่อง “รับของขวัญ” บุคคลที่ดำรงตำแหน่งจะต้องรู้ว่าควรรับหรือไม่ควรรับซึ่งกรณีของ “อภสิ ทิ ธิ์ เวชชาชวีะ”ถือว่าเป็น “การรับสิ่งของ” ที่มีผลครบถ้วนสมบูรณ์แม้จะมีคนบางกลุ่มมองว่า นายกฯ อภิสิทธิ์ รับงาช้างไปแล้วย่อมเป็นความผิดเบ็ดเสร็จ แต่ก็ควรมองในแง่ของ “เจตนา” เป็นสิ่งควบคู่ประกอบกัน

แต่ก็อดคิดเปรียบเทียบไม่ได้กับกรณีของอดีตนายกรัฐมนตรี “สมัคร สุนทรเวช” ในขณะที่ท่านดำรงตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” ซึ่งมีคนนำ “นกเขา”มามอบให้ท่านได้ปฏิเสธทันทีว่า “รับไม่ได้” เพราะของสิ่งนั้นมีมูลค่าเกิน 3,000 บาทหรือแม้แต่สมัย “สมัคร” หาเสียงที่วัดสวนแก้ว...พระพยอม บอกว่า รับปากเรื่องพุทธศาสนาหน่อยได้ไหม“สมัคร” เอ่ยปากบอก รับอะไรไม่ได้เลย เพราะกฎหมายเขาไม่ให้นายกฯ อภิสิทธิ์ ได้สั่งให้มีการสืบราคา “งาช้าง”ซึ่งท่านกำลังดึงเวลาเพื่อรออะไร ในเมื่อ “งาช้าง”ของแท้มูลค่าสูงเช่นนี้มีใบทะเบียนจาก “กรมป่าไม้” ถูกต้องตามกฎหมาย...ด้วยเนื้อแกะสลักที่งดงาม ซึ่งตามเว็บไซต์ขายของออนไลน์มกี ารประกาศราคาขายไวท้ ปี่ ระมาณ “500,000 บาท”เผื่อเหลือเผื่อขาด...ให้ผู้ซื้อได้มีการ “ต่อรองราคา”ทั้ง 2 กรณีในระดับ “ผู้นำประเทศ” ทั้ง 2 คน...เป็นการตอกย้ำทิ่มแทง “หัวใจคนไทย” ว่า ประเทศนี้เมืองนี้ไม่ได้เป็นระบบ “2 มาตรฐาน” อีกต่อไปแต่มันเป็นประเทศที่ไร้ซึ่งมาตรฐาน!งานนี้ “พ่ออุ้มบุญ” ทั้งหลายที่อุ้มชู...เชิดชูนายกรัฐมนตรี “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” คงต้องนั่งเอาเท้าก่ายหน้าผาก...มีปัญหาให้ขบคิดกันอีกแล้วกระดูกยังไม่แข็ง...แต่ก็ดันทุรังให้โดนลากมานั่งเก้าอี้ “ผู้นำประเทศ”เวลานี้ “ผู้เฒ่าผู้แก่” นั่งหัวร่องอหายจน “ฟันปลอม”แทบหลุด...มีดีแค่เรื่อง “ความหล่อ” แต่ผู้เฒ่าบอก“ไม่นิยม”ชั่วชีวิตนี้...เห็นประเทศที่เจริญแล้วทำความยุติธรรมให้เป็นกฎหมาย แต่นี่กระไร “หนุ่มหล่อ” ผู้นี้กลับทำกฎหมายให้เป็นความยุติธรรม ■