วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2552

จักรภพ:วางกรอบให้ดี-คดีหมิ่นฯ

ที่มา Thai E-News


กรรมการสมาคมสโมสรนักข่าวต่างชาติในไทย-กรรมการ13รายของFCCTที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีเป็นนักข่าวจากหลายสำนักที่มีชื่อเสียงระดับโลกเช่น บีบีซี บลูมเบิร์ก วอลล์สตรีทเจอร์นัล บิสสิเนสไทม์ส เป็นต้น

โดย จักรภพ เพ็ญแข
ที่มา คอลัมน์ “ผมเป็นข้าราษฎร” หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์วิวาทะ Thai Red News ปีที่ 1 ฉบับที่ 9

เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นการเล่นการเมืองแบบไทยรัตนโกสินทร์ หวังผลกันเพียงเท่านั้น แต่ผลแห่งการกระทำกำลังบานปลายกลับมาหาต้นตออย่างชนิดคุมไม่ได้ เพราะทำให้โลกหันมาสนใจในเรื่องไม่เป็นเรื่องและกลาย “เป็นเรื่อง” ขึ้นมาจากการกระทำของตัวเอง


สมัยหนึ่ง การถูกกล่าวหาว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเป็นเรื่องรุนแรงขนาดชีวิตล่มสลาย พี่น้องเพื่อนฝูงตัดขาด หมดอนาคตการงานอาชีพ มองหน้าตัวเองในกระจกไม่ได้ แต่วันนี้หลายอย่างเปลี่ยนไป

น่าจะเป็นเพราะใช้ข้อกล่าวหานี้กันอย่างพร่ำเพรื่อ ไม่ถูกใจใครก็โยนคดีหมิ่นฯ เข้าใส่ หาเรื่องใครไม่ได้ก็ใช้คดีหมิ่นฯ ทำลายเขา จนเกิดคดีประเภทนี้ขึ้นมากมายในบ้านเมือง ผิดกับสมัยก่อนที่นานๆ จะได้ยินกันสักครั้งและเป็นเรื่องโด่งดังแทบจะทุกกรณี

ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ถูกกล่าวหาอย่างนั้น รู้ด้วยประสบการณ์ตนเองทีเดียวว่าเขาใช้เรื่องนี้ทำลายกันอย่างไรได้บ้าง วันหนึ่งจะเขียนให้ได้อ่านกันโดยละเอียดในทำนองกรณีศึกษา แต่ในขณะที่ตั้งใจนั่งดูเงียบๆ ว่าจะเลอะเทอะกันขนาดไหน ก็ได้เห็นความเลอะเทอะในระดับที่ไม่น่าเชื่อ วันนี้คงต้องพูดเรื่องนี้สักคำสองคำ ก่อนที่บ้านเมืองนี้จะแหกโค้งลงข้างทางชนิดกู่ไม่กลับ

วันนี้ถึงขั้นแจ้งความดำเนินคดีกับคณะผู้สื่อข่าวต่างประเทศในประเทศไทยว่าร่วมกันกระทำการที่ถือว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกันแล้วครับ

คนแจ้งเป็นผู้หญิงอายุ ๕๗ ปีคนหนึ่งที่มีอาชีพเป็นล่าม

ประเด็นของเรื่องก็โยงกลับมาที่ผม ผมถูกกล่าวหาจากคำบรรยายทางวิชาการภาษาอังกฤษในปี พ.ศ.๒๕๕๐ ณ สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย หรือ The Foreign Correspondents’ Club of Thailand ซึ่งต่อไปจะเรียกตามชื่อย่อของเขาว่า FCCT ผิดหรือไม่ขึ้นอยู่กับความเพี้ยนของการเมืองไทยกับ “กระบวนการยุติธรรม” ประเภทรับใช้เผด็จการ ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรนักหรอกครับ

ใครไปบรรยายให้เขา ซึ่งเป็นเรื่องฟรี ไม่มีเงินทองเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด FCCT ก็จะบริการสมาชิกด้วยการผลิตแผ่น DVD หรือ VCD ให้ในภายหลังเมื่อมีผู้ร้องขอ สนนราคาราคาอย่างไรก็ไม่รู้

ตรงนี้ล่ะครับที่อุตส่าห์ลากสังขารตัวเองไปแจ้งความดำเนินคดีว่า เขาร่วมมือกับผู้บรรยายคือตัวผมในการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทั้งที่เขาทำอย่างนั้นมาทุกครั้งกับผู้บรรยายทุกคนอยู่แล้ว

ความตั้งใจของผู้แจ้งที่จะสร้างภาพว่าเรื่องนี้ทำกันเป็นขบวนการ จึงเป็นเรื่องตลกขบขันทั่วเมืองไทยและในระดับโลก มีสื่อสองสำนักเท่านั้นที่รายงานข่าวอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ได้แก่ ผู้จัดการ และ เนชั่น ซึ่งเห็นชื่อแล้วก็ต้องหัวเราะเป็นภาษาฝรั่งเศส ที่ฉลองวันคุกบาสติลล์แตกไปเมื่อไม่กี่วันนี้ สื่ออื่นรายงานบ้างไม่รายงานบ้าง และส่วนใหญ่ก็รายงานผิวเผินเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นการเล่นการเมืองแบบไทยรัตนโกสินทร์ หวังผลกันเพียงเท่านั้น

