วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เรื่องที่ไม่ได้พูด

ที่มา บางกอกทูเดย์

“ผมต้องขอบใจ ท่านพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรแี หง่ ประเทศไทย อดตี ผบู้ ญั ชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารสูงสุด..ที่ให้ความกรุณาไปพบปะเยี่ยมเยียนประเทศกัมพูชาและนายกรัฐมนตรี สมเด็จฯ ฮุน เซน..ผมคิดว่าการพบปะกันระหว่างบุคคลสำคัญทั้ง 2 ท่านนั้นจะยังประโยชน์ให้กับประเทศเราทั้งสอง ซึ่งมีพรมแดนติดต่อกันยาวไกล และมีประชาชนที่ไปมาหาสู่กันตลอดพรมแดนของประเทศเราทั้งสอง และมีการลงทุนร่วมกันมากมายในภาคเศรษฐกิจในฐานะสมาชิกพรรคฝ่ายค้านไม่ทำให้การมองผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างชาติทั้งสองหรือทั้งสองชาติจะต้องมีความแตกต่างกัน เพราะเราต่างก็เป็นคนไทยด้วยกัน และต้องทำงานให้กับประชาชนคนไทยไมตรีระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา ความเป็นพี่เป็นน้องระหว่างประชาชนสองชาติ เป็นความสำคัญสูงสุดทั้งในวันนี้และในวันพรุ่งนี้สมาชิกพรรคการเมืองทุกพรรคในประเทศไทย ย่อมมีภาระหน้าที่อันเดียวกัน เป็นกระบวนการอันศักดิ์สิทธิ์เป็นภารกิจหนึ่งเดียวกัน เพราะท่านทั้งหลาย คือผู้แทนปวงชนชาวไทยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและเป็นผู้รับใช้ประชาชนชาวไทยด้วยเหตุดังกล่าว ผมในฐานะนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย..อยากจะชี้แจงไปยังรัฐบาลกัมพูชาและมิตรประเทศทั้งหลายว่า..คดีความของอดีตนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยนั้น เป็นไปตามบทบัญญัติอันเป็นปัจจุบันของประเทศไทยเป็นขั้นตอนของ อำนาจตุลาการ ที่ฝ่ายบริหารมิสามารถก้าวล่วงเข้าไปได้ การดำเนินการของฝ่ายบริหาร จึง

เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดส่วนการจะได้รับความร่วมมือใดๆ นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละประเทศซึ่งอาจจะเหมือนกันหรือแตกต่างกันและถึงแม้ว่าฝ่ายค้านจะได้มาเป็นรัฐบาล นายกรัฐมนตรีคนใหม่และข้าราชการทั้งหลาย ก็จะต้องปฏิบัติในสิ่งเดียวกันเพราะรัฐบาลก็จะต้องปฏิบัติภายใต้กฎหมาย ตราบเท่าที่ความผิดต่ออำนาจตุลาการ ยังปรากฏและดำรงอยู่สำหรับการประชุมระหว่างชาติที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพและประสพกบั ความยงุ่ ยากมากมายนนั้ เปน็ เพราะประเทศไทยมีความยุ่งเหยิงทางการเมือง ซึ่งรัฐบาลกำลังพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะทำการบำบัดและแก้ไขแต่เนื่องจากเป็นเรื่องที่สะสมต่อเนื่องกันมาอย่างยาวนานจึงต้องใช้เวลาและความอดกลั้นอดทน รัฐบาลของแต่ละประเทศย่อมมีภารกิจมากมายในยุคที่โลกกำลังถดถอยครั้งใหญ่ในทางเศรษฐกิจ..ความพร้อมเพรียงในเรื่องเวลาจึงเป็นปัญหาใหญ่..รัฐบาลจึงขอแสดงความขอบคุณกับมิตรประเทศทั้งหลายที่กรุณาสละเวลาให้กับการประชุมและขอแสดงความเสียใจกับเหตุที่คาดไม่ถึงทั้งหลาย ไว้ ณ โอกาสนี้ในท้ายที่สุดนี้ ผมในฐานะนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยขอขอบคุณประชาชนทุกกลุ่มฝ่าย ที่ให้ความร่วมมืออย่างดียิ่งที่ทำให้การประชุมที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพได้จบลงอย่างดียิ่งขอขอบคุณต่อพรรคฝ่ายค้านกับการเป็นเจ้าภาพร่วมกันในนามของประเทศไทย..สวัสดี ครับ” 