กรณีผลพวงอันเนื่องมาจากการเลือกตั้งซ่อมนายกองค์การบริหารสวนจังหวัดที่ จ.สุราษฎร์ธานี คอการเมืองตั้งคำถาม
ถึงความมั่นคงทางการเมืองของ รองนายกฯสุเทพ เทือกสุบรรณ ถูกสั่นคลอนหรือไม่ เพราะการกลับมาเป็นขั้วในการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ บวกกับเหตุการณ์บางเหตุการณ์ของวิกฤติการเมือง
รองนายกฯสุเทพมีศัตรูถาวรเพิ่มขึ้นเยอะ
อันที่จริง ความขัดแย้งระหว่าง ส.ส.ของประชาธิปัตย์ในภาคใต้ ที่ไปสนับสนุนการเมืองท้องถิ่นนั้นมีมานานพอสมควร แต่ก็เป็นเรื่องของการเมืองท้องถิ่น ประชาธิปัตย์พยายามที่จะไม่เอามาเป็นเรื่องเป็นราวให้กระทบกับการเมืองสนามใหญ่
กระนั้นก็ดี บางพื้นที่ในบางจังหวัดที่มีความขัดแย้งค่อนข้างจะรุนแรงจนกระทั่งทำให้ นักการเมืองระดับประเทศบางคนต้องผันตัวเองไปเล่นการเมืองท้องถิ่น อย่างน้อยก็เพื่อรักษาพื้นที่และสถานภาพทางการเมืองของตัวเองเอาไว้ ทำอย่างไรได้เมื่อมีแค่ ประชาธิปัตย์พรรคเดียวในภาคใต้
ที่ผ่านมาการแพ้ชนะทางการเมืองเป็นเรื่องธรรมดา แต่วันนี้ไม่ใช่ การเมืองเล่นกันเอาเป็นเอาตาย ดังนั้น การแพ้ชนะเลือกตั้งซ่อมนายกฯ อบจ.ที่สุราษฎร์ธานีครั้งนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องของพรรคเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการท้าทายรองนายกฯสุเทพทั้งจากคนในพรรค ทั้งจากพรรคการเมืองคู่แข่ง ทั้งจากสีแดงและสีเหลือง จับมือกันสั่งสอนรองนายกฯสุเทพถึงในบ้านตัวเอง และ
พยายามที่จะทำให้เห็นว่าการเมืองไม่มีใครสามารถผูกขาดได้
อย่าลืมว่า ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีมี ตระกูลดังนักการเมืองอยู่หลายตระกูล ในจำนวนนั้นก็มี ตระกูลวิชัยดิษฐ อยู่ด้วย และคนในตระกูลวิชัยดิษฐวันนี้ มีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้าพรรคการเมืองและเป็นพรรคการเมืองคู่ต่อสู้ของพรรคประชาธิปัตย์
ถ้อยคำปรามาสที่รองนายกฯสุเทพพูดถึงคนในตระกูลวิชัยดิษฐ ทำนองท้าทาย ให้มาลงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ย่อมสร้างความรู้สึกที่ไม่ดีเกิดขึ้น
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า
ระยะหลังมานี้มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ในทำนองว่า รองนายกฯสุเทพไม่ยอมฟังคนในพรรค ข้ามาคนเดียว ยกตัวอย่างแม้แต่เรื่องการลาออกจาก ส.ส.นั่นปะไร ไม่ปรึกษาหารือ ใครเลย
ถึงขนาดมีการประเมินด้วยซ้ำว่า ระหว่างแนวทางการเมืองของรองนายกฯสุเทพวันนี้กับแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ดั้งเดิม ระหว่างจุดยืนของรัฐบาลวันนี้กับจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ปฏิบัติกันมานาน
จะยึดอะไรเป็นหลัก
เชื่อกันว่าในระยะยาวถ้าประชาธิปัตย์ยังถูลู่ถูกังไปอย่างนี้ จะหมดอนาคตเอาง่ายๆ ทางหนีทีไล่กับอนาคตทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์กับรองนายกฯสุเทพมีความแตกต่างอยู่ตรงที่รองนายกฯสุเทพล้มได้ แต่ประชาธิปัตย์ล้มไม่ได้ ขึ้นอยู่กับว่าจะแก้ปมการเมืองตรงนี้อย่างไรก่อนที่จะถูกรุมสกรัม.
หมัดเหล็ก
วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
ทั้งเหลืองทั้งแดง
ที่มา ไทยรัฐ