แต่ผลแห่งการกระทำกำลังบานปลายกลับมาหาต้นตออย่างชนิดคุมไม่ได้ เพราะทำให้โลกหันมาสนใจในเรื่องไม่เป็นเรื่องและกลาย “เป็นเรื่อง” ขึ้นมาจากการกระทำของตัวเอง

ทำไมจะไม่ “เป็นเรื่อง” ล่ะครับ ดูสิว่าเขาดึงใครเข้ามาสู่เกมการเมืองส่วนตัวเที่ยวนี้บ้าง

มาร์วาน มาคาน-มาร์คาร์ จากสำนักข่าวอินเตอร์เพรสส์, โจนาธาน เฮด สำนักข่าวบีบีซี, แพทริก บาร์ธา หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลล์ นอกจากนั้นยังมีตัวแทนหนังสือพิมพ์สเตรทไทม์, สำนักข่าวโกลบอลสเปคตรัม, แชนนัลนิวส์เอเชีย, หนังสือพิมพ์บิสสิเนสไทม์, คอนซอร์เทียมยูเค, สำนักข่าวบลูมเบิร์ก


นั่นแค่ส่วนหนึ่งนะครับ

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่จะผ่านไปราวสายลมเสียแล้ว ไม่ใช่เพราะผู้สื่อข่าวต่างประเทศเหล่านี้อยู่เหนือกฎหมายไทย หรือสำคัญขนาดที่ใครแตะต้องไม่ได้ แต่เพราะเรื่องที่กล่าวหาเขามันตลกขบขันจนไม่น่าเชื่อว่าคนที่อ้างความจงรักภักดีต่อสถาบันตลอดทั้งวันอย่างคนที่แจ้ง จะกระทำการอันสุ่มเสี่ยงต่อภาพลักษณ์ของสถาบันและประเทศไทยขนาดนี้ได้

เขาไม่รู้เชียวหรือว่า สื่อมวลชนต่างประเทศเขารายงานข่าวเมืองไทยในฐานะหนึ่งในสองร้อยกว่าประเทศของโลก เขาไม่ได้เห็นว่าเมืองไทยเป็นศูนย์กลางของโลกขนาดผู้มีอำนาจของไทยจะเกิดแก่เจ็บตายอย่างไรเขาจะต้องชักกระตุกตายตามไปด้วย แล้วใครมันจะมานั่งวางแผนทำลายประเทศไทยโดยใช้ข้อมูลข่าวสาร เรื่องนี้เพียงตรรกะก็ผิดแล้ว

แถมการกระทำของเขายังไม่ได้ชี้ว่ามีเจตนาจะกระทำความผิดตามมาตรา ๑๑๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยภายใต้คณะเผด็จการ คมช. อีกด้วย

เขาก็ยิ่งขำกันใหญ่

ไม่น่าแปลกใจที่สื่อมวลชนโลกเขาดูแคลนในเรื่องนี้มาก ไม่ต้องดูไกลหรอกครับ เอาแถลงการณ์ของสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน (FCCC) มาอย่างเดียวก็ชัดเจนแล้ว:

ข้อกล่าวหาต่อ FCCT ไทยน่ากังวล

สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน (FCCC) รู้สึกตกใจเมื่อทราบข่าวว่า คณะกรรมการทั้งหมดของ FCCT ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งเป็นอาชญากรรมอันมีโทษจำคุกถึง ๑๕ ปี

เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าสอบสวนกรรมการทั้ง ๑๓ คนหลังจากมีผู้ร้องเรียนในกรณีที่มีการจำหน่าย DVD คำบรรยายต่อ FCCT โดยอดีตรัฐมนตรีผู้หนึ่ง คำบรรยายนี้เกิดเมื่อ ๒ ปีมาแล้ว

นี่คือเรื่องที่น่ากังวล เพราะกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของไทยถูกนำมาใช้มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น โจนาธาน เฮด ซึ่งเป็นกรรมการ FCCT และเป็นผู้สื่อข่าวของ BBC ก็ถูกกล่าวหาในลักษณะที่คล้ายกัน

“สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศจีนขอเรียกร้องให้ทางการไทยแสดงความเคารพต่อเสรีภาพสื่อมวลชน และสร้างความมั่นใจว่าสื่อมวลชนสามารถทำงานได้โดยปลอดจากพันธนาการทุกอย่าง” ประธาน FCCC สก็อตต์ แม็คโดนัลด์ กล่าวในที่สุด.


************************

ปัญหาคือเรื่องขำขันของวันนี้ จะกลายเป็นเรื่องจริงจังขึ้นมาวันไหนเท่านั้น?

-----------------------------------------
TPNews (Thai People News): ข่าวสารสำหรับผู้รักประชาธิปไตย เที่ยงตรง แม่นยำ ส่งตรงถึงมือถือทุกวัน สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน พิมพ์ PN ส่งมาที่เบอร์ 4552146 ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน (เฉพาะ DTAC 30 บาท/เดือน)
Call center: 084-4566794-6 (จ.- ศ. 9.30-17.30 น.)